การดำเนินโครงการ ในไตรมาสที่ 4
โครงการหมู่บ้านละมุดท่าทอง จ.สุโขทัย ปีที่ 2 ขอรายงานความก้าวหน้าไตรมาส 4 เนื่องจากโครงการ ได้รับการอนุมัติและส่งเอกสารรับงบประมาณเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ได้มีการปรับแผนการดำเนินงานด้วยปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่สวนละมุดและเป็นการท่วมขังยาวนานกกว่า 3 สัปดาห์ จึงได้มีการขออนุญาติปรับแผนการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี ในส่วนของกิจกรรมที่ 1 : การติดตามผลการผลิตละมุดคุณภาพที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และมาตรฐาน GAP
เดิม :การอบรมถ่ายทอดความรู้การผลิตละมุดคุณภาพที่ได้มาตรฐาน GAP และถ่ายทอดการผลิตถ่านไบโอชาร์ในการเป็นวัสดุปรับปรุงบำรุงดิน
ใหม่ :การอบรมถ่ายทอดความรู้การผลิตละมุดคุณภาพที่ได้มาตรฐาน GAP ถ่านไบโอชาร์ปรับปรุงบำรุงดิน และการฟื้นฟูต้นละมุดหลักน้ำท่วม
เพราะการใส่ถ่านชีวภาพปรับปรุงบำรุงดินต้องมีการลงแปลงและเครื่องจักรไถพรวนดินในการเติม คงไม่สามารถดำเนินการได้ในปีนี้ เนื่องจากพื้นที่แปลงละมุดเป็นที่ลุ่มและเป็นแหล่งรองรับน้ำในบางปีที่มีน้ำหลากรุนแรง สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการได้คือการฟื้นฟูระบบรากและบำรุงรักษาต้นผลผลิตที่กำลังติดผล ให้มีการแตกใบอ่อนโดยเร็ว เพื่อการสร้างอาหารเลี้ยงผลผลิตและต้น
จึงขอปรับแผนการดำเนินงานการใช้ถ่านไบโอชาร์ปรับปรุงบำรุงดิน เป็นการฟื้นฟูไม้ผลละมุดหลังน้ำท่วม และการดำเนินงานในส่วนกิจกรรมที่ 2 เทคโนโลยีการยืนอายุผลไม้ตัดแต่งสดเป็นชิ้นสำหรับผู้บริโภค และการแปรรูป/พัฒนาผลิตภัณฑ์จากละมุดกิจกรรมที่ 3 การพัฒนาบรรจุภัณฑ์และการตลาด เป็นไปตามโครงการ จึงขอรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ดังนี้
เมื่อวันที่ 23-26 กันยายน 2567 ได้จัดกิจกรรมการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยี การผลิตละมุดคุณภาพตามมาตรฐาน GAP และการแปรรูปละมุดสุโขทัย โครงการหมู่บ้านละมุดท่าทอง จ.สุโขทัย ปีที่ 2 ณ ตำบลท่าทอง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ณ. องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทอง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โดยมีกิจกรรมดังต่อไปนี้
ผลการดำเนินงานมีเกษตกรผู้ปลูกละมุดเข้าร่วมการอบรม การอบรมถ่ายทอดความรู้การผลิตละมุดคุณภาพที่ได้มาตรฐาน GAP และการฟื้นฟูต้นละมุดหลังน้ำท่วม ระหว่างวันที่ 23-24 กันยายน 2567 จำนวน 36 ท่าน การบรรยายเชิงปฏิบัติการเทคโนโลยีการผลิตพืชและการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืชอาหาร (GAP) และมีการเขียนและยืนใบสมัครขอการรับรองมาตรฐาน (GAP) จำนวน 34 ท่าน กับหน่วยงานศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุโขทัยที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่ และจะมีการลงตรวจแปลงละมุดในปีงบประมาณ 2568 ในต้นปีงบประมาณ และการบรรยายภาคทฤษฏีและปฏิบัติในส่วนของการจัดการไม้ผลละมุดหลังน้ำท่วม ด้วยเทคโนโลยีถ่านไบโอชาร์และเทคโนโลยีฟื้นฟูระบบรากและการจัดการธาตุอาหารพืชทางใบ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จันทร์เพ็ญ ชุมแสง มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์มีเกษตรกรเข้ารับการอบรม 36 ท่าน และทุกท่านเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่แปลงละมุดทั้งหมดและการท่วมขังของน้ำในแปลงไม้ผลละมุดยาวนานกว่า 15 วัน
การบรรยายภาคทฤษฏีและปฏิบัติในส่วนของการจัดการไม้ผลละมุดหลังน้ำท่วม ด้วยเทคโนโลยีถ่านไบโอชาร์และเทคโนโลยี ฟื้นฟูระบบรากและการจัดการธาตุอาหารพืชทางใบ จากการลงสำรวจแปลงเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพอสรุปประเด็นสภาพ ต้นละมุดที่ถูกน้ำท่วมได้ตามหลักการวิชาการดังนี้ เกิดสภาพการขาดออกซิเจนสำหรับราก ทำให้รากพืชหายใจลดลง การ สร้างพลังงานของต้นพืชลดลง ขาดพลังงานในการดูดน้ำและธาตุอาหารทำให้พืชแสดงอาการขาดธาตุอาหารโดยเฉพาะ ไนโตรเจน โพแทสเซียม และโบรอน ต้นละมุดเริ่มแสดงอาการใบเหลืองซึ่งจะแสดงอาการที่ใบแก่หรือใบที่อยู่บริเวณโคน ของกิ่งในทรงพุ่ม อาจจะเจอลักษณะอาการใบลู่ลง หรือห้อยลง และมีอาการใบร่วง บางต้นที่มีดอกหรือผลอยู่บนต้นก็จะทำ ให้เกิดการร่วงของดอกและผลได้ซึ่งสาเหตุการร่วงของดอกและผล เนื่องมาจากต้นพืชเกิดความเครียด (stress) จากสภาพ น้ำท่วมขังเกิดการสร้างฮอร์โมนเอทิลีน (ethylene) เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้เกี่ยวข้องกับการเร่งการเสื่อมสภาพของ ส่วนต่างๆ ของพืช และพืชเริ่มมีกลไกในการฟื้นฟูตัวเองให้อยู่รอดได้ในสภาพน้ำท่วมขัง มีการสร้างรูเปิดเลนติเซล (lenticel) เป็นช่องเปิดที่สามารถให้อากาศผ่านเข้าออกได้ มักจะสร้างบริเวณส่วนของเปลือกลำต้นที่อยู่เหนือระดับของผิว น้ำเล็กน้อย เมื่อพืชไม่สามารถที่จะดูดน้ำดูดธาตุอาหารได้ ทำให้พืชควบคุมการสูญเสียน้ำโดยปิดปากใบก็จะส่งผลต่อ กระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช จึงได้มีการนำข้อมูลที่ได้มาบรรยายสร้างความรู้ความเข้าใจและแนวทางแก้ไขให้เกษตรกร
โดยสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่สวนละมุดที่เกิดสภาพน้ำท่วมขังเป็นเวลานานและน้ำนิ่ง อาจเติม อากาศลงในน้ำ ให้มีการไหลเวียนเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำหรือถ้ามีช่องทางในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ก็ใช้วิธีการสูบ น้ำออก และหลังจากน้ำลดแล้วสิ่งที่เราจะทำได้คือปล่อยให้ดินแห้งซัก 2-3 วัน อาจะเป่าลมหรือเติมอากาศลงดิน ให้มีการ กระตุ้นการสร้างรากใหม่แทนรากเดิมโดยการใช้ฮิวมิก, ปุ๋ยสูตร 15-0-0, และน้ำยาเร่งราก 1-แนพทิลแอซีติกเอซิด 100ซีซี: ฮอร์โมน NAA 4.5 เปอร์เซ็น กระตุ้นการเจริญเติบโตของรากและการแตกยอดใหม่ ส่วนระบบรากต้องมีการควบคุมเชื้อโรคที่จะ เข้าทำลายทั้งระบบราก โดยราดโคนต้นด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา อาจจะใช้ ฟอสเอสทีล อลูมินัม หรือใช้เมตาแลกซิล และให้มีการปรับ pH ของดินด้วยปูนขาว โดโลไมท์ ยิปซัม หรือ ถ่านไบโอชาร์ ทำให้เกิดสภาพที่ดินไม่เหมาะสมต่อการ เจริญของเชื้อโรค เช่นดินทราย ในขณะที่การให้อาหารทางใบเพื่อให้ต้นไม้ได้มีอาหารเพื่อไปเลี้ยงใบ ดอก ผล ในช่วงที่ระบบ รากไม่สามารถทำงานได้โดบการให้ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบด้วยตัวอะมิโน ธาตุอาหารพืชทางใบสูตร 30-10-10 กรณีต้นไม่ติดผล แต่ในกรณีต้นหรือแปลงที่กำลังติดผลให้ใช้ 13-5-42 รวมกับธาตุอาหารรองได้แก่แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี และโบรอน โดยการส่งมอบให้เกษตรกรนำไปทดสอบในแปลงและจะมีการติดตามผลหลังจากน้ำลดในพื้นที่สวนคาดว่าปัญหา สภาพน้ำท่วมขังในพื้นที่แปลงละมุดจะแห้งและเกษตรกรสามารถเข้าฟื้นฟูสภาพต้นละมุดได้ระหว่างกลางเดือนตุลาคมถึง พฤศจิกายน เนื่องจากพื้นที่ตำบลท่าทองโดยเฉพาะแปลงละมุดในพื้นที่หมู่ 3 และ 6 ยังคงเป็นพื้นที่รับน้ำท่วมรอบใหม่ที่ 2 และ 3 ของจังหวัดสุโขทัย
ระหว่างวันที่ 25-26 กันยายน 2567 ได้มีการจัดการถ่ายทอดเทคโนโลยีการยืดอายุผลไม้ตัดแต่งสดเป็นชิ้น สำหรับผู้บริโภคและการแปรรูป/พัฒนาผลิตภัณฑ์จากละมุด ในส่วนของการคัดเลือกวัตถุดิบ การเตรียมวัตถุดิบสำหรับการ แปรรูป/พัฒนาผลิตภัณฑ์จากละมุด เทคโนโลยีการยืดอายุละมุดตัดแต่งสดเป็นชิ้นสำหรับผู้บริโภค และการอบรมเชิง ปฏิบัติการการแปรรูปละมุดกรอบลอยแก้ว การผลิตน้ำละมุดพร้อมดื่มแบบพาสเจอร์ไรซ์การเตรียมวัตถุดิบและการแปร รูปท๊อฟฟี่ละมุด และการเตรียมวัตถุดิบและการแปรรูปไวน์ละมุด โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 30 ท่าน
http://clinictech.ops.go.th/online/cmo/filemanager/1765/sci2024/4-2567.pdf
รายงานโดย นางสาวบุญวรานันท์ สุขเกิด วันที่รายงาน 07/10/2567
[5316]