Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
Social Enterprise Canvas 30

ผมได้ออกแบบ Social Enterprise Business Model Canvas
เพื่อให้กับธุรกิจในทุกระดับที่สนใจอยากจะเป็น SE (วิสาหกิจเพื่อสังคม)
วันนี้ผมเอาเครื่องมือตัวนี้มาแบ่งปันครับ
.
ในยุคที่ธุรกิจไม่ได้มีเพียงเป้าหมายเดียวคือการหากำไร แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย Business Model Canvas (BMC) แบบดั้งเดิมเริ่มไม่เพียงพอสำหรับการออกแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่มีความซับซ้อนและมีจุดประสงค์หลายมิติ
.
Social Enterprise Canvas คืออะไร?
.
Social Enterprise Business Model Canvas (SE Canvas) เป็นการปรับปรุงและพัฒนา Business Model Canvas ดั้งเดิมให้เหมาะสมกับธุรกิจที่มีภารกิจทางสังคมเป็นแกนหลัก โดยเพิ่มองค์ประกอบที่สำคัญที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานเพื่อสังคมและชุมชน
.
แนวคิดนี้เกิดจากการที่ Business Model Canvas ดั้งเดิมซึ่งพัฒนาโดย Alexander Osterwalder และ Yves Pigneur ในปี 2010 เน้นเฉพาะมุมมองทางธุรกิจและการสร้างกำไร โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน
.
ความแตกต่างหลักจาก BMC ปกติ
.
1. การเพิ่มมิติทางสังคม
SE Canvas เพิ่ม "Social Value Propositions" ขึ้นมาคู่กับ Value Propositions ปกติ เพื่อแยกให้เห็นชัดว่าธุรกิจนี้สร้างคุณค่าทางสังคมอะไรบ้าง นอกเหนือจากคุณค่าทางการค้า
.
2. การแยกลูกค้าและผู้รับประโยชน์
BMC ดั้งเดิมมองลูกค้าเป็นผู้จ่ายเงินเพียงกลุ่มเดียว แต่ SE Canvas แยก "Customer Segments" (ผู้ซื้อ) และ "Beneficiaries" (ผู้รับประโยชน์ทางสังคม) ออกจากกัน เพราะในหลายกรณี คนที่จ่ายเงินไม่ใช่คนที่ได้รับประโยชน์โดยตรง
.
3. จุดประสงค์หลักที่ชัดเจน
เพิ่ม "Your True Passion & Purpose" เป็นจุดศูนย์กลางของ Canvas เพื่อเตือนให้นักธุรกิจเพื่อสังคมไม่ลืมพันธกิจหลักท่ามกลางความซับซ้อนของการดำเนินงาน
.
4. การสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เพิ่ม "Buy-in Supports" เพื่อระบุกลุ่มคนที่เชื่อมั่นในพันธกิจและพร้อมสนับสนุน ซึ่งมีความสำคัญมากในธุรกิจเพื่อสังคมที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่นและการมีส่วนร่วมจากสังคม
.
5. แผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม
เพิ่ม "How to Implement" เพื่อบังคับให้คิดถึงขั้นตอนการนำแนวคิดไปปฏิบัติจริง เพราะธุรกิจเพื่อสังคมมักมีความซับซ้อนในการดำเนินงานมากกว่าธุรกิจทั่วไป
.
6. การวัดผลลัพธ์แบบองค์รวม
"Measurable Outcome" ประกอบด้วยสามส่วน: Social Mission (ผลกระทบทางสังคม), Trade Mission (ผลการดำเนินงานทางธุรกิจ), และ Re-investment Ratio (การนำกำไรกลับไปลงทุนเพื่อภารกิจสังคม) เพื่อให้เห็นภาพรวมของความสำเร็จในทุกมิติ
.
ทำไมต้องใช้ SE Canvas?
การใช้ SE Canvas ช่วยให้นักธุรกิจเพื่อสังคมเห็นภาพรวมที่สมบูรณ์ของโมเดลธุรกิจที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างกำไรและผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะการระบุความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างผู้ซื้อ ผู้รับประโยชน์ และผู้สนับสนุน ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเพื่อสังคมประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว
.
ในท้ายที่สุด SE Canvas ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือวางแผน แต่เป็นแนวทางคิดที่ช่วยให้เราออกแบบธุรกิจที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมอย่างยั่งยืน โดยไม่ละเลยความจำเป็นในการมีรายได้เพื่อการดำเนินงานต่อเนื่อง
มาดูคำอธิบายแต่ละส่วนของ Canvas และตัวอย่างธุรกิจ SE ซ TOMS Shoes "One for One" กันครับ
.
Your True Passion & Purpose
คำอธิบาย: จุดประสงค์หลักที่เป็นแรงขับเคลื่อนองค์กร TOMS: การแก้ปัญหาเด็กไม่มีรองเท้าใส่ด้วยแนวคิด "ช่วยเหลือผ่านการซื้อขาย" สร้างผลกระทบเชิงบวกแบบยั่งยืน
.
Key Partners
คำอธิบาย: พันธมิตรสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจทำงานได้ TOMS: ต้องอาศัย NGO ในการเข้าถึงเด็กยากไร้, โรงงานในการผลิต, ร้านค้าในการขาย - แต่ละฝ่ายมีความเชี่ยวชาญที่ TOMS ไม่มี
.
Key Activities
คำอธิบาย: กิจกรรมหลักที่ต้องทำเพื่อให้บิซเนสโมเดลทำงาน TOMS: ผลิตรองเท้าคุณภาพดี + จัดส่งรองเท้าบริจาค + สร้างแบรนด์ - ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ทำให้โมเดล "One for One" ไม่สำเร็จ
.
Key Resources
คำอธิบาย: ทรัพยากรสำคัญที่จำเป็นต่อการดำเนินงาน TOMS: แบรนด์คือสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด เพราะทำให้ขายได้ราคาสูงกว่าคู่แข่ง, เครือข่าย NGO คือกุญแจในการเข้าถึงผู้รับประโยชน์
.
Unique Value Propositions
คำอธิบาย: คุณค่าพิเศษที่เสนอให้ลูกค้าซื้อ แตกต่างจากคู่แข่ง TOMS: ลูกค้าได้รองเท้าสวย + ความภูมิใจที่ช่วยเหลือคนอื่น - ไม่ใช่แค่ซื้อรองเท้า แต่ซื้อ "ความหมาย"
.
Social Value Propositions
คำอธิบาย: คุณค่าทางสังคมที่สร้างให้ชุมชน/โลก TOMS: แก้ปัญหาสุขภาพเด็ก, เพิ่มโอกาสการศึกษา, สร้างงาน - เป็นการแก้ปัญหารากฐาน ไม่ใช่แค่บรรเทาอาการ
.
Customer Relationships
คำอธิบาย: วิธีการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า TOMS: ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็น "ส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง" ผ่านการเล่าเรื่องและภาพถ่าย – สร้างความผูกพันทางอารมณ์
.
Customer Segments
คำอธิบาย: กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน TOMS: คนที่มีกำลังซื้อ + มีจิตสำนึกทางสังคม + ชอบของง่ายๆ - เป็นตลาดเฉพาะ (niche) ที่ยอมจ่ายมากกว่าเพื่อคุณค่าทางสังคม
.
Channels
คำอธิบาย: ช่องทางในการเข้าถึงและขายให้ลูกค้า TOMS: ใช้หลายช่องทาง online + offline เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด และเลือกพันธมิตรที่เข้ากับ brand image
.
Buy-in Supports
คำอธิบาย: กลุ่มคนที่เชื่อมั่นและสนับสนุนพันธกิจ TOMS: เซเลบริตี้และ influencers ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ลูกค้าเก่าช่วยบอกต่อ – ทำให้ต้นทุนการตลาดลดลง
.
How to Implement
คำอธิบาย: ขั้นตอนการดำเนินงานจริง TOMS: มีระบบการทำงานที่ชัดเจน ตั้งแต่ขายจนถึงส่งมอบ - ความซับซ้อนของการจัดการ 2 ภารกิจพร้อมกัน
.
Beneficiaries
คำอธิบาย: กลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากภารกิจสังคม TOMS: เด็กยากไร้เป็นเป้าหมายหลัก แต่ผลกระทบขยายไปถึงครอบครัวและชุมชน - การแก้ปัญหาแบบ holistic
.
Cost Structure
คำอธิบาย: โครงสร้างค่าใช้จ่ายหลักในการดำเนินงาน TOMS: ต้นทุนสูงกว่าแบรนด์รองเท้าทั่วไป เพราะต้องผลิต 2 คู่ แต่ขายได้ 1 คู่ + ค่าขนส่งข้ามทวีป
.
Revenue Streams
คำอธิบาย: แหล่งรายได้หลักของธุรกิจ TOMS: เริ่มจากรองเท้า แต่ขยายไปสินค้าอื่น ใช้แนวคิด "One for One" เดียวกัน – สร้างรายได้หลากหลายแต่พันธกิจเดียว
.
Measurable Outcome
คำอธิบาย: ผลลัพธ์ที่วัดได้ทั้งด้านสังคมและธุรกิจ
• Social Mission: 100 ล้านคู่ = ผลกระทบที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นชีวิตเด็ก 100 ล้านคน
• Trade Mission: $625 ล้าน = พิสูจน์ว่าทำธุรกิจเพื่อสังคมได้กำไร
• Re-investment Ratio: 33% = เงินส่วนนี้เอากลับไปลงทุนเพื่อแก้ปัญหาสังคม แสดงความมุ่งมั่นจริงต่อภารกิจสังคม ไม่ใช่แค่กิมมิค
.......
สิ่งที่น่าสนใจของ SE : TOMS พิสูจน์ว่าการทำธุรกิจเพื่อสังคมไม่จำเป็นต้องเป็น charity – สามารถสร้างกำไรและผลกระทบทางสังคมไปพร้อมกันได้ - และนี่คือความหมายของการเป็น SE ครับ