หมู่บ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน ผ้าไหม GI คึมมะอุบัวลาย
บ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน หมู่ที่ 3,9 ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา
ผล : ปี2567 1.การฟอกเส้นไหมด้วยวิธีทางเคมี และวิธีแบบธรรมชาติ 2.การสกัดสีจากวัสดุธรรมชาติแต่ละชนิด 3.เทคนิคการย้อมสีเส้นไหม เพื่อให้เกิดความคงทน และสีไม่ตก เมื่อส่งตรวจมาตรฐาน ปี2568 1. พัฒนากระบวนการออกแบบลายผ้า และการแปรรูปจากผ้าไหม ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภค 2.การแปรรูปจากผ้าไหม ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภค 3. การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยววัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน 4.ศูนย์เรียนรู้ด้านผ้าไหม เล่าเรื่องผืนไหม ไขตำนานชุมชนผ่านสื่อวีดีโอ
ผล : ปี2567 1.ได้วิธีการในการลอกกกาว การเติมสารต่างๆ ทำอย่างไรเส้นไหมถึงขาว และเมื่อนำไปย้อมสีแล้วติดง่ายและสม่ำเสมอ 2.พืชที่ให้สีประกอบด้วย ได้เทคนิคการสกัดสี เช่น ครั่ง สีแดง เปลือกประโหด สีเหลือง แก่นเข สีเหลือง เปลือกยูคาลิตัส สีเทา 3.การใช้สารช่วยย้อมในการย้อมสี มี 2 วิธี คือ 1. การใช้สารช่วยย้อมก่อนการย้อมสี 2. การใช้สารช่วยย้อมหลังการย้อมสี ปี2568 1.แบบลายมัดหมี่ที่ได้ 1. ลายบัวตอง 48 ลำ 2. ลายกระดุมทอง 20 ลำ 3. ลายดอกผักแว่น 25 ลำ 2.ชุดต้นแบบ จำนวน 4 ชิ้นประกอบด้วย ชุดสูท และชุดเสื้อคลุม 3.ป้ายประชาสัมพันธ์ ในการเรียนรู้ด้านต่างๆเช่น 1.การปลูกหม่อน 2.การเลี้ยงไหม 3.ผ้าไหม GI คึมมะอุบัวลาย 4.การออกแบบลาย 5.การลอกกาว 6.การย้อมสี 7.ภาพรวมโครงการ 4.คลิปวิดีโอ จำนวน 7 คลิป ครอบคลุมกระบวนการผลิตผ้าไหม GI บ้านคึมมะอุแบบครบวงจร
ผล : (1) ผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่น รายได้ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนที่ลดลง เป็นต้น โดยแสดงข้อมูลเปรียบเทียบก่อน หลังดำเนินโครงการ (ระบุที่มาของข้อมูล) พร้อมแสดงวิธีการคำนวณให้ชัดเจน เพิ่มรายได้ (แสดงรายการ วิธีการหารายได้จากการนำองค์ความรู้/เทคโนโลยีไปพัฒนาธุรกิจของของชุมชน/หมู่บ้าน) โปรดระบุ จากการดำเนินโครงการ 2 ปีที่ผ่านมา ชุมชนให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองมากขึ้น เล็งเห็นถึงมาตรฐานต่างๆ ที่ทางกลุ่มทอผ้า ร่วมกับมหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานราชการต่างๆ ในการเข้าร่วมขอมาตรฐานต่างๆ เช่น มาตรฐานตรานกยุงพระราชทาน มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน มผช. และมาตรฐานสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย GI ซึ่งกลุ่มเองได้มาตรฐานต่างๆ จากการร่วมมือของสมาชิก จากการที่นำเององค์ความรู้จากโครงการ ไปต่อยอดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถเพิ่มรายได้ของชุมชน จากอาชีพการทอผ้า และสามารถเกิดการท่องเที่ยวในชุมชนสามารถสร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับชุมชนเพิ่มขึ้นต่อชิ้น 500-1,000 บาท ต่อผืน ทั้งนี้ภายในกลุ่มมีประธานที่เข้มแข็งเป็นศูนย์รวมของกลุ่ม เป็นตัวขับเคลื่อนกลุ่มทอผ้า เป็นตลาดเป็นนายหน้าเป็นผู้หาออเดอร์ ให้กับสมาชิก ส่งผลทำให้สมาชิกมารายได้จากการทอผ้าอยู่เป็นประจำ และชุมชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมที่มีคุณภาพสูงและมีความเป็นเอกลักษณ์ สร้างรายได้เพิ่มเติมและขยายโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศต่อไป ลดรายจ่าย (แสดงรายการ วิธีการที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้เข้าร่วมโครงการเมื่อได้นำองค์ความรู้/เทคโนโลยีไปปรับใช้ โปรดระบุ กลุ่มมีการเลี้ยงไหมและผลิตเส้นไหมเอง โดยมีการนำเข้าเส้นไหมจากภายนอกเข้ามาน้อยมาก จุดเป็นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการลดต้นทุนการผลิตได้มา เนื่องจากปัจจุบันเส้นไหมมีราคาแพงมาก ภายในกลุ่มขายเส้นไหมดิบอยู่ที่ 1,800-2,000 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม แต่ถ้าเป็นเส้นไหมจากโรงงานราคาอยูที่ 3,000-3,500 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม เมื่อมีการนำองค์ความรู้/เทคโนโลยีไปใช้ในชุมชนสามารถเพิ่มรายได้ของชุมชน สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสีย้อมเคมีที่ปัจจุบันกลุ่มใช้เป็นประจำ โดยเปลี่ยนมาใช้พืชในชุมชนมาสกัดเป็นสีย้อมเส้นไหมแทน จากกระบวนการผลิตผ้าไหม ตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ ในองค์ความรู้ที่ถ่ายทอดไป สามารถลดค่าใช้จ่าย โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ หรือความร่วมมือของชุมชนเอง (2) ผลกระทรบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการลดของเสียจากกระบวนการผลิต เป็นต้น โดยแสดงข้อมูลเปรียบเทียบก่อน - หลังดำเนินโครงการ (ระบุที่มาของข้อมูล) พร้อมแสดงกระบวนการดำเนินให้ชัดเจน ปัจจุบันกลุ่มทอผ้ายังคงใช้สีเคมี และสีธรรมชาติในการย้อมเส้นใยไหม จากการดำเนินโครงการมาแล้ว 2 ปี สมาชิกในกลุ่มให้ความสำคัญในการหันมาใช้สีธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากขายได้ราคาเพิ่มขึ้น และขายได้ง่าย แต่ขั้นตอนกระบวนการย้อมสีธรรมชาติ ยังคงต้องใช้ระยะเวลาในการทำงานมากกว่าสีเคมี แต่สีที่เหลือจากการย้อมเส้นไหมจากธรรมชาติ เราสามารถที่จะเทลงพื้นได้เลย ไม่เหมือนสีที่เหลือจากเคมีต้องหาวิธีการกำจัดหรือพักน้ำทิ้งไว้ก่อน เมื่อชุมชนหันมาใช้สีย้อมจากธรรมชาติ ทำให้ลดปัญหาด้านมลพิษของน้ำสีจากเคมีที่เหลือจากการย้อมลงได้ และทำให้ดีต่อผู้ผลิตในด้านสุขภาพดีขึ้น และสามารถพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านและชุมชนต่อไป (3) ผลกระทบด้านสังคม เช่น สร้างความร่วมมือในชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิต เป็นต้น โดยแสดงกระบวนการดำเนินให้ชัดเจน กลุ่มทอผ้าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และโครงสร้างของกลุ่มมีความเข้มแข็ง ปัจจุบันมีสมาชิก 150 คน ถือว่าเป็นกลุ่มที่ใหญ่มาก โดยทางกลุ่มมีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การทอผ้า และการตลาด ภายในกลุ่มเอง กลุ่มจะแบบออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ 1.กลุ่มที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม แล้วก็ทอผ้า ทำทุกอย่างตั้งแต่เลี้ยงไหมจนถึงการทอผ้า 2.กลุ่มที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ขายรังไหม ขายเส้นไหม อย่างเดียว บางครอบครัวก็ทำงานช่วยกันทั้งพ่อ แม่ หรือมีลูกมาช่วย เกิดการสร้างรายได้ในครอบครับ ทั้งนี้การเลี้ยงไหม ใน 1 ปี สามารถเลี้ยงไหมได้ 7-8 รอบต่อปี ถือว่าเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ได้ทั้งปี นี้นับเฉพาะการเลี้ยงไหม ยังไม่รวมการทอผ้า ที่ต้องเอาเวลาว่างจากการเกษตรมาทำอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้ ผู้นำในชุมชนเล็งเห็นความสำคัญ ในการส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่ม และพยายามมองหากลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาเรียนรู้ และเป็นกำลังหลักต่อไปในอนาคต เพื่อให้การพัฒนาตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ๆ มากขึ้น ส่งผลให้คนในสังคมมีส่วนร่วมมากขึ้น จากผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจะช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะตอนรับกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ภายในพื้นที่คือ งานพืชสวนโลก ในปี พ.ศ. 2572 จะช่วยให้ชุมชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ หรือเห็นความสำคัญของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้น และสามารถสร้างเส้นทางท่องเที่ยวของชุมชน สามารถที่จะสร้างงาน สร้างอาชีพใหม่ๆให้กับคนในชุมชนได้ พร้อมทั้งการสร้างแหล่งเรียนรู้ทางด้านกระบวนการของผ้าไหม ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ส่งผลให้เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน สมาชิกในชุมชนได้รับการพัฒนาในด้านทักษะอาชีพ ความคิดสร้างสรรค์ และความรู้ด้านการตลาด ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและการพึ่งพาตนเอง และสามารถการช่วยเชื่อมโยงชุมชนเข้ากับองค์กร หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เกิดความร่วมมือในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน
รายงานความก้าวหน้า
ไตรมาส | ผลการดำเนินงาน | งบประมาณที่ใช้ | ผู้รับบริการ |
---|---|---|---|
2 [5407] |
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 คลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยนาย ยุทธนา ตอสกุล ผู้จัดการคลินิกเทคโนโลยี และนายธีระวัฒน์ เรืองมะเริง เจ้าหน้าที่คลินิกเทคโนโลยี ได้ลงพื้นที่วางแผนการดำเนินการจัดกิจกรรมและติดตามการดำเนินโครงการในปีที่ผ่านมา โครงการหมู่บ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน ผ้าไหม GIคึมมะอุบัวลาย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน บ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา โดยมี นางวันเพ็ญ แสงกันหา ประธานกลุ่ม พร้อมด้วยสมาชิก 5 คนวางแผนในการดำเนินกิจกรรมที่ 1 การพัฒนากระบวนการออกแบบลายผ้า การแปรรูปผ้าไหม ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภค ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2568 และวางแผนการดำเนินกิจกรรมที่ 2 การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ชุมชนในช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม 2568 รายงานโดย นายยุทธนา ตอสกุล วันที่รายงาน 31/01/2568 [5407] |
3500 | 6 |
2 [5419] |
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 คลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยนาย ยุทธนา ตอสกุล ผู้จัดการคลินิกเทคโนโลยี และนายธีระวัฒน์ เรืองมะเริง เจ้าหน้าที่คลินิกเทคโนโลยี ได้ลงพื้นที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน หมู่บ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา โดยมี นางวันเพ็ญ แสงกันหา ประธานกลุ่ม พร้อมด้วยสมาชิก 5 คน ทั้งนี้ในการลงพื้นที่ในครั้งนี้มี 2 ประเด็นคือ 1. เพื่อนำเสนอรายงานการติดตามผลดำเนินงานโครงการหมู่บ้านวิทยาศาสตร์ ณ ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน ประจำปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา ในประชุมในครั้งนี้มีประธานกลุ่มและสมาชิกเข้าร่วมการประชุมด้วยกันทั้งสิ้น 5 คน ได้เข้าร่วมการประชุม และพูดคุยกับทางคณะกรรมการ/ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะในการดำเนินงานต่อไป 2. เพื่อหารือในประเด็นการพัฒนาการออกแบบลวดลายผ้าไหมให้ทันสมัย นอกจากนี้ได้รวมวางแผนในการดำเนินกิจกรรมที่ 1 การพัฒนากระบวนการออกแบบลายผ้า การแปรรูปผ้าไหม ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภค และวางแผนการดำเนินกิจกรรมที่ 2 การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ชุมชน รายงานโดย นายยุทธนา ตอสกุล วันที่รายงาน 21/03/2568 [5419] |
3500 | 5 |
3 [5493] |
เมื่อวันที่ 5-7 เมษายน 2568 ลงพื้นที่จัดกิจกรรม ภายใต้โครงการหมู่บ้านวิทยาศาสตร์ หมู่บ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน ผ้าไหม GI คึมมะอุบัวลาย โครงการต่อเนื่องปีที่ 2 ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน ต.หนองหว้า อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา กิจกรรมพัฒนากระบวนการออกแบบลายผ้าไหมและการทอผ้าให้ได้มาตรฐาน วันที่ 5-6 เมษายน 2568 ดำเนินการอบรมเชิงปฏิบัติการมัดลวดลายหมี่ที่ทันสมัย และตอบโจทย์ผู้บริโภคประกอบด้วยลายบัวตองลายกระดุมทองและกุหลาบและลายดอกดินโดยได้รับเกียรติวิทยากร นายนุวัฒน์ พรมจันทึกศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมาเป็นผู้ให้ความรู้กับชุมชน ในวันที่ 7 เมษายน 2568 หลังจากการมัดลายหมี่เสร็จ ก็เข้าสู่กระบวนการย้อมหัวหมี่ที่มัดลายเสร็จ โดยได้รับความรู้จาก นายยุทธนา ตอสกุล ผู้จัดการคลินิกเทคโนโลยี และนายนุวัฒน์ พรมจันทึกในเรื่องการสกัดสี การย้อมสี จากพืชดังนี้ ครั่ง แก่นเข ใบสัก ฝักคูณ และเปลือกมะฮอกกะนี และสารช่วยให้ติดสีในการย้อม ประกอบด้วย ใบมะขาม มะขามเปียก ในส้มป่อย ต้นกล้วย และสารส้ม เพื่อทำให้การย้อมสี มีคุณภาพมาตราฐาน และยังช่วยแก้ไขปัญหาการสีตกหลังจากการย้อมได้ดีอีกด้วย ขั้นตอนต่อจากนี้ก็จะเข้าสู่กระบวนการทอผ้าไหมและการจัดทำศูนย์เรียนรู้ด้านผ้าไหมของชุมชนในกิจกรรมต่อไป รายงานโดย นายยุทธนา ตอสกุล วันที่รายงาน 01/07/2568 [5493] |
95400 | 50 |
3 [5496] |
-กิจกรรมพัฒนากระบวนการออกแบบลายผ้า และการแปรรูปจากผ้าไหม ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยทำการออกแบบตัดเย็บผ้าผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากผ้าไหม จำนวน 4 ชิ้น ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() รายงานโดย นายยุทธนา ตอสกุล วันที่รายงาน 03/07/2568 [5496] |
35000 | 0 |
4 [5615] |
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 คลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เข้าร่วมจัดงานนิทรรศการมหกรรมแสดงผลงานพัฒนาท้องถิ่น ประจำปี 2568 “NRRU FAIR 2025 นวัตกรรมราชภัฏ ขับเคลื่อนชุมชนยั่งยืน” ณ หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา - ค่าร่วมจัดงานนิทรรศการมหกรรมแสดงผลงาน ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จำนวนเงิน 9,800 บาท ![]() ![]() ![]() ![]() รายงานโดย นายยุทธนา ตอสกุล วันที่รายงาน 23/09/2568 [5615] |
9800 | 30 |
4 [5611] |
การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยววัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน เมื่อวันที่ 5-6 และวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ลงพื้นที่จัดกิจกรรม ภายใต้โครงการหมู่บ้านวิทยาศาสตร์ หมู่บ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน ผ้าไหม GI คึมมะอุบัวลาย โดย นายยุทธนา ตอสกุล หัวหน้าโครงการ ลงพื้นที่ให้บริการวิชาการ และดำเนินการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยววัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมกับการจัดทำศูนย์เรียนรู้ด้านผ้าไหม เล่าเรื่องผืนไหม ไขตำนานชุมชนผ่านสื่อวีดีโอ วิทยากรโดย นางสาวกอบแก้ว บุญกลาง และนายปริญญา นาที ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านคึมมะอุ-สวนหม่อน ตำบลหนองหว้า อำเภอบัวลาย จังหวัดนครราชสีมา โดยได้ศูนย์การเรียนรู้ด้านผ้าไหมที่มีความพร้อมและจัดทำเป็นคลิปวิดีโอ จำนวน 7 คลิป และป้ายประชาสัมพันธ์ จำนวน 7 ป้าย ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านผ้าไหม เล่าเรื่องผืนไหม ไขตำนานชุมชนผ่านสื่อวีดีโอ 1.อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นช่วยรักษาองค์ความรู้ดั้งเดิมเกี่ยวกับการผลิตผ้าไหมและวัฒนธรรมท้องถิ่น พร้อมถ่ายทอดไปยังคนรุ่นใหม่เพื่อความยั่งยืนของชุมชน 2.สร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชนชุมชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมที่มีคุณภาพสูงและมีความเป็นเอกลักษณ์ สร้างรายได้เพิ่มเติมและขยายโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ 3.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งผลให้ชุมชนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ 4.พัฒนาศักยภาพของชุมชนสมาชิกในชุมชนได้รับการพัฒนาในด้านทักษะอาชีพ ความคิดสร้างสรรค์ และความรู้ด้านการตลาด ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและการพึ่งพาตนเอง
การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ด้านผ้าไหม เพื่อการท่องเที่ยววัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน - การติดตามผลการดำเนินงาน 92,800 บาท ![]() ![]() ![]() รายงานโดย นายยุทธนา ตอสกุล วันที่รายงาน 23/09/2568 [5611] |
92800 | 50 |