Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
ชวนรู้ ชวนคิด ชวนทำ ในแผนลงทุนแบบสมดุลอายุและการออมเพิ่มในกองทุน กบข. 109
ตามรายงานประจำปีและรายงานงบการเงินและบัญชี ประจำปี 2566 ของ กบข. ที่เป็นกองทุนที่มาจากการออมเงินขั้นต่ำ 3% ของข้าราชการจำนวนกว่า 1.22 ล้านคน มีจำนวนเงินกว่า 1.28 ล้านล้านบาท ในปี 2566 มีผลตอบแทนสุทธิกว่า 26,000 ล้านบาท สามารถปันผลได้ 1.46% ข้าราชการส่วนใหญ่ลงทุนตามแผนหลักที่คณะกรรมการ กบข. จัดการให้
สมาชิก กบข. สามารถออมเงินเพิ่มได้อีก 1-27% โดยแจ้งให้หักรายเดือน ถือเป็นการออมเงินไว้ใช้เมื่อลาออกจากราชการ
สมาชิก 15% ได้เปลี่ยนเปลี่ยนแผนการลงทุนตามความเสี่ยง เช่น ลงทุนในตราสารทุนมีความเสี่ยงสูงกว่าลงทุนในตราสารหนี้ แต่ตราสารทุนให้ผลตอบแทนดีกว่าในรูปเงินปันผล ส่วนตราสารหนี้ เช่น ลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้เอกชน ตั๋วเงินกู้ มีความเสี่ยงต่ำกว่า ได้ดอกเบี้ยน้อยกว่า
สามาชิกเลือกแผนสมดุลตามอายุ 48% จากผู้ลงทุนทั้งหมด 185,207 คน โดย กบข. จัดสัดส่วนการลงทุนให้ เช่น อายุ ตั้งแต่ 51 ปี ลงมา จะจัดสรรให้ลงทุนในสัดส่วนของตราสารทุนสูงกว่าตราสารหนี้ และปรับลดลงตามอายุสมาชิกแบบช่วงอายุ ค่อย ๆ ปรับให้ตราสารหนี้สูงกว่าตราสารทุนกับสมาชิกที่อายุมากขึ้น จนถึง 60 ปี เพื่อลดความเสี่ยงและได้ผลตอบแทนมากขึ้น
จึงเสนอให้สมาชิก (1) เพิ่มการออม (2) ลงทุนตามแผนสมดุลอายุ ทั้งนี้ การเปลี่ยนแผนการลงทุนทำได้ปีละ 12 ครั้ง
http://www.clinictech.ops.go.th/online/cmo/filemanager/743/files/Gpf_report2566.pdf