Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
										
										 คุณ IQ สูงกว่าคน 98 เปอร์เซ็น เมื่อ 100 ปีที่แล้ว (ความสำคัญของการฝึกทักษะในเชิงกว้าง)  317
คุณ IQ สูงกว่าคน 98 เปอร์เซ็น เมื่อ 100 ปีที่แล้ว (ความสำคัญของการฝึกทักษะในเชิงกว้าง)  317 		
									
								
																	
									 คุณ IQ สูงกว่าคน 98 เปอร์เซ็น เมื่อ 100 ปีที่แล้ว (ความสำคัญของการฝึกทักษะในเชิงกว้าง)  317
คุณ IQ สูงกว่าคน 98 เปอร์เซ็น เมื่อ 100 ปีที่แล้ว (ความสำคัญของการฝึกทักษะในเชิงกว้าง)  317 		
									บทความนี้ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วของผม
ในบล๊อกนี้ผมจะขอนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจในหนังสือเรื่อง Range : วิชารอบรู้
(หนังสือที่ช่วยปลอบประโลมคน Self doubt แบบผมได้ดีมาก)
เริ่มกันเลย
	
ทุกคนอาจจะเคยเห็นหรืออาจจะเคยทำแบบทดสอบข้างบนนี้มาก่อรบ้างแล้ว
แต่อาจจำไม่ได้ได้ว่าเคยเห็นมาจากไหน
.
.
.
ใช่แล้วครับ มันอยู่ในแบบทดสอบการวัดระดับ IQ
ชื่อของมันคือ Ravan's Progression Metrices
ซึ่งหน้าที่ของมันคือทำพยายามวัดความสามารถในการเข้าใจสิ่งที่ซับซ้อนของคนว่ามีมากน้อยเพียงใด
ลักษณธของคำถามจะเป็นอย่างที่เห็นคือจะมีการแสดงลำดับของรูปนามธรรม (Abstract)
และให้เราหาคำตอบในส่วนรูปที่หายไป
.
.
.
แบบทดสอบเรเวนนี้ถือเป็นแบบทดสอบชั้นยอดที่ "ไม่อิงวัฒนธรรม" ใดๆเลย
จึงถือว่าสากลมากๆ ในการใช้วัด IQ
(ถ้ามีมนุษย์ต่างดาวบุกโลก แบบทดสอบนี้ก็คงเหมาะสุดที่จะวัดว่าไอ่ตัวนั้นมันฉลาดประมาณไหน)
.
.
.
ปี 1981 มีนักรัฐศาสตร์ขี้สงสัยคนนึงชื่อ Jame Flynn
ได้เริ่มงานวิจับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการได้อ่านข้อมูลผลการศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง
IQ ทหารสงความโลกครั้งที่ 1 VS IQ ทหารสงครามโลกครั้งที่ 2
ผลคือคะแนนที่เปอร์เซ็นไทด์ที่ 50 ของทหารสงครามโลกครั้งที่ 1
เท่ากับเปอร์เซ็นไทด์ที่ 22 ของทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2
.
.
.
เขาสงสัยว่าปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทั่วโลกเหมือนๆกันรึป่าว
เขาจึงเริ่มส่งจดหมายหานักวิจัยทั่วโลกเพื่อหาข้อมูลในแนวๆเดียวกันนี้
ไม่กี่เดือนต่อมา เขาก็ได้รับจดหมายส่งมาจากนักวิจัยชาวดัตส์
ในจดหมายเป็นข้อมูลผลทดสอบ IQ ของชายหนุ่มชาวดัตส์ข้ามรุ่นจำนวนมาก
โดยวิธีการใช้แบบทดสอบเรเวนนี้เอง
.
.
.
ข้อมูลแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบคะแนนแบบข้ามรุ่น
และที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ จริงๆแล้วแบบทดสอบนี้ถูกปรับให้ยากขึ้นทุกปี
เพื่อให้คะแนนเฉลี่ยนเป็นเส้นโค้งปกติ (Normal Curve) แต่ถึงอย่างนั้น คะแนนเฉลี่ยก็สูงขึ้นอยู่ดี
.
.
.
ภายหลังที่ฟลินน์ได้ตีพิมพ์เรื่องนี้ในปี 1987 ปรากฏการณ์นี้ถูกเรียกว่า Flynn Effect
ที่โดยเฉลี่ยแล้ว IQ ของคนจะสูงขึ้น 3 คะแนนทุก 10 ปี
(หมายความว่าถ้าคุณมี IQ เท่ากับค่าเฉลี่ยของวันนี้ คุณฉลาดกว่าอีก 98 เปอร์เซ็น ของคนเมื่อ 100 ปีที่แล้ว)
.
.
.
ตัวอย่างที่น่าสนใจอีกอย่างนึงคือ การศึกษาผลการทดสอบระดับชาติของเอสโตเนีย
เปรียบเทียบระหว่างปี 1930 และ ปี 2006 พบว่า
คะแนนด้านความรู้ทั่วไป เรขาคณิต คำศัพท์ คะแนนไม่ได้พัฒนาเพิ่มขึ้นต่างกันมากนัก
แต่คะแนนที่เป็นคำถามเชิงนามธรรมกลับมีคะแนนสูงขึ้นอย่างเด่นชัด
.
.
.
เด็กสมัยใหม่ ไม่ได้เข้าใจคำว่า "แม่ไก่,การกิน,การเจ็บป่วย" ได้ดีกว่ารุ่นปู่ ย่า
แต่ถ้าเป็นคำที่แสดงถึงความคิดเชิงนามธรรมอย่าง " กฎหมาย,คำปฏิญาณ,พลเมือง"
กลับกลายเป็นว่าพวกเขาเข้าใจมากกว่าหลายเท่า
.
.
.
ความจริงแล้ว ในหนังสือมีตัวอย่างอีกมากมายที่สนับสนุนข้อสรุปที่ผมจะขอยกมาต่อจากนี้
เพื่อที่จะไม่ทำให้ยาวเกินไป
.
.
.
ฟลินน์ได้สรุปว่า สิ่งที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ คือการใช้ความคิดเชิงนามธรรม แทนที่การใช้ความคิดเชิงวัตถุ
ที่เขาตั้งชื่อให้มันว่า "การมองผ่านแว่นตาวิทยาศาสตร์"
.
.
.
กล่าวคือ แทนที่จะมองผ่านประสบการณ์ตรงของตัวเอง เราเข้าใจความจริง ผ่านกรอบความคิดแบบแยกประเภท ใช้แนวคิดเชิงนามธรรมเป็นชั้นๆ เพื่อเข้าใจความสัมพันธ์ของข้อมูลมากกว่า 1 ชุด
.
.
.
ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในโลกสมัยใหม่ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
หรือการแก้ปัญหาแบบโหดร้าย (wicked problem)
.
.
.
ดังนั้น วคามเชี่ยวชาญในสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นจำเป็น แต่การการที่มีทักษะเชิงกว้างนั้น อาจมีประโยชน์ในการแก้ปัญหาแบบที่
ไม่มีความตายตัว ไม่มีแบบแผน ไม่มีรูปแบบที่แน่นอนได้ จากคลังประสบการณ์ที่กว้างนั่นเอง
.
.
.
การฝึกฝนในเชิงกว้าง นอกเหนือความเชี่ยวชาญของตนเองนั้น
อาจไม่ได้หมายถึงการให้นักศึกษาเอกตอมพิวเตอร์ ต้องศึกษาประวัติศาสตร์ศิลป์ด้วยทุกคน
แต่คือการที่ว่า เราทุกคนควรมีนิสัยการคิดที่พร้อมจะก้าวข้ามแวดวง สาขาที่เราเชี่ยวชาญ
เพื่อมองหามุมมองที่กว้างมากขึ้น
- Jame Flynn-
.
.
.
มาถึงตรงนี้ตงต้องบอกว่าการเป็นเป็ดอาจทำให้คุณได้เปรียบ
ในบางหน้างานด้วยซ้ำไป
.
.
.
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ณัฐพล
 เครือข่ายส่งเสริมธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม
						กปว.#
						 เครือข่ายส่งเสริมธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม
						กปว.#