เครือข่ายส่งเสริมธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม กปว.#
  • บริการของ กปว.
    • โครงการ
    • เทคโนโลยี
    • ผู้เชี่ยวชาญ
    • คำปรึกษา/ลูกค้า
    • ผลิตภัณฑ์
    • แลกเปลี่ยนเรียนรู้
  • หน้าหลัก
  • Wednesday, July 2, 2025 เวลา :

เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด

รหัส
4056
ชื่อ
เครื่องหยอดสารแคลเซียมคาร์ไบด์สำหรับการปลูกสับปะรด อนุสิทธิบัติไทย เลขที่ 12146 ชม 493 ครั้ง
เจ้าของ
ผศ.ดร.ธิติมา วงษ์ชีรี
เมล์
voravit.kos@gmail.com
รายละเอียด

เครื่องหยอดสารแคลเซียมคาร์ไบด์สำหรับการปลูกสับปะรดอนุสิทธิบัติไทย เลขที่ 12146

               การปลูกสับปะรดเพื่ออุตสาหกรรมต้องมีวิธีการบังคับให้ต้นสับปะรดออกดอกและเก็บเกี่ยวพร้อมกัน เนื่องจากต้นสับปะรดออกดอกช้าและไม่สม่ำเสมอ วิธีการบังคับการออกดอกของสับปะรดที่เกษตรกรนิยมปฏิบัติกันทั่วไป คือ การให้สารแคลเซียมคาร์ไบด์ (Calcium Carbide) ที่เรียกว่า ถ่านแก๊ส  หรือการให้สารอีทีฟอน (Ethephon) ชื่อการค้าหลักคือ อีเทรล (Ethrel) แต่เกษตรกรในเขตภาคตะวันตก รวมทั้งจังหวัดราชบุรี นิยมที่จะใช้ถ่านแก๊ส เนื่องจากมีราคาถูกและสามารถหาซื้อได้ง่าย วิธีให้สารสารต้องใช้แรงงานคนเดินหยอดลงไปที่ยอดของต้นสับปะรดทีละต้น โดยใน 1 รอบการปลูกต้องมีการหยอดสาร 2 ครั้ง ด้วยการใช้นิ้วนิ้วโป้งและนิ้วชี้หยิบเกร็ดแคลเซียมคาร์ไบด์ หยอดลงในยอดสับปะรด ตรงๆ  โดยใช้ ประมาณ 8 – 15 เกร็ด (ประมาณ 3 กรัม) ซึ่งต้องทำซ้ำเช่นเดียวกัน หลังจากหยอดครั้งแรก 5-7 วัน แต่วิธีนี้ต้องปฏิบัติในช่วงเย็นหรือเช้ามืด หรือหลังจากฝนตกในช่วงเย็น เพื่อให้มีน้ำค้างหรือน้ำขังอยู่ในยอดสับปะรด วิธีการนี้จึงมีข้อจำกัดในการใช้ในช่วงฤดูแล้ง จากคำนวณโดยประมาณสำหรับการปฏิบัติในพื้นที่ปลูกสับปะรดส่งโรงงานจำนวน 30 ไร่ พบว่าต้องใช้ระยะเวลาในการหยอดสารหรือถ่านแก๊ซไม่ต่ำกว่า 10 วัน โดยใช้จำนวนแรงงานในการหยอดไม่ต่ำกว่า 10 คน คิดเป็นค่าแรงงาน 2,500 บาท ความเร็วในการหยอดโดยประมาณคือ 20 ต้นต่อนาที 

              การใช้แรงงานคนที่ต้องก้มตัวหยอดสารต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน อีกทั้งยังต้องสัมผัสสารเคมีโดยตรง อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น  จึงได้คิดประดิษฐ์เครื่องหยอดสารแคลเซียมคาร์ไบด์ในการปลูกสับปะรดแบบอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้เกษตรกรทำงานได้อย่างสะดวกสบายและลดเวลาในการหยอดสารประกอบแคลเซียมคาร์ไบด์ และลดข้อจำกัดเรื่อง ความต้องการน้ำจากธรรมชาติในการให้สาร จึงทำการออกแบบและสร้างเครื่องหยอดสารแคลเซียมคาร์ไบด์ในรูปแบบสารละลาย รูปแบบสะพายหลัง  โครงสร้างหลักเป็นอลูมิเนียม มีแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงาน และใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมการทำงานของเครื่องด้วยการตั้งเวลาการทำงาน หลักการทำงาน โดยสามารถควบคุมปริมาตรการหยอดสารในแต่ละครั้งให้มีปริมาตร 70 – 80มิลลิลิตร หรือคิดเป็นน้ำหนักสารแคลเซียมคาร์ไบด์ 2.8 – 3.2กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมต่อการชักนำให้ต้นสับปะรดออกดอกพร้อมกัน ทดสอบและปรับปรุง ประสิทธิภาพของเครื่องหยอดสารฯ เทียบเท่าหรือสูงกว่าการหยอดสารด้วยมือแต่เนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัยด้านการใช้งานของเครื่องฯ ซึ่งมีความเสี่ยงหากเกิดไฟรั่ว  รวมทั้งน้ำหนักของโครงสร้างหลักทีใช้บรรจุสาร ทางตัวแทนทีมงานจึงได้พัฒนาเครื่องหยอดModel II โดยมีนายทองไส  ช่วยชู  ดัดแปลงโครงสร้างและปรับปรุงระบบการทำงาน จนได้โครงสร้างที่เบา มีราคาถูก เหมาะสำหรับการประยุกต์ใช้งาน ในสภาพไร่สับปะรด ดังภาพ

 

สนใจติดต่อ ผศ.ดร.ธิติมา วงษ์ชีรี ศูนย์วิจัยและบริการเพื่อชุมชนและสังคม สวท. มจธ. โทร 02-4709682 มือถือ 081-858633513

คำสำคัญ
เครื่องหยอดสาร  ปลูกสับปะรด  สับปะรด  
บันทึกโดย
นส. สุรีรัตน์  รัตนสมบูรณ์  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

รายละเอียดผู้รับบริการ

ไม่พบข้อมูลผู้รับบริการ




สงวนลิขสิทธิ์ © 2568 กลุ่มส่งเสริมธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม(ธท.) กองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(กปว.)
มีปัญหาแจ้งได้ที่ ekapong at mhesi.go.th