AI Marketing คืออะไร สำคัญต่อการทำการตลาดอย่างไร  34

คำสำคัญ : AI  Marketing  ผู้ประกอบการ  

AI Marketing คือ การนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาประยุกต์ใช้กับการทำการตลาดและช่วยในการตัดสินใจตั้งแต่เรื่องง่าย ๆ ไปจนถึงเรื่องที่ซับซ้อน โดยอิงจากการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการสังเกตกลุ่มเป้าหมายหรือแนวโน้มทางเศรษฐกิจในรูปแบบต่าง ๆ

AI Marketing ยังช่วยวิเคราะห์ผลลัพธ์และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาด โดยการเก็บข้อมูลจากแคมเปญการตลาดที่เราส่งออกไปหาลูกค้า เช่น การปรับแต่งข้อความให้เหมาะสม การเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับแคมเปญการตลาด การคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้า ช่วยให้นักการตลาดประหยัดเวลาในบางส่วนลงและบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น

จุดเด่นของ AI Marketing

อัตราการใช้งานที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงมูลค่าตลาดที่ก้าวหน้า

1.ช่วยให้การตลาดแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายแม่นยำยิ่งขึ้น

Personalize Marketing มีจุดเด่นด้วยการนำเสนอขายสินค้าและบริการที่ “เหมาะ” กับลูกค้าทีละรายแบบเจาะลึก ช่วยให้การโฆษณาดังกล่าวได้ผลดีมากยิ่งขึ้น เมื่อมีการใช้ AI มาประกอบยิ่งทำให้การตลาดรูปแบบดังกล่าวส่งผลดียิ่งขึ้นไปอีก

2.มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอและรวดเร็ว

AI มีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอและรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานของผู้คนการพัฒนานี้ยังรวมไปถึงมุมของการ “เรียนรู้” ที่ AI จำเป็นจะต้องมีการอัปเดตตัวเองตลอดเวลา เปิดรับข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความเฉียบคมในการทำงาน ทำให้ยิ่งเวลาผ่านไป AI มีโอกาสที่จะสร้างงานที่ดียิ่งขึ้นได้

3.สามารถช่วยทำการตลาดได้ตลอด 24ชั่วโมง

เรื่องนี้เป็นสุดยอดจุดเด่นที่ สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมง ทำให้องค์กรสามารถใช้กำลังคนไปทำหน้าที่อื่นๆ ได้ โดยปล่อยให้ AI รับมืองานซ้ำๆ อย่างการตอบคำถามลูกค้า หรือการตรวจสอบข้อมูลคอนเทนต์ต่างๆ แทน

4.สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายขึ้นอยู่กับธุรกิจ

AI ไปได้ทุกที่ สามารถผสานเข้ากับทุกธุรกิจ โดยเฉพาะในมุมของการขาย คุณลองนึกสภาพการมีพนักงานขายจำนวนมากที่พร้อมจะเปลี่ยนรูปแบบการขายทันทีที่คุณสั่งการ หรือพร้อมปรับเปลี่ยนโปรโมชันต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากที่สุดโดยไม่เกี่ยงหมวดหมู่ดูสิครับ AI จะเป็นพนักงานขายคล้ายๆ แบบนั้นเลย

 

AI Marketing สามารถช่วยขับเคลื่อนการตลาดในอนาคตสามารถขับเคลื่อนได้หลายวิธี ประกอบด้วย

 

1. การทำงานอัตโนมัติ

AI สามารถสร้างกระบวนการทำงานของการตลาดแบบอัตโนมัติ (Marketing Automation) ได้หลายอย่าง เช่น การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing), การตลาดบนช่องทางโซเชียลมีเดีย (Social Media Marketing) ซึ่งจุดนี้เราสามารถนำ AI มาทดแทนและช่วยงานของมนุษย์ได้ เช่น แชตบอต ตอบคำถามลูกค้านอกเหนือจากเวลาทำการปกติ เหมาะอย่างมากสำหรับธุรกิจที่ต้องเปิดบริการตลาด 24 ชั่วโมงหรือธุรกิจที่ต้องการยกระดับความมืออาชีพให้สามารถตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็วตลอดเวลารวมถึง การจัดการโฆษณา (Ad Management) ซึ่งสามารถช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้กับทีมการตลาด โดยไปมุ่งเน้นกับการสร้างกลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น

2. ความสามารถในการทำนายลูกค้า

AI สามารถใช้เพื่อทำนายพฤติกรรมและระบุแนวโน้มของลูกค้าจากการเก็บข้อมูลโดยรวมทั้งหมด ซึ่งข้อมูลนี้สามารถนำมาวิเคราะห์ เพื่อปรับปรุงแคมเปญการตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการและช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจบางอย่างได้ง่ายขึ้น

3. การสร้างสรรค์ Content

AI สามารถช่วยในการสร้างสรรค์ Contentและไอเดียใหม่ ๆ หรือ Generative AI ที่จะช่วยออกแบบการสนทนา เรื่องราว รูปภาพ วิดีโอ และเพลง ในการโพสต์ลงบล็อกของเว็บไซต์ โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย และการทำโฆษณาต่าง ๆ ช่วยให้ทีมการตลาดสามารถผลิตคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4. มีการปรับแต่งที่เฉพาะตัว

AI สามารถปรับแต่งข้อความทางการตลาด เนื้อหา และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย (Personalized) ซึ่งสามารถทำได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เช่น ประวัติการซื้อสินค้าในอดีต พฤติกรรมบนเว็บไซต์และกิจกรรมต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดีย

 

 โครงการสร้างและพัฒนาวิสาหกิจในระยะเริ่มต้น หรือ University Business Incubatorหรือ UBI ได้มีนักศึกษาที่ผ่านการบ่มเพาะสู่ความเป็นผู้ประกอบการได้มองเห็นโอกาสในการทำการตลาดด้วย AIเกิดเป็นธุรกิจให้ความช่วยเหลือด้านการตลาดในนาม Kollective ที่เป็น ธุรกิจด้าน Digital and AI Marketing ที่ใช้เครื่องมือ Digital ในการวิเคราะห์ข้อมูลทั้ง Wise sight Mandala Survey Monkey Google Analysis และ Google Trends และ ระบบ AI เฉพาะที่เป็น featureเฉพาะ ที่ใช้ชื่อว่า Kolify และยังมี featureเสริม เป็น Kolor และ Kommerce ช่วยสนับสนุนการทำการตลาดยุค Digital อีกด้วย สามารถสร้างรายได้มากกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ระหว่างการเป็นนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ ของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย            ทั้งยังการันดียอดขายของลูกค่า ไม่ต่ำว่า 1.5 เท่าของเงินลงทุน

 

ลักษณะความเป็นนวัตกรรมที่ใช้ความรู้เป็นฐานของผลิตภัณฑ์และบริการ ของ Kollective
   1) มีระบบการติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์การทำการตลาด โดยสร้างระบบ Big data ขนาดใหญ่ ในการเก็บข้อมูล และหาข้อมูลความสำคัญของแต่ละแคมเปญ และสร้าง Dashboard ในการวิเคราะห์ผลลัพธ์และแนวโน้มจากการทำการตลาดครั้งก่อนได้

   2) แพลตฟอร์มการสร้างแคมเปญการตลาด จากการพัฒนาระบบ Data scoring และ AI ในการหาความสัมพันธ์ระหว่าง Influencer และกลุ่มธุรกิจนั้นๆ เพื่อแนะนำการทำแคมเปญสำหรับกลุ่ม SME ให้ใช้งานง่ายและเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด โดยเป็นเครื่องมือที่ใช้ Data เข้ามาช่วยการทำแคมเปญตั้งแต่การวางกลยุทธ์ คัดเลือก Influencerจนถึงการวัดผลอย่างเป็นระบบ


เขียนโดย : นายทินกร  รสรื่น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : tinnakorn.r@mhesi.go.th