Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
VRIO 167
การประเมินความได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive Advantage) โดยใช้ VRIO framework
การวิเคราะห์ขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกใน เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่มีความสำคัญสำหรับการวางแผนกลยุทธ์หรือแผนธุรกิจ เครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์มีได้หลายวิธี เช่น SWOT analysis / Five Force model / PESTEL / VRIO เป็นต้น
วันนี้จะขอกล่าวถึง VRIO ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถใช้ประเมินข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ถูกพัฒนาโดย Jay B. Barney ศาสตราจารย์ด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ชาวอเมริกัน โดยการพิจารณาปัจจัยภายใน ได้แก่ ทรัพยากร (Resources: what we have) และความสามารถในการแข่งขัน (Capabilities: what we do well) เพื่อวิเคราะห์และประเมินว่าทรัพยากรหรือขีดความสามารถที่มีอยู่และเป็นจุดเด่นของบริษัท สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งได้หรือไม่ โดยผ่านการวิเคราะห์ 4 ด้านตามลำดับ ดังนี้
1. Value (คุณค่า): เป็นสิ่งที่มีมูลค่าหรือมีคุณค่าในมุมมองของลูกค้าหรือไม่ สามารถตอบสนองต่อโอกาสหรือทำให้สิ่งคุกคามซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกหายไป
2. Rarity (หาไม่ได้ง่ายๆ): เป็นสิ่งที่คู่แข่งไม่มี หรือมีน้อยราย
3. Inimitability (เลียนแบบได้ยาก): เป็นสิ่งที่คู่แข่งเลียนแบบได้ยากหรืต้องลงทุนสูงเพื่อให้มี
4. Organisational support (การสนับสนุนจากองค์กร): องค์กรมีการบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรหรือความสามารถที่มีอยู่
ทั้งนี้หากมีข้อผิดพลาดก็ขอโทษด้วยน้า และผู้สนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากอ้างอิงข้างล่างนะคะ^^
อ้างอิง:
- Johnson, G., Whittington, R., Scholes, K., Angwin, D. and Regner, P. (2014) Exploring Strategy: Text & Cases. 10th ed. London, Pearson.
- https://www.popticles.com/business/vrio-analysis/