Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...

กิจกรรมการแลกเปลี่ยน - เรียนรู้ ณ ประเทศมาเลเซีย ภายใต้โครงการการพัฒนาระบบกลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคเพื่อการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค

(NEC, NeEC, CWEC และ SEC) (Enhancing the systematic mechanism for the development of special economic corridor in 4 regions by regional science park)

ร่วมกับ ผศ.ดร.อนุรักษ์ ถุงทอง ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พร้อมด้วยคณะอาจารย์ นักวิจัย ผู้ประกอบการด้าน Oleochemicalโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นโยบายและกลยุทธ์ การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ด้าน Oleochemicalตลอดจนการส่งเสริมให้เกิดการสร้างความเชื่อมโยงงานวิจัยกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อต่อยอดความยั่งยืนในเชิงพาณิชย์ ประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศที่มีการส่งออกปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมด้าน Oleochemicalสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รัฐบาลประเทศมาเลเซียได้ส่งเสริมและสนับสนุนข้อมูล องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับเกษตรกร ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากปาล์ม ผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมจากปาล์ม และผู้ส่งออกอย่างครบวงจรและยั่งยืน (Sustainable Development)

จากการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว สามารถแบ่งได้ 3 ด้านดังนี้

ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมโอลิโอเคมิคัล ภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐที่ให้การส่งเสริมและสนับสนุน

(1) บริษัท Merge Jati Engineering Sdn. Bhd.และ Excelmech Engineering Sdn. Bhd.เป็นตัวอย่างบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม โดยทั้งสองบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องจักรในกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์ม เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีความล้ำหน้าซึ่งสามารถส่งออกเครื่องจักรเพื่อผลิตปาล์มน้ำมันไปยังกลุ่มประเทศต่าง ๆ

(2) ประเทศมาเลเซียบริหารอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันอย่างครบวงจร โดยมีหน่วยงานกำหนดทิศทางและนโยบาย คือThe Malaysian Palm Oil Board (MPOB)เป็นหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบายของประเทศในการส่งเสริมการผลิตปาล์มตั้งแต่เกษตรกรจนถึงภาคอุตสาหกรรมในการส่งออก ตลอดจนการบริหารจัดการหน่วยงานภายในประเทศอย่างครบวงจร Malaysian Palm Oil Council (MPOC)ให้การส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน นโยบายด้านตลาด การวิเคราะห์การตลาด การกำหนดกลยุทธ์และนโยบายสำหรับการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนการสนับสนุนความยั่งยืนของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ทั้งในระดับวิชาการและเชิงพาณิชย์ จากการหารือดังกล่าว คณะฯ ได้เสนอแนวความคิดในการร่วมพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในประเทศไทย เช่น กิจกรรมแลกเปลี่ยนนักวิจัยและนักศึกษา เป็นต้น

ด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม มูลค่าเพิ่ม และมูลค่าการส่งออก ของผลิตภัณฑ์ด้าน Oleochemical

จากกิจกรรมดังกล่าว นโยบายด้านเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมด้าน Oleochemicalนับว่าเป็นอุตสาหกรรมแนวหน้าของประเทศ คิดเป็น 3% ของ GDP โดยจุดเด่นสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมด้าน Oleochemicalมีความเข้มแข็งคือนโยบายและการส่งเสริมจากภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มจาก basic knowledge จนกระทั่งได้ deep technology ที่เกิดจากความร่วมมือของทั้งรัฐ สถาบันอุดมศึกษาและภาคเอกชน

ภาคเอกชนไทยด้าน Oleochemical

อุตสาหกรรมด้าน Oleochemicalนับว่ายังมีปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซีย ด้วยปัจจัยด้านการส่งเสริมการปลุกปาล์มน้ำมัน และนโยบายด้านการใช้ปาล์มน้ำมันภายในประเทศ ตลอดจนสภาพภูมิอากาศของประเทศที่เป็นส่วนทำให้ภาคเกษตรกรรมด้านอื่นมีความโดนเด่นกว่า แต่ทั้งนี้ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มีความเข้มแข็งในการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้าน Oleochemicalที่มีองค์ความรู้ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีไมโครเวฟ ในกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มแดง และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยยังมีผลิตไปเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่นๆ นอกจากน้ำมันปาล์มแล้ว เช่น เครื่องสำอาง Biodiesel น้ำมันปาล์มแดง และอื่นๆ เป็นต้น

ด้วยความเข้มแข็งของหน่วยงานภาครัฐ ที่ผลักดันพืชเศรษฐกิจของประเทศ จนนำไปสู่การสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการผลิตปาล์ม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากปาล์มมูลค่าสูง ทำให้มาเลเซียพัฒนาไปเป็นประเทสชั้นนำด้านปาล์ม ทั้งยังมีหน่วยงานที่ควบคุม ดูแล และติดตามการผลิตปาล์มอย่างครบวงจร และมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาธุรกิจรายย่อยของไทยด้านการผลิตปาล์มน้ำมันได้