2568 การพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์หัตถกรรมกระเหรี่ยงโปสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม   0


รายงานความก้าวหน้า

ไตรมาส ผลการดำเนินงาน งบประมาณที่ใช้ ผู้รับบริการ
4 [20444]

กิจกรรม

รายการค่าใช้จ่าย

รวมเงิน

การพัฒนาทักษะสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์และการรับรองมาตรฐาน มผช.

  • ค่าใช้สอย

 

 

ค่าจ้างจัดกิจกรรมการพัฒนาทักษะด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์

75,000

ค่าพัฒนาแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ยางรัก

5,000

ค่าจ้างออกแบบงานกราฟฟิกและสื่อประชาสัมพันธ์ ได้แก่ แผนที่และบอร์ดเผยแพร่ภูมิปัญญา 1 ชุด

5,000

 

  • ค่าวัสดุ

877

 

รวม (แปดหมื่นห้าพันแปดร้อยเจ็ดสิบเจ็ดบาทถ้วน)

85,877


 



รายงานโดย นายวันโชค  มณีเดช วันที่รายงาน 29/09/2568 [20444]
85877 30
4 [20443]

กิจกรรมที่ 7 การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ภูมิปัญญาของชาวกะเหรี่ยงโปว์ อยู่ระหว่างการดำเนินการการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์

  • ระดมความคิด "จุดเด่นการท่องเที่ยววัฒนธรรมแม่ต๋อม" เช่น จัดเวทีพูดคุยกับชาวบ้าน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และผู้สนใจ เพื่อกำหนดจุดเด่นและเอกลักษณ์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในชุมช
  • จัดทำแผนที่ "เส้นทางภูมิปัญญา" เช่น กำหนดจุดที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในชุมชน เช่น บ้านเรียนรู้การทอผ้า บ้านเรียนรู้การทำเครื่องเขิน หรือจุดชมวิวที่สำคัญ


รายงานโดย นายวันโชค  มณีเดช วันที่รายงาน 29/09/2568 [20443]
0 30
4 [20442]

กิจกรรมที่ 4 สร้างความเข้มแข็งของแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ยางรัก อยู่ระหว่างการสร้างความเข้มแข็งของแบรนด์

  • ระดมสมอง "เรื่องราวของยางรักกะเหรี่ยงโปว์" เช่น จัดกิจกรรมระดมสมองกับชาวบ้าน เพื่อค้นหาเรื่องราว ประวัติศาสตร์ และคุณค่าทางวัฒนธรรมของยางรักและเครื่องเขิน ที่จะนำมาใช้ในการสื่อสารแบรนด์
  • ศึกษาแนวคิด BCG ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ เช่น ทำความเข้าใจหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และนำมาปรับใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เพื่อลดขยะและเพิ่มมูลค่า


 



รายงานโดย นายวันโชค  มณีเดช วันที่รายงาน 29/09/2568 [20442]
0 30
4 [20441]

กิจกรรมที่ 3 การรับรองมาตรฐาน มผช. ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารและการจัดทำผลิตภัณฑ์เพื่อขอรับมาตรฐาน 

  • จัดอบรม "เตรียมความพร้อมสู่ มผช."เช่น เชิญเจ้าหน้าที่จาก สมอ. มาให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดของ มผช. สำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องเขิน รวมถึงขั้นตอนการตรวจประเมิน
  • จัดทำเอกสารประกอบการยื่นขอ มผช. เช่น รวบรวมเอกสารที่จำเป็น เช่น แผนผังกระบวนการผลิต ข้อมูลวัตถุดิบ รายละเอียดผลิตภัณฑ์ และผลการควบคุมคุณภาพภายใน


รายงานโดย นายวันโชค  มณีเดช วันที่รายงาน 29/09/2568 [20441]
0 30
4 [20440]

กิจกรรมที่ 2 การพัฒนาทักษะสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์

  • ศึกษาข้อกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเช่นทำความเข้าใจหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มผช.
  • จัดทำเอกสารประกอบการผลิต เช่น กำหนดขั้นตอนการผลิตและเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพของแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปปฏิบัติ


รายงานโดย นายวันโชค  มณีเดช วันที่รายงาน 29/09/2568 [20440]
0 20
4 [20439]

จากการวิเคราะห์ความสนใจของกลุ่มลูกค้า พบว่า กระเป๋าขนาดเล็ก มีศักยภาพในการดึงดูดความสนใจได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระเป๋าที่มีรูปทรงน่ารัก เช่น ทรงกลม หรือทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เน้นความสวยงาม ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

1. กระเป๋าผ้าทอกี่เอว ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ความน่ารักและมินิมอล

กลุ่มลูกค้าแสดงความสนใจใน กระเป๋าทรงกลม และ ทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก โดยเน้นที่ สีเรียบง่ายสีเดียว นี่สะท้อนถึงรสนิยมที่ชื่นชอบความมินิมอล ความน่ารัก และความกะทัดรัด กระเป๋าขนาดเล็กเหล่านี้มักเหมาะกับการใช้งานในโอกาสที่ไม่เป็นทางการ เช่น การไปเที่ยว คาเฟ่ หรือใช้เป็นกระเป๋าเสริมสำหรับเก็บของชิ้นเล็กๆ ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และผู้ที่ชื่นชอบความคล่องตัว

การเน้นสีเดียวช่วยขับเน้น เนื้อสัมผัสและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของการทอด้วยกี่เอว ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น โดยไม่ถูกบดบังด้วยสีสันหรือลวดลายที่ซับซ้อน นอกจากนี้ การที่ผลิตภัณฑ์มีขนาดเล็กและดีไซน์เรียบง่าย ยังช่วยให้ง่ายต่อการผลิตและควบคุมคุณภาพ ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว

2. กิจกรรมเวิร์คช็อป สร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

นอกเหนือจากตัวผลิตภัณฑ์ ลูกค้ายังแสดงความสนใจอย่างมากที่จะให้มีกิจกรรมการเรียนรู้การทอกี่เอว การสานและงานเครื่องเขิน สิ่งนี้เป็นโอกาสของชุมชนบ้านแม่ต๋อมในการ สร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับผลิตภัณฑ์และประสบการณ์โดยรวม การจัดเวิร์คช็อปจะช่วยให้:

  • สร้างการรับรู้และความเข้าใจในภูมิปัญญา โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้กระบวนการทำเครื่องเขินจากยางรักอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่หาชมได้ยากและเป็นเอกลักษณ์ของบ้านแม่ต๋อม ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวในประเทศไทยที่ยังคงกรีดยางรักและทำเครื่องเขิน
  • เพิ่มความผูกพันกับแบรนด์และชุมชน: การได้ลงมือทำด้วยตัวเองจะสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดี ผู้เข้าร่วมจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างสรรค์ และเห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์มากขึ้น
  • สร้างรายได้เสริมให้ชุมชน ค่าธรรมเนียมเวิร์คช็อปจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านและชุมชน นอกเหนือจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์
  • โปรโมทการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เวิร์คช็อปจะเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังชุมชนบ้านแม่ต๋อม ซึ่งจะนำไปสู่การใช้จ่ายในด้านอื่นๆ เช่น ที่พัก อาหาร หรือการซื้อสินค้าหัตถกรรมอื่นๆ

แนวทางการจัดเวิร์คช็อป:

  • เวิร์คช็อปทอผ้ากระเป๋าขนาดเล็ก เน้นกระเป๋าดีไซน์ที่ลูกค้าสนใจ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้ผลงานชิ้นเล็กๆ น่ารักกลับบ้านไป
  • เวิร์คช็อปการลงรัก (บางส่วน) อาจให้ผู้เข้าร่วมได้ลองลงรักบนชิ้นส่วนเล็กๆ หรือเรียนรู้ขั้นตอนการเตรียมยางรัก เพื่อให้สัมผัสถึงกระบวนการที่ละเอียดอ่อน
  • กิจกรรมเสริม อาจมีการนำเสนอวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโปว์ การสาธิตการทอผ้า หรือการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับต้นรัก เพื่อเสริมประสบการณ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

การผสมผสานระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระเป๋ายางรักที่มีดีไซน์ตอบโจทย์ตลาด เข้ากับการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปสร้างประสบการณ์ จะช่วยให้ชุมชนบ้านแม่ต๋อมสามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่า และสร้างการจดจำในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ได้อย่างยั่งยืน



รายงานโดย นายวันโชค  มณีเดช วันที่รายงาน 29/09/2568 [20439]
0 0