2568 การพัฒนาอัตลักษณ์และยกระดับธุรกิจชุมชนผ้าย้อมสีจาก ดอกสายธาร ตำบลท่าลาด อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม 0
ผล
ผล
ผล
รายงานความก้าวหน้า
ไตรมาส | ผลการดำเนินงาน | งบประมาณที่ใช้ | ผู้รับบริการ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
4 [20067] |
กิจกรรมที่ 4 ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี เรื่อง การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อยกระดับการจัดจำหน่ายสินค้า คณะทำงานโครงการได้จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการปัก ในวันที่ 16 สิงหาคม 2568 ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด ตำบลท่าลาด อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี เรื่อง การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อยกระดับการจัดจำหน่ายสินค้า แก่สมาชิกกลุ่มสมาชิกวิสาหกิจชุมชนและสมาชิกในชุมชนที่สนใจ วิทยากรในการอบรมคือ อาจารย์วนิดา ถาปันแก้ว หัวหน้าโครงการ ซึ่งเป็น Content Creator ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ และอาจารย์มนันยา โพธิราชา ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ภาษาโน้มน้าวใจ จากคณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม การดำเนินกิจกรรมประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1) ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม 2) คู่มือการอบรมเรื่อง “การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อยกระดับการจัดจำหน่ายสินค้า” ประกอบคำบรรยาย ให้ความรู้ผ่านภาพ เสียง สื่อ power point และตัวอย่างจริง 3) การอบรม “การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อยกระดับการจัดจำหน่ายสินค้า” ประกอบด้วย 3.1) บรรยายเรื่อง ความสำคัญของภาพลักษณ์แบรนด์ (Brand Image) ต่อการตลาดและการจำหน่ายสินค้า 3.2) บรรยายเรื่อง การเชื่อมโยงภาพลักษณ์แบรนด์กับการจัดจำหน่ายสินค้า 3.3) บรรยายเรื่อง กรณีศึกษา: แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างภาพลักษณ์ 3.4) บรรยายเรื่อง การเขียนเรื่องราวสินค้าให้ตรงใจลูกค้า 3.5) บรรยายเรื่อง การสร้าง Content Marketing ที่สะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์ 4) ประเมินผลการจัดกิจกรรม 5) ระยะเวลาที่ใช้ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ 1 วันต่อครั้ง จำนวน 1ครั้ง 6) กลุ่มเป้าหมายในการถ่ายทอดเทคโนโลยีคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด 7) วิทยากรในการฝึกอบรมจำนวน 1 ท่าน คือ ดร.อุษา ประชากุล อาจารย์วนิดา ถาปันแก้ว หัวหน้าโครงการ ซึ่งเป็น Content Creator ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ และอาจารย์มนันยา โพธิราชา ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ภาษาโน้มน้าวใจ 8) สถานที่การอบรมคือ ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด 9) ผู้เข้ารับการอบรมมีความพึงพอใจเฉลี่ยในระดับมากที่สุด (4.69) ดังตารางที่ 4 10) ผู้เข้าอบรมได้ Story Board สำหรับทำสื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้า 10) ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมการพัฒนาทักษะการปัก จำนวนทั้งสิ้น 14,844 บาท ตารางที่ 4 ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี เรื่อง การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อยกระดับการจัดจำหน่ายสินค้า
การจัดกิจกรรมอบรมการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่องการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์เพื่อยกระดับการจัดจำหน่ายสินค้า ได้รับผลการประเมินในภาพรวมอยู่ในระดับ “มากที่สุด” ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจทั้งด้านขั้นตอนการจัดอบรม ความพร้อมของสถานที่และอุปกรณ์ ตลอดจนการถ่ายทอดของวิทยากรที่ทำให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจง่ายและได้รับความรู้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านสถานที่ที่ได้ค่าเฉลี่ยสูงสุด (4.96) และความเข้าใจในเนื้อหาที่ถ่ายทอด (4.94) ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพการจัดอบรมที่ได้มาตรฐานและตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมทั้งหมด ร้อยละ 100 เห็นว่าสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้จริง และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 54 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่าง 2,001–5,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ประเด็นที่ควรพิจารณาปรับปรุงคือความเหมาะสมของเวลาและช่วงเวลาในการอบรมซึ่งได้คะแนนต่ำกว่าด้านอื่น โดยสรุป โครงการนี้สามารถสร้างคุณค่าแก่ผู้เข้าร่วมได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านการเสริมสร้างความรู้ การพัฒนาทักษะเชิงธุรกิจ และการคาดการณ์รายได้ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อการยกระดับศักยภาพชุมชนและควรได้รับการสานต่อในอนาคต รายงานโดย นางสาววนิดา ถาปันแก้ว วันที่รายงาน 22/09/2568 [20067] |
14844 | 50 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 [20066] |
กิจกรรมที่ 3 ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า คณะทำงานโครงการได้จัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ในวันที่ 9-10 สิงหาคม 2568 ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด ตำบลท่าลาด อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า แก่สมาชิกกลุ่มสมาชิกวิสาหกิจชุมชนและสมาชิกในชุมชนที่สนใจ วิทยากรในการอบรมคือ อาจารย์วนิดา ถาปันแก้ว หัวหน้าโครงการ ซึ่งเป็น Content Creator ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ การดำเนินกิจกรรมประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1) ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม 2) คู่มือการอบรมเรื่อง “การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า” ประกอบคำบรรยาย ให้ความรู้ผ่านภาพ เสียง สื่อ power point และตัวอย่างจริง 3) การอบรม “การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า” ประกอบด้วย 3.1) บรรยายเรื่อง ช่องทางการจำหน่ายแบบออฟไลน์ (Offline Marketing) 3.2) บรรยายเรื่อง ช่องทางการจำหน่ายแบบออนไลน์ (Online Marketing) 3.3) บรรยายเรื่อง การวางแผนเพิ่มช่องทางการขายและการติดตามผล 4) ประเมินผลการจัดกิจกรรม 5) ระยะเวลาที่ใช้ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ 2 วันต่อครั้ง จำนวน 1 ครั้ง 6) กลุ่มเป้าหมายในการถ่ายทอดเทคโนโลยีคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด 7) วิทยากรในการฝึกอบรมจำนวน 1ท่าน คือ อาจารย์วนิดา ถาปันแก้ว หัวหน้าโครงการ ซึ่งเป็น Content Creator ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 8) สถานที่การอบรมคือ ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด 9) ผู้เข้ารับการอบรมมีความพึงพอใจเฉลี่ยในระดับมากที่สุด (4.62) ดังตารางที่ 3 10) ได้ช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 2 ช่องทาง คือ Facebook Fanpage และ Tik Tok นอกจากนี้ยังได้ติดต่อฝากสินค้าจำหน่ายในร้านของที่ระลึกในจังหวัดนครพนม 11) ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมการพัฒนาทักษะการย้อม จำนวนทั้งสิ้น 29,688 บาท ตารางที่ 3 แสดงผลประเมินการจัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า
การจัดกิจกรรมอบรมการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่องการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ได้รับผลการประเมินในภาพรวมอยู่ในระดับ “มากที่สุด” ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจทั้งด้านการประสานงาน การให้บริการของวิทยากรที่สามารถถ่ายทอดความรู้ได้เข้าใจง่าย ความพร้อมของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนเนื้อหาความรู้ที่ครบถ้วนและนำไปใช้ได้จริง โดยเฉพาะในด้านความรู้และเนื้อหาที่ถ่ายทอดซึ่งได้ค่าเฉลี่ยสูงสุด (4.96) สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของหลักสูตรและการจัดการอบรมที่มีมาตรฐาน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมทั้งหมด ร้อยละ 100 เห็นว่าสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ได้จริง และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 54 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่าง2,001–6,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ประเด็นที่ควรปรับปรุงคือด้านความเหมาะสมของเวลาและช่วงเวลาในการอบรม ซึ่งได้คะแนนประเมินต่ำกว่าด้านอื่น โดยสรุป โครงการนี้สามารถสร้างประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการเพิ่มพูนองค์ความรู้ การพัฒนาทักษะอาชีพ และการคาดการณ์รายได้ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยยกระดับศักยภาพของชุมชนและควรได้รับการต่อยอดในอนาคต รายงานโดย นางสาววนิดา ถาปันแก้ว วันที่รายงาน 22/09/2568 [20066] |
29688 | 50 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 [20065] |
กิจกรรมที่ 2 การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ คณะทำงานโครงการได้จัดกิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ ในวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2568 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าลาด อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์โดยใช้ผ้าย้อมสีจากดอกสายธาร แก่สมาชิกกลุ่มสมาชิกวิสาหกิจชุมชนและสมาชิกในชุมชนที่สนใจ วิทยากรในการอบรมคือ ดร.อุษา ประชากุล นักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบแฟชั่นยั่งยืน (เส้นใยธรรมชาติและสิ่งทอ) และการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน จากสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม การดำเนินกิจกรรมประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1) ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม 2) คู่มือการอบรมเรื่อง “การตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์” ประกอบคำบรรยายให้ความรู้ผ่านภาพ เสียง สื่อ power point และตัวอย่างจริง 3) การอบรม “การออกแบบที่สอดคล้องกับกระแสนิยม” ประกอบด้วย 3.1) บรรยายเรื่อง การวัดตัวและร่างแบบเสื้อผ้า 3.2) บรรยายเรื่อง การเลือกผ้าและอุปกรณ์ตัดเย็บ 3.3) บรรยายเรื่อง การตัดผ้าและการประกอบชิ้นงาน 3.4) บรรยายเรื่อง การเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ 3.5) บรรยายเรื่อง เทคนิคการตกแต่งและเพิ่มลูกเล่น 3.6) การทำต้นแบบ (Prototype) ของผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีธรรมชาติให้ทันสมัย 4) ประเมินผลการจัดกิจกรรม 5) ระยะเวลาที่ใช้ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ 2 วันต่อครั้ง จำนวน 1 ครั้ง 6) กลุ่มเป้าหมายในการถ่ายทอดเทคโนโลยีคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด 7) วิทยากรในการฝึกอบรมจำนวน 1 ท่าน คือ ดร.อุษา ประชากุล นักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบแฟชั่นยั่งยืน (เส้นใยธรรมชาติและสิ่งทอ) และการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน 8) สถานที่การอบรมคือ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าลาด 9) ผู้เข้ารับการอบรมมีความพึงพอใจเฉลี่ยในระดับมากที่สุด (4.60) ดังตารางที่ 2 10) ได้ Pattern สำหรับตัดเย็บผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีจากดอกสายธาร 2 แบบ 11) ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ จำนวนทั้งสิ้น 39,188 บาท ตารางที่ 2 แสดงผลประเมินการจัดกิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์
การจัดกิจกรรมอบรมการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่องการตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ ได้รับผลการประเมินในภาพรวมอยู่ในระดับ “มากที่สุด” ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจทั้งด้านการประสานงาน การให้บริการของวิทยากรที่ถ่ายทอดความรู้ได้อย่างเข้าใจง่าย ความพร้อมของสถานที่และอุปกรณ์ รวมถึงเนื้อหาที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง โดยเฉพาะในด้านความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเวลาและค่าใช้จ่ายซึ่งได้ค่าเฉลี่ยสูงสุด (5.00) นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมทั้งหมด ร้อยละ 100 เห็นว่าสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้ และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 54 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่าง 2,001–4,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ประเด็นที่ควรปรับปรุงคือความเหมาะสมของเวลาและช่วงเวลาในการอบรม ซึ่งได้คะแนนประเมินต่ำกว่าด้านอื่น โดยสรุป โครงการสามารถสร้างประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการเพิ่มพูนองค์ความรู้ การต่อยอดอาชีพ และการคาดการณ์รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาศักยภาพชุมชน และควรได้รับการสานต่อและปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ้นในอนาคต รายงานโดย นางสาววนิดา ถาปันแก้ว วันที่รายงาน 22/09/2568 [20065] |
39188 | 50 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 [20064] |
ผลการดำเนินงานโครงการ กิจกรรมที่ 1 ประชุมชี้แจงการดำเนินโครงการ ปีที่ 2 และ ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การออกแบบที่สอดคล้องกับกระแสนิยม คณะทำงานโครงการได้จัดประชุมชี้แจงและวางแผนโครงการปีที่ 1 และเก็บข้อมูลรายได้ก่อนดำเนินโครงการ ในวันที่ 21-22 มิถุนายน 2568 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าลาด อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงและวางแผนโครงการปีที่ 2 แก่สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด โดยมี อาจารย์วนิดา ถาปันแก้ว หัวหน้าโครงการ เป็นผู้แนะนำโครงการพร้อมคณะทำงานในโครงการกับผู้ร่วมโครงการและและชี้แจงพร้อมวางแผนโครงการปีที่ 2 ร่วมกับสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด พร้อมจัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การออกแบบที่สอดคล้องกับกระแสนิยม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าที่สอดคล้องกับกระแสนิยม แก่สมาชิกกลุ่มสมาชิกวิสาหกิจชุมชนและสมาชิกในชุมชนที่สนใจ วิทยากรในการอบรมคือ ดร.อุษา ประชากุล นักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบแฟชั่นยั่งยืน (เส้นใยธรรมชาติและสิ่งทอ) และการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน จากสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม การดำเนินกิจกรรมประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1) ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม 2) คู่มือการอบรมเรื่อง “การออกแบบที่สอดคล้องกับกระแสนิยม” ประกอบคำบรรยายให้ความรู้ผ่านภาพ เสียง สื่อ power point และตัวอย่างจริง 3) การอบรม “การออกแบบที่สอดคล้องกับกระแสนิยม” ประกอบด้วย 3.1) บรรยายเรื่อง แนวคิด ความสำคัญและหลักการออกแบบที่ตอบโจทย์กระแสนิยมของกระแสนิยม 3.2) บรรยายเรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ผ้าให้สอดคล้องกับกระแสนิยมจากกรณีศึกษา (Case Study) 3.3) บรรยายเรื่อง การออกแบบและปรับผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีธรรมชาติให้ทันสมัย 3.4) บรรยายเรื่อง เทคนิคการเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Signature Design) 3.5) บรรยายเรื่อง AI สำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีธรรมชาติให้ทันสมัย 3.6) การร่างแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีธรรมชาติให้ทันสมัย 4) ประเมินผลการจัดกิจกรรม 5) ระยะเวลาที่ใช้ในการอบรมเชิงปฏิบัติการ 2 วันต่อครั้ง จำนวน 1ครั้ง 6) กลุ่มเป้าหมายในการถ่ายทอดเทคโนโลยีคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองเบิ่ง ผ้ายายท่าลาด 7) วิทยากรในการฝึกอบรมจำนวน 1 ท่าน คือ ดร.อุษา ประชากุล นักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบแฟชั่นยั่งยืน (เส้นใยธรรมชาติและสิ่งทอ) และการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน 8) สถานที่การอบรมคือ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลท่าลาด 9) ผู้เข้ารับการอบรมมีความพึงพอใจเฉลี่ยในระดับมากที่สุด (4.68) ดังตารางที่ 1 10) ได้ภาพร่างแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีจากดอกสายธาร 2 แบบ ดังภาพประกอบ 11) ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมประชุมชี้แจงการดำเนินโครงการ ปีที่ 2 และ ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อง การออกแบบที่สอดคล้องกับกระแสนิยม จำนวนทั้งสิ้น 38,941บาท ตารางที่ 1 แสดงผลประเมินการจัดกิจกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าที่สอดคล้องกับกระแสนิยม
การจัดกิจกรรมอบรมการออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้าที่สอดคล้องกับกระแสนิยมได้รับผลการประเมินในภาพรวมอยู่ในระดับ “มากที่สุด” ผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจทั้งด้านการให้บริการของวิทยากร ความครบถ้วนของสถานที่และอุปกรณ์ รวมถึงเนื้อหาความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง โดยเฉพาะในด้านความคุ้มค่าและการนำไปใช้ประโยชน์ซึ่งได้ค่าเฉลี่ยสูงสุด (5.00) นอกจากนั้นยังพบว่า ผู้เข้าร่วมทั้งหมด ร้อยละ 100 คาดว่าจะสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้ และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 60 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นระหว่าง 2,001–4,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ประเด็นที่ควรปรับปรุงคือความเหมาะสมของเวลาและช่วงเวลาในการอบรม ซึ่งมีคะแนนประเมินต่ำกว่าด้านอื่น โดยสรุป โครงการสามารถสร้างประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการเพิ่มพูนองค์ความรู้ การต่อยอดอาชีพ และการคาดการณ์รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาศักยภาพชุมชน และควรได้รับการสานต่อและปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ้นในอนาคต รายงานโดย นางสาววนิดา ถาปันแก้ว วันที่รายงาน 22/09/2568 [20064] |
38941 | 50 |