2568 Soft power นวัตกรรมผ้าทออีสาน : โครงการยกระดับอัตลักษณ์ผ้าทอพื้นถิ่นบ้านหนองสังข์เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจชุมชนด้วยเทคโนโลยี   0


รายงานความก้าวหน้า

ไตรมาส ผลการดำเนินงาน งบประมาณที่ใช้ ผู้รับบริการ
4 [19653]

วันที่ 16 มิถุนายน 2568 (วันที่ 2 ของกิจกรรมผู้เข้าร่วม 23 คน) ทีมวิทยากรกระบวนการได้กำหนดโจทย์ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมหลักที่ 2. ยกระดับการย้อมและทอผ้าทอพื้นถิ่น และกิจกรรมหลักที่ 3 ยกระดับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นถิ่น ดำเนินกิจกรรมในชื่อ (5) กิจกรรม “จะทำฝันให้เป็นจริงได้อย่างไร” ซึ่งได้นำมาจาก ประเด็นการส่งเสริมที่สามารถนำมาส่งเสริมได้จริงในระยะเวลา 1 ปี ได้ผลดังนี้
กิจกรรมย่อย 2.1 ยกระดับการย้อมและทอผ้าทอพื้นถิ่น Soft Power บ้านหนองสงสังข์ตามแนวมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน(ผมช.) หรือมาตรฐานชุมชนที่เกี่ยวข้อง และความต้องการของตลาดผู้บริโภค โดยการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม วทน.

• ด้านการผลิต มีแนวทางพัฒนาหลัก 3 ประเด็น ได้แก่
1. การพัฒนาผ้าขิดลายจกหีแข่ เพื่อรักษาเอกลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์
2. การพัฒนาผ้าฝ้ายมัดหมี่ โดยเน้นคุณภาพและความหลากหลายของลวดลาย
3. การพัฒนาผ้าจ่องเอื้อซึ่งเป็นผ้าพื้นถิ่นสำคัญ เพื่อส่งเสริมการผลิตและเพิ่มความน่าสนใจในตลาด
กิจกรรมย่อย 3.1 ยกระดับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นถิ่น Soft Power บ้านหนองสังข์ ให้มีความเป็นสากล หรือทันสมัยบนพื้นฐานของความต้องการของตลาดผู้บริโภค โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ให้มีความเป็นสากล หรือทันสมัย
• ด้านการแปรรูปและการตลาด มีแนวทางพัฒนาที่สำคัญ 4 ประเด็น ได้แก่
1. เสื้อผ้าสำเร็จรูป เพื่อการผลิตเสื้อผ้าจากผ้าทอพื้นถิ่นที่พร้อมใช้งาน ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าและตอบโจทย์ตลาดแฟชั่นทันสมัย
2. กิ๊ฟช็อป เพื่อสร้างสรรค์สินค้าของที่ระลึกหรือของใช้ขนาดเล็กจากผ้าทอ เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้และกระจายสินค้าให้เข้าถึงลูกค้าหลากหลายกลุ่ม
3. ผ้าพื้น เพื่อพัฒนาผ้าทอในรูปแบบผ้าพื้นสำหรับใช้งานทั่วไป เช่น ผ้าคลุมโต๊ะ ผ้าม่าน หรือของตกแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้งานและเพิ่มมูลค่า
4. บรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุผลิตภัณฑ์ เพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นและช่วยรักษาคุณภาพสินค้า เพิ่มความน่าสนใจและสร้างความแตกต่างในตลาด

 (6) กิจกรรมให้กลุ่มวิสาหกิจระดมสมองเขียนเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ประสงค์พัฒนา นำไปสู่กิจกรรมสุดท้าย ได้ผลดังนี้
 ด้านการผลิตสินค้าประสงค์จะพัฒนาประกอบด้วย ผ้าขิดลายจกหีแข่ ผ้าฝ้ายมัดหมี่ และผ้าจ่องเอื้อ เป็นผ้าทอพื้นถิ่นที่มีเอกลักษณ์และสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ร่วมสมัยโดยรักษาลวดลายและเทคนิคดั้งเดิม พร้อมออกแบบลวดลายใหม่ที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ชุมชน ใช้สีธรรมชาติที่ปลอดภัยและคงทน รวมถึงพัฒนาหลักสูตรมัดย้อมและทอผ้าเพื่อต่อยอดความรู้และทดสอบตลาดเบื้องต้น ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญา เพิ่มมูลค่า และสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
ด้านการแปรรูปและการตลาดสินค้าประสงค์จะพัฒนาประกอบด้วยเสื้อผ้าสำเร็จรูป กิ๊ฟช็อป ผลิตภัณฑ์ผ้าพื้น และบรรจุภัณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผสมผสานผ้าทอพื้นถิ่นกับแฟชันร่วมสมัย สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่และสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น รวมถึงออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริงและบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสินค้า พร้อมทั้งสะท้อนภาพลักษณ์ของชุมชน ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือได้ต้นแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์อย่างน้อย 1 รายการต่อประเภท พร้อมทดสอบตลาดเบื้องต้น เพื่อเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน

(7) กิจกรรมระดมสมองการวางกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่าง ได้ผลดังนี้
ด้านการผลิตสินค้าผ้าทอพื้นถิ่น ได้แก่ ผ้าขิดลายจกหีแข่ ผ้าฝ้ายมัดหมี่ และผ้าจ่องเอื้อ มีคู่แข่งหลักในภูมิภาคและกลุ่มลูกค้าหลักเป็นข้าราชการวัยทำงานและผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อมั่นคง โดยสินค้าส่วนใหญ่ใช้ในโอกาสสำคัญและชุดทางการเพื่อสะท้อนสถานะทางสังคม การสร้างความแตกต่างเน้นที่การพัฒนาลวดลายใหม่และสีธรรมชาติคุณภาพสูง ป้องกันการลอกเลียนแบบด้วยการจดลิขสิทธิ์ รวมถึงส่งเสริมการถ่ายทอดภูมิปัญญาและสร้างเครือข่ายความร่วมมือในชุมชน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่และตลาดแฟชั่นอย่างยั่งยืน
ด้านการแปรรูปและการตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์กลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูป กิ๊ฟช็อป ผ้าพื้นผืน และบรรจุภัณฑ์ มีคู่แข่งหลักในพื้นที่ เช่น ไทพิมาน และนาแกคาร์ฟ โดยกลุ่มลูกค้าหลักประกอบด้วยข้าราชการ ประชาชนทั่วไป ผู้สูงอายุ และคนรุ่นใหม่แต่ละกลุ่มมีความต้องการและพฤติกรรมซื้อแตกต่างกัน การสร้างความแตกต่างเน้นที่การนำเสนอเรื่องราวและความเป็นมาของผ้า ใช้คนในชุมชนเป็นนางแบบ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างภาพลักษณ์ พร้อมออกแบบสินค้าผสมผสานแฟชั่นร่วมสมัย รวมถึงการตั้งราคาย่อมเยาและส่งเสริมการขายด้วยโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและขยายฐานลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
 



รายงานโดย นายธีรพล คำขึ้น วันที่รายงาน 25/07/2568 [19653]
0 23
4 [19652]

วันที่ 15 มิถุนายน 2568 มีผู้เข้าร่วม 32 คน ซึ่งมีรายละเอียดกิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมหลัก 1.พัฒนาอัตลักษณ์การย้อมและการทอผ้าทอพื้นถิ่น โดยดำเนินการใน กิจกรรมย่อยคือ 1.1 จัดเวทีระดมสมอง ทบทวน และถอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นว่าด้วยอัตลักษณ์ผ้าทอพื้นถิ่นของบ้านหนองสังข์ ที่สามารถนำมาบูรณาการเป็น Soft Power ภายใต้ (1) กิจกรรม “ผ้าหนองสังข์ของเราวันนี้” เพื่อวิเคราะห์ ศักยภาพ ข้อจำกัด และความภูมิใจ ในด้านการทอและการย้อม รวมทั้งด้านการแปรรูปและการตลาด ของกลุ่มทอผ้าบ้านหนองสังข์ มีผลการดำเนินกิจกรรม ดังนี้
วิสาหกิจชุมชนมีศักยภาพด้านการทอผ้าและย้อมสีธรรมชาติที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสืบทอดลวดลายจากผ้าห่อคัมภีร์โบราณซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น แม้กระบวนการผลิตจะต้องใช้แรงงานฝีมือและมีความไม่แน่นอนจากวัตถุดิบธรรมชาติ แต่ชุมชนก็ภาคภูมิใจที่สามารถสร้างรายได้เสริมควบคู่ไปกับการรักษาวัฒนธรรม ส่วนด้านการแปรรูปและการตลาด ชุมชนมีจุดเด่นเรื่องความร่วมมือและผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ แต่ยังขาดความหลากหลายของสินค้าและทักษะด้านการตลาดสมัยใหม่

 

(2) กิจกรรม“ผ้าหนองสังข์ในฝัน”มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นวิสาหกิจอยากพัฒนาการทอและการย้อมรวมถึงการแปรรูปและการตลาด ได้ผลดังนี้
การพัฒนาผ้าทอชุมชนควรเริ่มจากการผลิต โดยพัฒนาลวดลายให้ทันสมัยและเพิ่มความประณีต เพื่อรักษาภูมิปัญญาและเพิ่มมูลค่า ควบคู่กับการปรับปรุงอุปกรณ์และยกระดับคุณภาพการย้อมสีธรรมชาติ ส่วนด้านการแปรรูปและการตลาด เน้นจุดขายจากเอกลักษณ์ท้องถิ่น ขยายตลาดส่งออก สร้างผลิตภัณฑ์หลากหลาย และใช้ตลาดออนไลน์เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ

 

(3) กิจกรรม“ฝันใดใหญ่กว่า” เพื่อหาแนวทางการส่งเสริมการทอผ้า ได้ผลดังนี้
สรุปผลกิจกรรม “ฝันใดใหญ่กว่า” จากการลงคะแนนด้วยหนังยาง พบว่าชุมชนให้ความสำคัญกับแนวทางพัฒนาผ้าทอหนองสังข์ทั้งในด้านการผลิต และด้านการแปรรูปและการตลาด โดยเรียงลำดับคะแนนจากมากไปน้อย ดังนี้
ด้านที่ 1: การผลิต
1. พัฒนาลวดลายใหม่และความหลากหลายลวดลายให้ตรงความต้องการตลาด – 149 คะแนน
2. พัฒนาการทอให้มีความประณีตสู่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ – 105 คะแนน
3. พัฒนาอุปกรณ์การย้อมให้ทันสมัย ใช้งานง่าย เหมาะกับชุมชน – 93 คะแนน
4. พัฒนาการย้อมเส้นฝ้ายจากสีธรรมชาติให้มีคุณภาพมากขึ้น – 92 คะแนน
ด้านที่ 2: การแปรรูปและการตลาด
1. พัฒนาการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ โดยใช้เอกลักษณ์ของท้องถิ่นเป็นจุดขาย – 137 คะแนน
2. พัฒนาการตลาดส่งออก – 127 คะแนน
3. พัฒนาความหลากหลายของผลิตภัณฑ์แปรรูปให้ตรงกับตลาด – 107 คะแนน
4. พัฒนาการตลาดดิจิทัลและออนไลน์เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่หลากหลาย – 88 คะแนน

สรุปภาพรวม
แนวทางที่ได้รับคะแนนสูงสุดคือ การพัฒนาลวดลายใหม่ให้หลากหลายตรงกับตลาด (149 คะแนน) แสดงให้เห็นว่าชุมชนให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็ไม่ละเลยการตลาดและการใช้เอกลักษณ์ท้องถิ่นเป็นจุดขายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า โดยรวมแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาอย่างสมดุลทั้งด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และการขยายตลาด
 

4) กิจกรรมทีมวิทยากรกระบวนการได้กำหนดโจทย์ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกันหาคำตอบ ภายใต้โจทย์ “ฝันใดที่เป็นไปได้ภายใน 1 ปี” เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้และกำหนดเป้าหมายในการส่งเสริมการทอผ้า ได้ผลดังนี้ประเด็นที่ชุมชนเห็นว่าสามารถดำเนินการได้จริงภายในระยะเวลา 1 ปี ได้แก่ การพัฒนาลวดลายใหม่ให้ทันสมัยและหลากหลาย การถ่ายทอดและพัฒนาการทอให้ประณีตสู่คนรุ่นเก่าและใหม่ การย้อมเส้นฝ้ายสีธรรมชาติให้มีคุณภาพสูงขึ้น รวมถึงการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เอกลักษณ์ท้องถิ่นเป็นจุดขาย การสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์แปรรูป และการพัฒนาทักษะการตลาดดิจิทัลเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น ส่วนประเด็นที่ยังไม่สามารถทำได้ใน 1 ปี คือ การพัฒนาอุปกรณ์การย้อมที่ทันสมัย เนื่องจากต้องใช้งบประมาณสูงและเวลาวิจัยนาน และการพัฒนาการตลาดส่งออกที่ต้องอาศัยเวลาสร้างมาตรฐานและทดสอบตลาดอย่างต่อเนื่อง
 



รายงานโดย นายธีรพล คำขึ้น วันที่รายงาน 25/07/2568 [19652]
0 32
4 [19651]

สรุปจาก กิจกรรมย่อย 1.1 จัดเวทีระดมสมอง ทบทวน และถอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นว่าด้วยอัตลักษณ์ผ้าทอพื้นถิ่นของบ้านหนองสังข์ ที่สามารถนำมาบูรณาการเป็น Soft Power ทำให้ทราบถึงศักยภาพ ข้อจำกัด และความภูมิใจ ในด้านการทอและการย้อม รวมทั้งด้านการแปรรูปและการตลาด ของกลุ่มทอผ้าบ้านหนองสังข์นั้น

จากนั้นนำมาจัดกิจกรรมย่อย 2.1 ยกระดับการย้อมและทอผ้าทอพื้นถิ่น Soft Power บ้านหนองสังข์ตามแนวมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน(ผมช.) หรือมาตรฐานชุมชนที่เกี่ยวข้อง และความต้องการของตลาดผู้บริโภค โดยการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม วทน. ก็ได้ประเด็นความต้องการของกลุ่ม คือ 1. การย้อมและการทอ 1.1) พัฒนาลวดลายใหม่และความหลากหลายลวดลายให้ตรงความต้องการตลาด เนื่องจากลวดลายที่ทันสมัยและหลากหลายสามารถสร้างแรงจูงใจให้กลุ่มเป้าหมายใหม่และเกิดความสนใจในผลิตภัณฑ์ 1.2) พัฒนาการทอให้มีความประณีตสู่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ เนื่องจาก เพื่อรักษาและสืบทอดภูมิปัญญาดั้งเดิมให้คงอยู่ เพิ่มคุณภาพและมูลค่าของผลิตภัณฑ์ผ้าทอ และช่วยให้คนรุ่นใหม่มีทักษะและความรู้ที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ 1.3) พัฒนาการย้อมเส้นฝ้ายที่ได้จากสีธรรมชาติให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก จะช่วยให้สีติดทนนาน ไม่ซีดจางง่าย เพิ่มความน่าเชื่อถือและมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และยังตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

และกิจกรรมย่อย3.1 ยกระดับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นถิ่น Soft Power บ้านหนองสังข์ ให้มีความเป็นสากล หรือทันสมัยบนพื้นฐานของความต้องการของตลาดผู้บริโภค โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ให้มีความเป็นสากล หรือทันสมัยได้ประเด็นความต้องการของกลุ่ม คือ 2.การแปรรูปและการตลาด 2.1) พัฒนาการแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เอกลักษณ์ของท้องถิ่นเป็นจุดขาย เนื่องจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ สร้างความแตกต่างจากสินค้าทั่วไปในตลาด และทำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงความเป็นเอกลักษณ์และเรื่องราวเบื้องหลังสินค้า ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ชุมชน 2.2) พัฒนาความหลากหลายของผลิตภัณฑ์แปรรูปให้ตรงความต้องการของตลาด  เนื่องจากผู้บริโภคมีความชอบและพฤติกรรมที่หลากหลาย การมีสินค้าหลายรูปแบบช่วยเพิ่มทางเลือก ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เพิ่มโอกาสในการขาย สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า2.3) พัฒนาการตลาดดิจิทัล-ตลาดออนไลน์ (Digital-Online) เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่หลากหลาย  เนื่องจาก ต้องการเข้าถึงลูกค้าที่หลากหลาย เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนไปนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น การตลาดออนไลน์ช่วยให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้รวดเร็วและตรงกลุ่มเป้าหมาย ขยายฐานลูกค้าได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ลดต้นทุนในการประชาสัมพันธ์ และเพิ่มโอกาสในการขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงได้นำประเด็นดังกล่าวมาแนวทางการพัฒนา ดังนี้

·      ด้านการผลิต มีแนวทางพัฒนาหลัก 3 ประเด็น ได้แก่

1.การพัฒนาผ้าขิดลายจกหีแข่ เพื่อรักษาเอกลักษณ์และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์

2.การพัฒนาผ้าฝ้ายมัดหมี่ โดยเน้นคุณภาพและความหลากหลายของลวดลาย

3.การพัฒนาผ้าจ่องเอื้อซึ่งเป็นผ้าพื้นถิ่นสำคัญ เพื่อส่งเสริมการผลิตและเพิ่มความน่าสนใจในตลาด

 

·      ด้านการแปรรูปและการตลาด มีแนวทางพัฒนาที่สำคัญ 4 ประเด็น ได้แก่

1.เสื้อผ้าสำเร็จรูป เพื่อการผลิตเสื้อผ้าจากผ้าทอพื้นถิ่นที่พร้อมใช้งาน ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าและตอบโจทย์ตลาดแฟชั่นทันสมัย

2.กิ๊ฟช็อป เพื่อสร้างสรรค์สินค้าของที่ระลึกหรือของใช้ขนาดเล็กจากผ้าทอ เพื่อเพิ่มช่องทางรายได้และกระจายสินค้าให้เข้าถึงลูกค้าหลากหลายกลุ่ม

3.ผ้าพื้น เพื่อพัฒนาผ้าทอในรูปแบบผ้าพื้นสำหรับใช้งานทั่วไป เช่น ผ้าคลุมโต๊ะ ผ้าม่าน หรือของตกแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้งานและเพิ่มมูลค่า

4.บรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุผลิตภัณฑ์ เพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นและช่วยรักษาคุณภาพสินค้า เพิ่มความน่าสนใจและสร้างความแตกต่างในตลาด

จากการจัดกิจกรรมดังกล่าวร่วมกับการนำองค์ความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาให้คำแนะนำเทคนิคการย้อมและการทอผ้า รวมทั้งการแปรรูปและการตลาด ทำให้ได้แนวทางการพัฒนาซึ่งสามารถนำมาบูรณาการเป็น Soft Power  เพื่อที่จะสามารถนำไปพัฒนาให้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ทำให้กลุ่มมีรายได้มากขึ้นและมั่นคง



รายงานโดย นายธีรพล คำขึ้น วันที่รายงาน 25/07/2568 [19651]
69000 32