หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหัตศิลป์ดินปั้นบ้านเหมืองกุง


วิสาหกิจชุมชนเครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้าน บ้านเหมืองกุง ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่

รายงานความก้าวหน้า

ไตรมาส ผลการดำเนินงาน งบประมาณที่ใช้ ผู้รับบริการ
4
[5707]

กิจกรรมที่ 1 การจัดอบรมความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการผลิตเซรามิกและการเคลือบเซรามิก
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้ประกอบการและช่างปั้นชุมชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกระบวนการผลิตเซรามิกเคลือบ
2. เพื่อสร้างความตระหนักถึงข้อจำกัดของการผลิตไฟต่ำ และเปิดโอกาสให้เห็นแนวทางการยกระดับคุณภาพงานด้วยการเผาไฟสูง
3. เพื่อวางรากฐานความเข้าใจร่วมกันสำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมเชิงลึกในหัวข้อถัดไป

รายละเอียดกิจกรรมที่ 1 ประกอบด้วยการบรรยายเชิงทฤษฎีควบคู่กับการสาธิตและฝึกปฏิบัติจริง โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่
(1.1) ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวัตถุดิบดินพื้นบ้านและการแปรรูปดินสำหรับการผลิตเซรามิก
(1.2) กระบวนการขึ้นรูปชิ้นงานที่เหมาะสมต่อการเผาไฟสูง
(1.3) หลักการเบื้องต้นของการเคลือบเซรามิก (glazing) ทั้งในด้านองค์ประกอบ วัสดุ และวิธีการลงเคลือบ
(1.4) การแนะนำระบบการเผาด้วยเตาแก๊ส ซึ่งแตกต่างจากการเผาด้วยเตาฟืนแบบดั้งเดิม ทั้งในด้านการควบคุมอุณหภูมิ บรรยากาศการเผา และความปลอดภัย
การดำเนินกิจกรรมมุ่งให้ผู้ประกอบการและช่างปั้นในชุมชนที่คุ้นเคยกับการผลิตเครื่องปั้นดินเผาไฟต่ำ ได้เปรียบเทียบและทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของกระบวนการผลิตเซรามิกเผาไฟสูง ทั้งในด้านเทคนิค คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และศักยภาพทางการตลาด
ผู้ร่วมกิจกรรม
(1) ช่างปั้นบ้านเหมืองกุงจำนวน 32 คน
(2) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาและผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ 8 คน

ประโยชน์ที่ได้รับ
(1) ผู้เข้าร่วมสามารถอธิบายความแตกต่างระหว่างการผลิตเครื่องปั้นดินเผาไฟต่ำกับการผลิตเซรามิกเผาไฟสูงได้
(2) ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์ตรงจากการสังเกตและทดลองในขั้นตอนการเตรียมดิน ขึ้นรูป และการเผาไฟสูงเบื้องต้น ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจและแรงจูงใจในการเข้าร่วมกิจกรรมเชิงลึกในลำดับต่อไ
(3) เกิดความตระหนักถึงการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตที่เชื่อมโยงกับความต้องการของตลาดและการท่องเที่ยว
ผลผลิต (Outputs)
(1) คู่มือการอบรมเบื้องต้น 1 ชุด
(2) บันทึกการเข้าร่วมอบรมของผู้เข้าร่วม 40 คน
(3) บันทึกเนื้อหาการสาธิตและประเด็นคำถาม–คำตอบจากผู้เข้าร่วม ซึ่งสะท้อนความเข้าใจและประเด็นที่ควรต่อยอดในการฝึกปฏิบัติครั้งต่อไป
ผลลัพธ์ (Outcomes)
(1) ผู้เข้าร่วมจำนวนไม่น้อยกว่า 80% แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจพื้นฐานด้านการเตรียมดิน การขึ้นรูป และการเผาไฟสูง
(2) ชุมชนมีแกนนำช่างที่พร้อมจะพัฒนาทักษะขั้นถัดไปด้านการเตรียมเคลือบและการควบคุมการเผา
แผนดำเนินงานต่อไป
ดำเนินการจัด กิจกรรมที่ 2 เรื่ององค์ประกอบและการเตรียมเคลือบ เพื่อยกระดับจากการเรียนรู้เชิงสังเกตในกิจกรรมที่ 1 สู่การฝึกปฏิบัติการจริง ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้หลักการเบื้องต้นขององค์ประกอบเคลือบ และวิธีการเตรียมสูตรน้ำเคลือบอย่างง่ายโดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่น
สรุปผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1
การจัดอบรมความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการผลิตเซรามิกและการเคลือบเซรามิก กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการและช่างปั้นในชุมชนบ้านเหมืองกุง จำนวน 32 คน ได้เรียนรู้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการผลิตเซรามิก โดยมุ่งเน้นการเปรียบเทียบระหว่างการผลิตเครื่องปั้นดินเผาไฟต่ำแบบดั้งเดิมซึ่งชุมชนปฏิบัติสืบต่อกันมากว่า 30 ปี กับกระบวนการผลิตเซรามิกเผาไฟสูงที่มีการใช้เคลือบและเตาแก๊สเป็นเทคโนโลยีหลัก การดำเนินงานประกอบด้วยการบรรยายเชิงทฤษฎีและการสาธิต เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เห็นขั้นตอนสำคัญ เช่น การเตรียมวัตถุดิบดิน การขึ้นรูปเบื้องต้น หลักการของน้ำเคลือบ และการแนะนำระบบการเผาด้วยเตาแก๊ส
จากการดำเนินกิจกรรม พบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ยังอยู่ในระยะทำความคุ้นเคยกับองค์ความรู้ใหม่ ไม่สามารถเข้าใจรายละเอียดทางเทคนิคทั้งหมดได้ทันที เนื่องจากประสบการณ์เดิมจำกัดอยู่เพียงการเผาด้วยเตาฟืน อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมอบรมได้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ทำให้ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงความแตกต่างของกระบวนการผลิตระหว่างไฟต่ำและไฟสูง และเห็นศักยภาพของการพัฒนาผลิตภัณฑ์เซรามิกที่มีคุณภาพสูงขึ้น ผลลัพธ์สำคัญคือการสร้างแรงจูงใจและความพร้อมเบื้องต้นในการเข้าร่วมกิจกรรมเชิงปฏิบัติในลำดับถัดไป ซึ่งจะเน้นการเรียนรู้ด้านองค์ประกอบและการเตรียมเคลือบต่อไป
 



รายงานโดย นางสาวอภิญญา ไชยวงค์ วันที่รายงาน 30/09/2568 [5707]
12040 40
4
[5708]

กิจกรรมที่ 2 การอบรมองค์ประกอบของเคลือบเซรามิกและการอบรมเชิงปฏิบัติการเตรียมเคลือบอย่างง่าย
วัตถุประสงค์
(1) เพื่อให้ผู้ประกอบการและช่างปั้นชุมชนเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานของเคลือบเซรามิก ทั้งด้านบทบาทของสารฟลักซ์ ซิลิกา และอะลูมินา
(2) เพื่อพัฒนาทักษะเบื้องต้นในการเตรียมสูตรน้ำเคลือบอย่างง่ายโดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ขี้เถ้าไม้ ดินแดง และดินพื้นบ้าน
(3) เพื่อสร้างรากฐานด้านการทดลองและการบันทึกข้อมูลเชิงเทคนิคที่สามารถนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาสูตรเคลือบเชิงลึกในระยะต่อไป

รายละเอียดกิจกรรม
กิจกรรมประกอบด้วยการบรรยายเชิงทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
(2.1) การเรียนรู้โครงสร้างทางเคมีของน้ำเคลือบและบทบาทของวัตถุดิบแต่ละชนิด
(2.2) การเตรียมสูตรน้ำเคลือบอย่างง่ายโดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น (เช่น ขี้เถ้าไม้ ดินแดง ดินพื้นบ้าน)
(2.3) การผสมและร่อนน้ำเคลือบให้ได้มาตรฐานเบื้องต้น (การควบคุมความหนืด ความถ่วงจำเพาะ และการกรองสิ่งเจือปน)
(2.4) การลงเคลือบตัวอย่างทดสอบและการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น เวลาการจุ่ม ความหนาของเคลือบ และลักษณะข้อบกพร่องเบื้องต้น
ผู้ร่วมกิจกรรม
(1) ช่างปั้นบ้านเหมืองกุง จำนวน 32 คน
(2) ผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จำนวน 8 คน
ประโยชน์ที่ได้รับ
(1) ผู้เข้าร่วมเข้าใจโครงสร้างและองค์ประกอบของน้ำเคลือบ และตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมวัตถุดิบอย่างเป็นระบบ
(2) ผู้เข้าร่วมสามารถทดลองเตรียมสูตรน้ำเคลือบอย่างง่ายด้วยตนเอง และเรียนรู้การบันทึกข้อมูลทางเทคนิคเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์
(3) ชุมชนเริ่มมีองค์ความรู้พื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีคุณภาพที่สูงขึ้นและเหมาะสมกับการใช้งานจริง

ผลผลิต (Outputs)
(1) เอกสารประกอบการอบรมและสูตรตัวอย่างน้ำเคลือบอย่างง่าย 1 ชุด
(2) บันทึกการเข้าร่วมอบรมของผู้เข้าร่วมจำนวน 40 คน
(3) ตารางบันทึกการเตรียมและทดสอบน้ำเคลือบที่ผู้เข้าร่วมจัดทำระหว่างการฝึกปฏิบัติ

ผลลัพธ์ (Outcomes)
(1) ผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 70% สามารถอธิบายบทบาทขององค์ประกอบหลักในน้ำเคลือบได้อย่างถูกต้อง
(2) ผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 60% สามารถเตรียมสูตรน้ำเคลือบอย่างง่ายและบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ ครบถ้วน
(3) ชุมชนเริ่มมีฐานข้อมูลสูตรน้ำเคลือบท้องถิ่นที่สามารถใช้พัฒนาและปรับปรุงต่อไปได้

แผนดำเนินงานต่อไป
นำสูตรน้ำเคลือบที่พัฒนาได้จากการอบรมเข้าสู่การเผาทดลองใน กิจกรรมที่ 3 เพื่อเรียนรู้การควบคุมเตาแก๊ส การเผาเคลือบ และการประเมินคุณภาพชิ้นงานจริง

สรุปผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 2
กิจกรรมนี้มุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบพื้นฐานของน้ำเคลือบเซรามิก ซึ่งประกอบด้วยสารกลุ่มฟลักซ์ ซิลิกา และอะลูมินา ตลอดจนการชี้ให้เห็นบทบาทของวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ขี้เถ้าไม้ ดินแดง และดินพื้นบ้าน ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาสูตรน้ำเคลือบเบื้องต้นได้ เนื้อหาดำเนินการผ่านทั้งการบรรยายเชิงทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติการจริง โดยผู้เข้าร่วมได้ทดลองเตรียมสูตรน้ำเคลือบอย่างง่ายด้วยตนเองภายใต้การแนะนำของวิทยากร
จากการดำเนินงาน พบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของเคลือบ แต่สามารถเข้าใจหลักการเบื้องต้น เช่น ความสำคัญของอัตราส่วนวัตถุดิบ การควบคุมความหนืด และการกรองสิ่งเจือปนก่อนนำไปใช้งาน แม้ว่าบางคนยังไม่สามารถอธิบายเชิงทฤษฎีได้ครบถ้วน แต่การได้ลงมือปฏิบัติช่วยสร้างความมั่นใจและแรงจูงใจมากขึ้น ผลที่สำคัญคือชุมชนเริ่มมีการสังเกตผลเบื้องต้น ซึ่งถือเป็นรากฐานในการสร้างฐานข้อมูลสูตรน้ำเคลือบท้องถิ่น
โดยสรุป กิจกรรมนี้ได้ช่วยยกระดับองค์ความรู้ของชุมชนจากการ “รับรู้ผ่านการดู” ในกิจกรรมที่ 1 สู่การ “ลงมือปฏิบัติ” และ “ทดลองเตรียมสูตร” ในกิจกรรมที่ 2 แม้ว่าจะยังไม่สามารถเข้าใจในเชิงลึกทั้งหมด แต่ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและทักษะเชิงปฏิบัติที่ชัดเจน ซึ่งจะต่อยอดสู่กิจกรรมที่ 3 เรื่องการควบคุมเตาและการเผา เพื่อเชื่อมโยงความรู้ด้านเคลือบกับการใช้งานจริงในกระบวนการผลิต
 



รายงานโดย นางสาวอภิญญา ไชยวงค์ วันที่รายงาน 30/09/2568 [5708]
45760 40
4
[5714]

กิจกรรมที่ 3 การอบรมการควบคุมเตาและการเผางานเซรามิก
วัตถุประสงค์
(1) เพื่อให้ผู้ประกอบการและช่างปั้นชุมชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการควบคุมอุณหภูมิและบรรยากาศภายในเตาแก๊ส
(2) เพื่อสร้างความเข้าใจด้านความปลอดภัยและมาตรการป้องกันในการใช้เตาแก๊สสำหรับการเผาเซรามิก
(3) เพื่อเตรียมความพร้อมในการเผาน้ำเคลือบที่ได้จากกิจกรรมก่อนหน้าให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน
รายละเอียดกิจกรรม กิจกรรมประกอบด้วยการบรรยายและสาธิตการทำงานของเตาแก๊สสำหรับการเผาเซรามิก โดยมีหัวข้อสำคัญ ได้แก่
(1) หลักการควบคุมอุณหภูมิแบบขั้นบันได (ramp/soak)
(2) การจัดเรียงและวางชิ้นงานภายในเตาเพื่อป้องกันความเสียหาย
(3) การควบคุมบรรยากาศการเผา (oxidation/reduction)
ผู้ร่วมกิจกรรม
(1) (1) ช่างปั้นบ้านเหมืองกุง 32 คน
(2) ผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จำนวน 8 คน
ประโยชน์ที่ได้รับ
(1) ผู้เข้าร่วมเข้าใจหลักการควบคุมเตาแก๊สและความสำคัญของการเผาที่มีเสถียรภาพ
(2) ผู้เข้าร่วมตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงานกับอุณหภูมิสูงและแก๊สเชื้อเพลิง
(3) เกิดการเรียนรู้ร่วมกันในการบันทึกข้อมูลการเผาเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลของชุมชน
ผลผลิต (Outputs)
(1) เอกสารคู่มือการควบคุมเตาแก๊สสำหรับผู้ปฏิบัติ 1 ชุด
(2) บันทึกการเข้าร่วมอบรมของผู้เข้าร่วมจำนวน 40 คน
(3) ตารางบันทึกการเผาทดลองอย่างน้อย 2 รอบ
ผลลัพธ์ (Outcomes)
(1) ผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 70% สามารถอธิบายขั้นตอนและความสำคัญของการควบคุมอุณหภูมิได้
(2) ผู้เข้าร่วมบางส่วนสามารถปฏิบัติหน้าที่ควบคุมเตาภายใต้การแนะนำของวิทยากรได้
(3) ชุมชนเริ่มมีข้อมูลอ้างอิงจากการเผาทดลองที่สามารถนำไปใช้ปรับปรุงการผลิตจริง
แผนดำเนินงานต่อไป
ใช้ทักษะการควบคุมเตาที่ได้รับในกิจกรรมนี้ต่อยอดสู่ กิจกรรมที่ 4 เพื่อฝึกปฏิบัติการเคลือบและการเผาชิ้นงานจริง
สรุปผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 3
การอบรมในกิจกรรมที่ 3 มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการและช่างปั้นในชุมชนบ้านเหมืองกุงเข้าใจหลักการทำงานของเตาแก๊สสำหรับการเผาเซรามิก ซึ่งแตกต่างจากประสบการณ์เดิมที่ใช้เตาฟืนมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี เนื้อหาครอบคลุมการควบคุมอุณหภูมิ การจัดเรียงชิ้นงาน การเลือกบรรยากาศการเผา (oxidation/reduction) การอ่าน cone และมาตรการด้านความปลอดภัย กิจกรรมประกอบด้วยการบรรยาย การสาธิต และการลงมือปฏิบัติภายใต้การดูแลของวิทยากร
ผลการดำเนินงานพบว่า ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่สามารถเข้าใจแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการควบคุมอุณหภูมิและความสำคัญของการเผาที่มีเสถียรภาพ แม้หลายคนยังไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างมั่นใจ แต่เริ่มตระหนักถึงความแตกต่างของระบบการเผาและความสำคัญของการบันทึกข้อมูลการเผาอย่างเป็นระบบ การเรียนรู้ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ช่วยลดความกังวลของผู้เข้าร่วมต่อการใช้เทคโนโลยีเตาแก๊ส
โดยสรุป กิจกรรมที่ 3 ช่วยวางรากฐานสำคัญให้แก่ชุมชนในการเปลี่ยนผ่านจากการเผาด้วยเตาฟืนไปสู่การเผาเคลือบไฟสูง ผู้เข้าร่วมเริ่มมีทักษะการสังเกตและบันทึกข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ปรับปรุงการผลิตในอนาคต อีกทั้งยังสร้างแรงจูงใจให้ชุมชนพร้อมสำหรับการเข้าสู่กิจกรรมที่ 4 ซึ่งเป็นการฝึกปฏิบัติการเคลือบและการเผาชิ้นงานจริง
 



รายงานโดย นางสาวอภิญญา ไชยวงค์ วันที่รายงาน 30/09/2568 [5714]
31760 40
4
[5716]

กิจกรรมที่ 4 การฝึกปฏิบัติการทำเคลือบ การเคลือบชิ้นงาน และการเผาเคลือบ
วัตถุประสงค์
(1) เพื่อพัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติในการเตรียมน้ำเคลือบ ลงเคลือบ และการเผาชิ้นงานจริง
(2) เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจการประเมินคุณภาพชิ้นงานหลังการเผา ทั้งในด้านความสวยงามและความทนทาน
(3) เพื่อสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์เผาเคลือบที่สามารถใช้เป็นตัวอย่างสำหรับการพัฒนาต่อไป
รายละเอียดกิจกรรม กิจกรรมนี้เป็นการบูรณาการความรู้จากกิจกรรมที่ 2 และ 3 โดยผู้เข้าร่วมได้ทดลอง
(1) การเตรียมชิ้นงานก่อนลงเคลือบ (การทำความสะอาดผิว ปรับสภาพพื้นผิว)
(2) การลงเคลือบด้วยวิธีจุ่ม ราด หรือพ่น ตามความเหมาะสมของแต่ละสูตร
(3) การอบแห้งและการเผาในเตาแก๊สตาม curve ที่กำหนด
(4) การตรวจสอบคุณภาพชิ้นงานหลังการเผา
ผู้ร่วมกิจกรรม
(1) ช่างปั้นบ้านเหมืองกุง 32 คน
(2) วิทยากรและนักวิจัย RMUTL 8 คน
ประโยชน์ที่ได้รับ
(1) ผู้เข้าร่วมสามารถเชื่อมโยงความรู้ด้านสูตรเคลือบกับกระบวนการเผาได้จริง
(2) เกิดความเข้าใจถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเคลือบไม่สม่ำเสมอ การแตกร้าว หรือการเกิดข้อบกพร่องบนผิวเคลือบ
(3) ได้เห็นชิ้นงานตัวอย่างจริงซึ่งใช้เป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ในอนาคต
Outputs
(1) บันทึกการเข้าร่วมของผู้เข้าร่วม 40 คน
(2) ตารางบันทึกการลงเคลือบและการเผาทดลอง
(3) รายงานข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณภาพชิ้นงานหลังการเผา
Outcomes
(1) ผู้เข้าร่วมมากกว่า 70% สามารถปฏิบัติขั้นตอนการลงเคลือบและการเผาได้ด้วยตนเองภายใต้การดูแล
(2) เกิดความเข้าใจเชิงปฏิบัติในการประเมินคุณภาพชิ้นงานจริง
แผนดำเนินงานต่อไป นำชิ้นงานต้นแบบที่ได้ไปใช้ในการทดสอบตลาดในกิจกรรมที่ 5
 



รายงานโดย นางสาวอภิญญา ไชยวงค์ วันที่รายงาน 30/09/2568 [5716]
24160 40
4
[5718]

กิจกรรมที่ 5 กิจกรรมทดสอบตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวชุมชนและตลาดงานคราฟท์
วัตถุประสงค์
(1) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคที่ตลาดงานคราฟท์ One Nimman ต่อผลิตภัณฑ์เผาเคลือบต้นแบบ
(2) เพื่อเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพเกี่ยวกับราคา รูปแบบ สีสัน และบรรจุภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวเห็นว่าเหมาะสม
(3) เพื่อใช้ข้อมูลดังกล่าวในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดจริงและสามารถแข่งขันได้
รายละเอียดกิจกรรม
กิจกรรมนี้ได้นำผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากกิจกรรมที่ 4 ได้แก่ ถ้วยชา แจกัน ของใช้บนโต๊ะอาหาร และของที่ระลึกขนาดเล็ก ไปจัดแสดงและทดลองจำหน่ายใน พื้นที่ตลาดงานคราฟท์ One Nimman จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดหมายที่มีทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ รวมถึงผู้บริโภคที่ชื่นชอบงานออกแบบและหัตถกรรมร่วมสมัย

การดำเนินงานประกอบด้วย 3 ขั้นตอน:
1. การจัดแสดงและจำหน่ายทดลอง – ตั้งบูธจำหน่ายร่วมกับสินค้าอื่น ๆ ในตลาด โดยมีตัวแทนชุมชนเป็นผู้สื่อสารเรื่องราวและที่มาของผลิตภัณฑ์เซรามิกบ้านเหมืองกุง
2. การเก็บข้อมูลผู้บริโภค – ใช้วิธีการสัมภาษณ์สั้น การสังเกตพฤติกรรมการเลือกซื้อ และแบบสอบถาม เพื่อประเมินความพึงพอใจในด้านการใช้งาน รูปแบบ และราคา
3. การสรุปข้อมูล – ทีมวิจัยและแกนนำร่วมกันถอดบทเรียน วิเคราะห์ข้อเสนอแนะ และระบุแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจสูงสุด
ผู้ร่วมกิจกรรม
(1) นักท่องเที่ยวและผู้ซื้อจริงจำนวน 10 คน (ทั้งไทยและต่างชาติ)
(2) ตัวแทนบ้านเหมืองกุง
(3) ทีผู้จัดทำโครงการ ทำหน้าที่เก็บข้อมูลและสังเกตการณ์
ประโยชน์ที่ได้รับ
(1) ได้ข้อมูลตรงจากตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพสูงด้านงานคราฟท์และนักท่องเที่ยวคุณภาพ
(2) ชุมชนเรียนรู้การนำเสนอผลิตภัณฑ์ในสภาพแวดล้อมจริงที่มีการแข่งขัน
(3) เห็นชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ขนาดเล็ก สีสันที่ร่วมสมัย และราคาที่เข้าถึงง่าย มีแนวโน้มตอบโจทย์ตลาด
Outputs
(1) แบบสอบถามและบันทึกสัมภาษณ์ผู้ซื้อพร้อมการสรุปผล
(2) บันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเลือกซื้อในบูธ One Nimman
(3) รายงานข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการนำเสนอ
Outcomes
(1) ได้ข้อมูลชัดเจนว่าผู้บริโภคสนใจผลิตภัณฑ์ขนาดเล็ก เช่น ถ้วยชา และของที่ระลึก มากกว่าผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่
(2) ผู้เข้าร่วมตลาดสะท้อนว่าบรรจุภัณฑ์และการเล่าเรื่องผลิตภัณฑ์มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ
(3) ชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของการเก็บข้อมูลตลาดจริงและการปรับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
แผนดำเนินงานต่อไป
(1) นำผลการทดสอบจาก One Nimman มาปรับปรุงแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
(2) ขยายการทดสอบตลาดในพื้นที่อื่น ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวคุณภาพ เช่น ตลาดจริงใจ หรือร้านค้าเครือข่ายคราฟท์ในเชียงใหม่
สรุปผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 5 กิจกรรมทดสอบตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวชุมชนและตลาดงานคราฟท์ One Nimman
การนำผลิตภัณฑ์เซรามิกเผาเคลือบต้นแบบไปทดลองจำหน่ายที่ One Nimman ทำให้ชุมชนบ้านเหมืองกุงได้สัมผัสความคิดเห็นตรงจากผู้บริโภคจริงในตลาดงานคราฟท์ที่มีความเป็นสากล โดยมีทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ รวมถึงผู้บริโภคที่นิยมสินค้างานคราฟท์ร่วมสมัย ผลที่ได้มีความน่าสนใจในหลายมิติ ได้แก่
- ความสนใจในผลิตภัณฑ์: ผู้ซื้อส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับสินค้าขนาดเล็ก เช่น ถ้วยชาและของที่ระลึก เนื่องจากพกพาสะดวก ราคาไม่สูง และสามารถซื้อเป็นของฝากได้ง่าย ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ เช่น แจกันหรือโอ่ง กลับถูกมองว่ายากต่อการขนส่ง
- ข้อเสนอแนะด้านดีไซน์: นักท่องเที่ยวต่างชาติแสดงความชื่นชมในความดิบและลวดลายที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น แต่เสนอว่าควรมีโทนสีและรูปทรงที่ร่วมสมัยมากขึ้นเพื่อให้เข้ากับบ้านและการใช้งานจริง ขณะที่ผู้ซื้อชาวไทยสนใจงานที่ผสมผสานระหว่างความเป็นพื้นบ้านกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น จาน ถ้วย และแก้ว
- ประเด็นด้านราคา: ผู้ซื้อส่วนใหญ่ยอมรับระดับราคาของผลิตภัณฑ์ขนาดเล็ก (100–300 บาท) แต่เห็นว่าผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ยังมีราคาสูงเมื่อเทียบกับความสะดวกในการซื้อและการขนส่ง
- บรรจุภัณฑ์และการเล่าเรื่อง (Storytelling): นักท่องเที่ยวหลายคนให้ข้อเสนอว่า หากมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามพร้อมข้อมูลสั้น ๆ เกี่ยวกับ “บ้านเหมืองกุง” และเรื่องราวของช่างปั้น จะช่วยเพิ่มคุณค่าและทำให้การตัดสินใจซื้อเกิดขึ้นง่ายขึ้น
โดยรวมแล้ว กิจกรรมนี้ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตลาดงานคราฟท์ไม่ได้มองแค่คุณค่าทางศิลป์ แต่ให้ความสำคัญกับการใช้งานจริง ความสะดวก และเรื่องราวที่มาของผลิตภัณฑ์ การเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากผู้ซื้อครั้งนี้จึงไม่เพียงช่วยให้ชุมชนรู้ว่าผลิตภัณฑ์ใด “ขายได้” แต่ยังชี้ให้เห็นว่าควรปรับปรุงในด้านใดบ้าง ทั้งรูปแบบ สีสัน ราคา และการสื่อสารคุณค่า
การดำเนินกิจกรรมที่ One Nimman จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่ยืนยันศักยภาพของผลิตภัณฑ์เซรามิกบ้านเหมืองกุงในตลาดร่วมสมัย และเป็นจุดเริ่มต้นของการนำงานวิจัยและการพัฒนาเข้าสู่การทดสอบในสภาพแวดล้อมการตลาดจริง ที่สามารถสะท้อนความต้องการของผู้บริโภคได้โดยตรง
 



รายงานโดย นางสาวอภิญญา ไชยวงค์ วันที่รายงาน 30/09/2568 [5718]
32760 10
4
[5719]

กิจกรรมที่ 6 การพัฒนาแผนการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วม (Workshop) เชิงวัฒนธรรม
วัตถุประสงค์
(1) เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างชุมชน ภาคการศึกษา และหน่วยงานท้องถิ่นในการออกแบบแผนพัฒนาหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านเหมืองกุง
(2) เพื่อบูรณาการกิจกรรมด้านเซรามิกเข้ากับการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้และวัฒนธรรมท้องถิ่น
(3) เพื่อจัดทำร่างแผนการท่องเที่ยวที่สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการเจรจาและพัฒนาแนวทางร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในระยะถัดไป
รายละเอียดกิจกรรม
กิจกรรมนี้จัดเป็น workshop ระดมความคิดเห็น โดยเริ่มจากการนำเสนอภาพรวมผลการดำเนินงานกิจกรรม 1–5 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจพัฒนาการของโครงการ หลังจากนั้นได้แบ่งกลุ่มย่อยเพื่อร่วมกันออกแบบแผนการท่องเที่ยว โดยเน้นประเด็นสำคัญดังนี้:
(1) การออกแบบโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ เช่น การปั้นดิน การเพ้นต์ และการเผา
(2) การคัดเลือกจุดเรียนรู้และเส้นทางท่องเที่ยวในหมู่บ้าน เช่น บ้านช่างปั้น ศูนย์เรียนรู้ และพื้นที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์
(3) การวิเคราะห์ความพร้อมและข้อจำกัดของชุมชน เช่น บุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน การรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว
(4) การวางแนวทางเชื่อมโยงกับตลาดนักท่องเที่ยวในอนาคต โดยกำหนดให้ผลจาก workshop นี้เป็น ร่างแผนเบื้องต้น ที่สามารถนำไปหารือและพัฒนาร่วมกับ ททท. ในระยะต่อไป
ผู้ร่วมกิจกรรม
(1) ช่างปั้นและแกนนำชุมชนบ้านเหมืองกุง 30 คน
(2) นักวิจัยและผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้จาก RMUTL 10 คน
ประโยชน์ที่ได้รับ
(1) ชุมชนได้มีส่วนร่วมออกแบบแผนการท่องเที่ยวด้วยตนเอง ทำให้เกิดความเป็นเจ้าของแผน
(2) ได้แนวทางที่เชื่อมโยงระหว่างงานพัฒนาผลิตภัณฑ์เซรามิกกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
(3) มีร่างแผนที่สามารถใช้เป็นข้อมูลในการนำเสนอต่อ ททท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอนาคต
Outputs
(1) ร่างแผนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านเหมืองกุง 1 ฉบับ
(2) รายงานสรุปผล workshop และข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วม
Outcomes
(1) ชุมชนมีแผนการท่องเที่ยวเบื้องต้นที่เกิดจากการมีส่วนร่วม และสามารถพัฒนาต่อยอดได้
(2) เกิดความเข้าใจร่วมในชุมชนถึงบทบาทของการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ในการสร้างรายได้และรักษาภูมิปัญญา
(3) มีเอกสารพร้อมนำไปหารือกับ ททท. และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผล
แผนดำเนินงานต่อไป จัดเตรียมการนำเสนอร่างแผนแก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาความร่วมมือในการสนับสนุนและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวชุมชน
สรุปผลการดำเนินงาน
กิจกรรมที่ 6 ทำให้ชุมชนบ้านเหมืองกุงก้าวจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปสู่การออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วม ผลที่ได้คือร่างแผนการท่องเที่ยวที่เกิดจากเสียงของชุมชนเองและสะท้อนศักยภาพที่แท้จริง แม้ว่าททท. ยังไม่ได้เข้าร่วมในขั้นนี้ แต่แผนที่ได้ถือเป็นเอกสารสำคัญที่จะถูกนำไปใช้ในการเจรจาและขอการสนับสนุนจากททท. ในระยะต่อไป กิจกรรมนี้จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชุมชนเริ่มมองเห็นทิศทางการพัฒนาในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีเรื่องราวและอัตลักษณ์เฉพาะตัว
 



รายงานโดย นางสาวอภิญญา ไชยวงค์ วันที่รายงาน 30/09/2568 [5719]
28200 40
4
[5720]

กิจกรรมที่ 7 การประเมินผล สรุปองค์ความรู้ และการพัฒนาทักษะของชุมชนปีที่ 1
วัตถุประสงค์
(1) เพื่อประเมินผลการดำเนินงานกิจกรรม 1–6 และสรุปบทเรียนที่ได้จากการดำเนินงานปีแรก
(2) เพื่อรวบรวมองค์ความรู้และทักษะที่ชุมชนได้รับจริง รวมถึงข้อจำกัดและปัญหาที่พบ
(3) เพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงกลยุทธ์และวางแนวทางการพัฒนาต่อเนื่องสำหรับปีที่ 2
รายละเอียดกิจกรรม
กิจกรรมนี้จัดเป็นการประชุมกลุ่มเล็ก โดยเชิญแกนนำชุมชนบ้านเหมืองกุง 3-5 คน และทีมวิจัย RMUTL 5 คน เข้าร่วมเพื่อ
(1) ทบทวนผลลัพธ์จากกิจกรรม 1–6 ทั้งในด้าน Outputs และ Outcomes
(2) วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และข้อจำกัด (SWOT) ของโครงการในปีแรก
(3) สรุปองค์ความรู้ที่ถ่ายทอด เช่น ความเข้าใจพื้นฐานด้านการผลิตเซรามิกเผาไฟสูง การเตรียมน้ำเคลือบ การควบคุมการเผา และการทดสอบตลาดจริง
(4) ระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะสำหรับปีที่ 2 โดยเน้นการพัฒนาทักษะเชิงลึก (สูตรเคลือบ บรรจุภัณฑ์ การตลาด) และการสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานภายนอก
ผู้ร่วมกิจกรรม
(1) แกนนำชุมชนบ้านเหมืองกุง 5 คน
(2) ทีมวิจัยและผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ RMUTL 5 คน
ประโยชน์ที่ได้รับ
(1) ชุมชนได้ทบทวนพัฒนาการของตนเองและตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริง
(2) ทีมวิจัยได้รับข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อนำไปปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน
(3) เกิดการวางแผนต่อเนื่องที่มีความสอดคล้องกับบริบทจริงของชุมชน
Outputs
(1) รายงานการประเมินผลการดำเนินงานปีที่ 1
(2) สรุปองค์ความรู้และข้อเสนอเชิงกลยุทธ์สำหรับปีที่ 2
Outcomes
(1) ชุมชนเห็นภาพรวมพัฒนาการที่เกิดขึ้นจาก “การสังเกต–ทดลอง–ทดสอบตลาด–ออกแบบการท่องเที่ยว” เป็นวงจรที่สมบูรณ์ในปีแรก
(2) ได้แผนปฏิบัติการเบื้องต้นสำหรับปีที่ 2 ที่มุ่งเน้นการเสริมทักษะเชิงลึกและขยายช่องทางการตลาด
(3) เกิดความมั่นใจและแรงจูงใจของชุมชนที่จะพัฒนาต่อไป แม้ยังมีข้อจำกัดด้านเทคนิคและการบริหารจัดการ
แผนดำเนินงานต่อไป
(1) ขยายการเรียนรู้จากระดับพื้นฐานสู่ การฝึกปฏิบัติ โดยเน้นการทดลองและปรับใช้สูตรเคลือบที่เหมาะสมกับดินท้องถิ่น รวมทั้งการควบคุมการเผาไฟสูงอย่างเป็นระบบ
(2) พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มี เอกลักษณ์และคุณภาพเชิงพาณิชย์ มากขึ้น ผ่านการออกแบบรูปแบบงานและการบรรจุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับบริบทตลาดงานคราฟท์และการท่องเที่ยว
(3) ใช้ผลการเรียนรู้และแผนการท่องเที่ยวที่ได้จากปีแรกเป็น ฐานข้อมูลสำหรับการหารือและสร้างความร่วมมือ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และเครือข่ายตลาดสร้างสรรค์ เพื่อขยายโอกาสเชิงเศรษฐกิจและการตลาดของชุมชน

สรุปผลการดำเนินงาน
กิจกรรมที่ 7 เป็นการปิดท้ายปีแรกของโครงการ โดยทำหน้าที่ทบทวนและสรุปองค์ความรู้จากกิจกรรมทั้งหมดอย่างเป็นระบบ ผลการประชุมสะท้อนว่าชุมชนบ้านเหมืองกุงมีพัฒนาการชัดเจนจากการผลิตไฟต่ำสู่การเรียนรู้ไฟสูง การทดลองเคลือบและเผาชิ้นงาน การนำไปทดสอบตลาดจริง และการออกแบบแผนท่องเที่ยว แม้ยังมีความท้าทายด้านความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและการเข้าถึงตลาด แต่การได้แผนพัฒนาต่อเนื่องสำหรับปีที่ 2 ทำให้ชุมชนและทีมวิจัยมีทิศทางร่วมกันในการยกระดับผลิตภัณฑ์และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต
 



รายงานโดย นางสาวอภิญญา ไชยวงค์ วันที่รายงาน 30/09/2568 [5720]
8020 10
4
[5721]

ค่าสาธารณูปโภค 10%



รายงานโดย นางสาวอภิญญา ไชยวงค์ วันที่รายงาน 30/09/2568 [5721]
20300 0