Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
9 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (ข้อคิดเห็นในการพัฒนางานของบุคลากร กปว.) 101
การทำงานนั้นย่อมต้องเจออุปสรรคอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคที่เกิดจากตัวเอง หรืออุปสรรคการทำงานที่เกิดจากเพื่อนร่วมงาน ปัญหาในการทำงานของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันออกไป เช่น ปัญหาในการบริการเวลาไม่ดี ปัญหาการจัดลำดับความสำคัญของงานไม่ถูก หรือขาดทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่านี้เป็นตัวการที่ทำให้งานล่าช้า หรือทำให้งานไม่ลุล่วงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และถ้าหากปล่อยไว้ก็อาจจะส่งผลเสียต่อตัวเองและองค์กรมากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเป็นตัวช่วยที่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี และช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมีหลายวิธีที่ช่วยได้ ดังนี้
1. จัดลำดับความสำคัญของงานให้เป็น
การรู้จักวางแผนและจัดสรรเวลาในการทำงานมีส่วนช่วยให้งานที่ได้รับมอบหมายนั้นเสร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างราบรื่น แต่ก่อนอื่นจะต้องมีการจัดลำดับความสำคัญของงานก่อน เพื่อให้งานทุกชิ้นเสร็จทันตามเวลาที่กำหนดและออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ การจดบันทึกเอาไว้ก็ถือเป็นวิธีการง่ายๆ ที่ช่วยได้
2. วางแผนก่อนทำงานทุกครั้ง
การวางแผนการทำงานจะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีระบบและเป็นระเบียบ ทำให้เห็นภาพรวมของงานที่ต้องทำทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง นอกจากนี้การวางแผนการทำงาน ยังช่วยให้ทำงานเสร็จได้รวดเร็วอีกด้วย ถือเป็นหนึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ทุกคนควรทำก่อนเริ่มต้นทำงาน
3. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเป็นอีกหนึ่งวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ โดยการกำหนดเป้าหมายการทำงานแต่ละวัน ว่าในวันนี้จะทำงานชิ้นใดบ้าง จะทำทั้งหมดกี่งาน แล้วบริหารจัดการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้แล้ว
4. ตัดสินใจให้เป็น
ทักษะในการตัดสินใจไม่ใช่เพียงแค่การเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นการตัดสินใจเลือกมาอย่างดี โดยอาศัยการวิเคราะห์ด้วยเหตุและผล พร้อมกับการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนว่าสิ่งที่ตัดสินใจลงไปนั้นเป็นประโยชน์ต่องานที่สุด ดังนั้นการมีทักษะในการตัดสินใจที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น ทำงานต่อไปได้ โดยไม่เสียเวลาไปกับการลังเล
5. หาเวลาพักผ่อน
หากทำงานจนเกินพอดีจนทำให้สมองล้า หรือใช้สมองทำงานหนักเป็นระยะเวลานาน สามารถส่งผลให้งานที่ออกมาไม่มีประสิทธิภาพ แถมยังทำงานได้ไม่ได้เต็มที่อีกด้วย ดังนั้น การพักในช่วงระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นการพักจิบกาแฟ ดื่มน้ำเปล่า หรือเดินออกไปสูดอากาศ เพียงเท่านี้ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่น พร้อมกลับมาลุยงานต่อได้แล้ว
6. ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร
การสื่อสารเป็นทักษะที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งการพูด การเขียน หรือแม้แต่การนำเสนอก็ต้องอาศัยการสื่อสาร ดังนั้นการมีทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้สื่อสารได้อย่างตรงจุด เข้าใจได้ง่าย และสามารถช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและราบรื่นขึ้นอีกด้วย
7. เรียนรู้และพัฒนาทุกครั้งที่เกิดข้อผิดพลาด
ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แต่เมื่อผิดพลาดไปแล้ว ก็ควรเรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้น โดยมองหาสาเหตุของปัญหาว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไร และมีวิธีใดบ้างที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เพื่อที่ครั้งหน้าจะได้ไม่ทำผิดในเรื่องเดิมอีก
8. สร้างทัศนคติที่ดีในการทำงาน
ทัศนคติที่ดีในการทำงานนั้น ไม่ใช่การมองโลกในแง่ดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเข้าอกเข้าใจเพิ่อนร่วมงานด้วยกัน ใช้เหตุและผลในการมองปัญหา เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้บรรยากาศในที่ทำงานน่าทำงานมากขึ้นอีกด้วย
9. การให้รางวัลตนเอง
การทำงานเหนื่อยมาตลอดทั้งปี การให้รางวัลตัวเองจะช่วยให้มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นและถือว่าเป็นรางวัลชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะถึงเป้าหมายของตัวเอง ซึ่งการให้รางวัลตัวเองไม่จำเป็นต้องเป็นของชิ้นใหญ่ หรือราคาแพง แต่อาจจะเป็นของอร่อยๆ สักมื้อ หรือการได้หยุดพักสักวันเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน
ปัจจุบันนี้การทำงานและวิถีชีวิตต่างๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงไป จนทำให้หลายคนไม่สามารถปรับตัวได้ อาจทำให้เกิดความเครียด หรือชีวิตไม่มี Work-Life Balance จนส่งผลกระทบต่อการทำงาน ทั้งทำงานช้า หรือทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่กล่าวมาข้างต้น อาจมีส่วนช่วยให้การทำงานของใครหลายๆ คนง่ายขึ้น ไม่มากก็น้อย