เครือข่ายส่งเสริมธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม กปว.#
  • บริการของ กปว.
    • โครงการ
    • เทคโนโลยี
    • ผู้เชี่ยวชาญ
    • คำปรึกษา/ลูกค้า
    • ผลิตภัณฑ์
  • หน้าหลัก
  • Thursday, March 23, 2023 เวลา :

ข้อมูลเทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด / ..

รหัส
334
ชื่อ
การยืดอายุการเก็บมะม่วงดองแช่อิ่ม ชม 34,377 ครั้ง
QR Code
พิกัด
,
เจ้าของ
-
เมล์
-
รายละเอียด

มะม่วงดองแช่อิ่ม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเนื้อมะม่วงดองมาแช่น้ำเชื่อมให้มีความหวานที่พอเหมาะ ที่นิยมผลิตโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มีลักษณะการขายโดยบรรจุเนื้อในถุงพลาสติก ซึ่งมีอายุการเก็บรักษา 3-7 วัน ที่อุณหภูมิห้องหรืออาจอยู่ได้ 14 วันในตู้เย็น การยืดอายุการเก็บรักษามะม่วงดองแช่อิ่มเป็นความต้องการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ดังนั้น วว. จึงได้ทดลองศึกษาและสรุปวิธีการเก็บรักษามะม่วงดองแช่อิ่ม ดังนี้

นำมะม่วงดองแช่อิ่ม ที่มีความหวานพอเหมาะบรรจุถุงพลาสติกชนิดทนร้อน (อุณหภูมิน้ำเดือด 100oซ.) พร้อมใส่น้ำเชื่อมที่มีความเข้มข้น 30% (น้ำหนัก/น้ำหนัก) อุณหภูมิ 80oซ. แล้วปิดผนึกปากถุงให้ไม่มีอากาศเหลืออยู่ภายใน และนำไปแช่น้ำเย็นทันที

ผลิตภัณฑ์มะม่วงดองแช่อิ่มที่บรรจุในภาชนะด้วยวิธีดังกล่าวข้างต้น สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิห้องนานประมาณ 2 เดือน โดยมีลักษณะเนื้อมะม่วงยังคงความกรอบ และตรวจไม่พบเชื้อจุลินทรีย์ที่มาตรฐาน อย. กำหนด
ติดต่อ : สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โทร. 0 2577 9000 ต่อ 9135, 9131-9131

ขยายภาพ ขยายภาพ
คำสำคัญ
มะม่วง  แช่อิ่ม  
บันทึกโดย
นายเอกพงศ์  มุสิกะเจริญ  สำนักงานปลัดกระทรวง

รายละเอียดผู้รับบริการ

53872
ผู้ถาม : นางปวีณา แมน ที่อยู่ Phnom Penh
โทร. 85516898269 อีเมล์ : mana_media@hotmail.com วันที่ถาม : 25/03/2565
คำถาม : ขั้นตอนการบรรจุ สัดส่วนของเครื่องผสม|334|M
คำตอบ :
การดำเนินงานจากเครือข่าย
53772
ผู้ถาม : นางปวีณา แมน ที่อยู่ Kannika Modern Farm , Phnom Penh, Cambodia
โทร. 85516898269 อีเมล์ : mana_media@hotmail.com วันที่ถาม : 19/03/2565
คำถาม : สวัสดีค่ะอาจารย์ ดิฉันเป็นเกษตรกรปลูกมะม่วงอยู่ที่กัมพูชาค่ะ ตอนนี้ราคามะม่วงโดนกดมากยิ่งถ้าจะส่งกลับไทย โรงงานให้ราคาต่ำมากๆค่ะ ดิฉันสนใจอยากแปรรูปเป็นมะม่วงแช่อิ่มค่ะ แต่มีปัญหาเรื่องการเก็บได้ไม่นาน ดีใจมากที่อ่านเจอเรื่องนี้ค่ะ แต่ไม่เข้าใจเรื่อง% ต่างๆค่ะ เช่นน้ำเชื่อมความเข้มข้น30% หมายถึงน้ำตาลเท่าไร น้ำเท่าไรคะ|334|M
คำตอบ :
การดำเนินงานจากเครือข่าย
53620
ผู้ถาม : ลักษณา แย้มบุตร ที่อยู่ 45/37 ถนนศรีวิชัย 59 ซอย 1 ม.2 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองฯ จ.สุราษฑร์ธานี 84000 0839673323
โทร. 0839673323 อีเมล์ : Mama4551@hotmail.com วันที่ถาม : 21/02/2565
คำถาม : ขอคำปรึกษาและคำแนะนำค่ะ มีผลิตผลมะม่วงเบาพอประมาณอยากจัดจำหน่ายด้วยวิธีการหลายรูปแบบ คือ 1. ขายสดส่งต่างจังหวัด ต้องบรรจุอย่างไรเพื่อคงความสดไม่นิ่ม (ไม่เกิน3วันถึงลูกค้่)​ 2.แปรรูปด้วยการดองเกลือแบบธรรมชาติ เพื่อวางจำหน่ายโดยไม่แช่ตู้เย็นและส่งจำหน่ายต่างจังหวัด มีวิธีการอย่างไรเพื่อให้สินค้าคงรสชาติเดิมไม่เสีย การใช้บรรจุภัณฑ์อย่างไรที่เหมาะสม 3.แปรรูปด้วยการแช่อิ่มแบบธรรมชาติ เพื่อส่งจำหน่ายต่างจังหวัด ซึ่งใช้ระยะเวลานาน 2- 3 วันจึงจะถึงผู้ซื้อ มีวิธีการอย่างไรบ้างคะ ต้องมีสารปรุงแต่งอย่างอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ (ปกติถ้าไม่ใส่ตู้เย็นไว้หลายวันจะเป็นส่าเหล้าค่ะ)​ วการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและวิธีการบรรจุเพื่อเก็บได้นานตามที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ค้นหาจากแหล่งเรียนรู้ในสื่ออินเตอร์เน็ต หลายแหล่งที่ค้นหายังมีรายละเอียดไม่ชัดเจนค่ะ |334|M
คำตอบ :
การดำเนินงานจากเครือข่าย
49990
ผู้ถาม : นาย โสภณ อีดยี ที่อยู่ 95ถเก้าเส้ง ต. บ่อย่าง อ .เมือง จ . สงขลา 90000
โทร. 0635424788 อีเมล์ : samauon01@gmail.com วันที่ถาม : 28/02/2564
คำถาม : การเก็บรักษา มะม่วงแช่อิ่มให้นาน แบบดองเกลือด้วย ในการขนส่งทีสะดวกและยาวนาน ไม่ให้เกิดปัญหาการทีหลัง|334|M
คำตอบ : ส่งต่อให้กับนักวิจัย มทร.ศรีวิชัย สงขลา
การดำเนินงานจากเครือข่าย
46412
ผู้ถาม : ภีรดา​ สี​เผือก​ ที่อยู่ 27/1​ ต.ท่าอิ​บุญ​ อ.หล่มสัก​ จ.เพชรบูรณ์​
โทร. 0864181525​ อีเมล์ : phirada.kate@gmail.com​ วันที่ถาม : 27/04/2563
คำถาม : สนใจเพาะเลี้ยงปลาหลดเชิงพานิชย์ค่ะ​ ไม่ทราบว่ามีการอบรมหรือขายพ่อแม่พันธุ์มั้ยคะ หรือสามารถหาความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงได้อย่างไรบ้างคะ|284|M
คำตอบ : ส่งข้อมูลให้ จนท.คลินิก มทร.อีสาน สุรินทร์ เจ้าของเทคโนโลยีเพื่อดำเนินการต่อ
การดำเนินงานจากเครือข่าย
  • คลินิกเทคโนโลยี มทร.อีสาน วข.สุรินทร์ สามารถติดต่อและรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้ครับ คือ รศ.ดร.กฤติมา เสาวกูล อาจารย์ประจำวิชาสาขาประมง คณะเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยี เบอร์โทรศัพท์ 086-2496450 หรือประสานมาทาง จนท.คลินิกเทคโนโลยี น.ส.ปิยนุช อนุชานุรักษ์ 093-3644115 ครับ ขอบคุณครับ วันที่บริการ 15/06/2563
  • สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คลินิกเทคโนโลยี มทร.อีสาน วข.สุรินทร์ ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.กฤติมา เสาวกูล เบอร์โทรศัพท์ 086-2496450 อาจารย์ประจำสาขาวิชาประมง คณะเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยี หรือติดต่อผู้ประสานงานคลินิกฯ น.ส.ปิยนุช อนุชานุรักษ์ 093-3644115 วันที่บริการ 16/06/2563
  • ลักษณะทั่วไป ปลาหลด (Macronathus siamensis) เป็นปลาน้ำจืดพื้นบ้านของไทยที่อาศัยอยู่ใน ห้วย หนอง คลอง บึง ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ แพร่กระจายทั่วประเทศ เป็นปลาที่มีความอดทนสูง อาศัยในโคลนตมได้นาน ชอบอาศัยตามพื้นท้องน้ำ และฝังตัวอยู่ในทรายตอนกลางวัน มีนิสัยชอบหากินในเวลากลางคืนเป็นปลากินเนื้อ กินอาหารจำพวกตัวอ่อนแมลง หนอน ไส้เดือน สัตว์เล็กๆ และเศษเนื้อเน่าเปื่อย ปลาหลดมีรูปร่างคล้ายปลาไหล ปลายปากยื่นยาวและสามารถยืดหดได้ มีสีเทาและสีดำ ปากเล็ก ฟันเล็กและคม มีช่องเหงือกเปิดอยู่ใต้หัว ปลาหลดเป็นที่นิยมรับประทานในรูปของปลาสด ตากแห้ง หรือทำเค็มโดยปกติจะมีการซื้อขายในตลาดเป็นจำนวนมากอยู่ ปัจจุบันปลาหลดที่มีจำหน่ายตามตลาดเป็นปลาหลดที่จับได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้ปลาหลดเริ่มหายากมากขึ้น และมีราคาค่อนข้างสูงขึ้นกิโลกรัมละ 70 – 80 บาท (ตามท้องตลาดขายขีดละ 12 – 17 บาท) ในช่วงฤดูฝนจะหาซื้อได้ง่าย เมื่อพ้นระยะนี้ไปแล้วปลาหลดจะลดจำนวนลงเป็นอย่างมาก จะหาซื้อลำบาก ราคาค่อนข้างสูงโดยมีราคาประมาณ 120 – 200 บาท ด้วยเหตุดังกล่าว คณะผู้วิจัยจึงได้มีการศึกษาชีววิทยาของปลาหลดเป็นเบื้องต้น ศึกษาวิธีการสำหรับนำมาเพาะเลี้ยง หรือขยายพันธุ์ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มพูนอาหารประเภทโปรตีน และยังเป็นรายได้แก่ผู้ประกอบการเลี้ยงปลาหรือจับปลาขายเป็นอาชีพอีกด้วย โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถทำการเพาะเลี้ยงปลาหลดได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในชุมชนของเกษตรกรเองไม่ต้องเดินทางไปทำงานต่างถิ่น ช่วยให้สามารถมีรายได้และช่วยพัฒนาชุมชนที่อาศัยอยู่ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อชุมชน หรือชุมชนใกล้เคียงและทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ส่งผลให้ประเทศชาติมีการพัฒนาที่ดี การเพาะพันธุ์ นำปลาหลดพ่อแม่พันธุ์ที่รวบรวมได้จากธรรมชาติ มาคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีความสมบรูณ์พร้อมที่จะผสมพันธุ์ ซึ่งมีข้อสังเกตได้ในตัวเต็มไว ดังนี้ คือ เพศเมียมีลักษณะลำตัวอ้วนป้อม และโตกว่าเพศผู้ลักษณะแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ ในปลาเพศเมียจะมีติ่งเพศ เมื่อบีบท้องแรงๆ จะมีติ่งเพศยื่นออกมา ในปลาเพศผู้จะไม่มีลักษณะดังกล่าว ลักษณะของช่องเพศ ปลาเพศเมียเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์จะมีเยื่อวุ้นปกคลุมช่องเพศ ท้องจะอูมเป่งและนิ่ม ช่องเพศและติ่งเพศจะขยายตัวมีสีแดงเรื่อๆ เพศผู้ ถ้ากดเบาๆ ตรงส่วนท้อง จะมีน้ำเชื่อสีขาวไหลออกมา เมื่อคัดเพศแล้วทำการผสมพันธุ์ โดยการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการวางไข่ ดังนี้ เพศเมีย ทำการฉีด 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ใช้ซุปรีแฟกค์ (Superfact) ความเข้มข้น 25 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ร่วมกับโมทีเลี่ยม (Motilium) 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม พักไว้ 6 ชั่วโมง แล้วจึงฉีดเข็มที่ 2 ครั้งที่ 2 ใช้ซุปรีแฟกค์ความเข้มข้น 50 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ร่วมกับโมทีเลี่ยม 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เพศผู้ทำการฉีดเพียงครั้งเดียว โดยฉีดพร้อมเพศเมีย เข็มที่ 2 โดยใช้ซุปรีแฟกค์ความเข้มข้น 20 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ร่วมกับโมทีเลี่ยม 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม นำพ่อแม่พันธุ์ที่ฉีดฮอร์โมนเรียบร้อยแล้ว ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงในถังเดียวกันเพื่อให้ผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติ โดยมีพู่ฟางไว้สำหรับให้ไข่ติด และแยกพ่อแม่พันธุ์ปลาหลดออกในตอนเช้า และนำไข่ไปพักในบ่อฟักต่อไป ลูกปลาหลดจะฟักออกเป็นตัวภายใน 40 – 48 ชั่วโมง การอนุบาลลูกปลาหลด การอนุบาลลูกปลาหลดมีผู้ศึกษาไว้น้อยมากและศึกษามานานแล้ว ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาพบว่าอาหารที่เหมาะสมสำหรับการอนุบาลลูกปลาหลดที่อายุ 1 – 14 วัน ควรให้ไรแดงจะมีการเจริญเติบโตและมีอัตราการรอดดีที่สุด หลังจากนั้นจะให้ไรแดง หนองแดง หรือไส้เดือนเป็นอาหาร การเลี้ยงปลาหลด การเลี้ยงปลาหลดสามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดินและบ่อซีเมนต์ หากเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ควรมีขนาด 4 x 4 เมตร ความสูงประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร ผิวบ่อฉาบให้เรียบ และทำให้ลาดเอียง ปริมาณครึ่งบ่อเพื่อให้ทรายปนดินเหนียวไว้ก้นบ่อ ใส่ผักบุ้งไว้ส่วนหนึ่งไม่ต้องมากนัก ความสูงของน้ำให้ท่วมบริเวณดินทราย ประมาณ 40 เซนติเมตร ปล่อยปลาขนาดความยาว 3 – 4 นิ้ว จำนวน 2,000 – 2,500 ตัว ควรวางโพรงไม่ไผ่หรือท่อน้ำเก่าๆ ให้ปลาได้หลบอาศัยในการเลี้ยงในบ่อดิน ต้องมีการเตรียมบ่อที่ดีเช่นเดียวกับการเลี้ยงปลาชนิดอื่น อาจมีการกันบนขอบบ่อโดยการใช้มุ้งเขียวล้อมรอบไว้ อาหารในการเลี้ยง คือ หอยเชอรี่ นำมาทุบแล้วสับให้ละเอียดนำไปวางไว้บริเวณชายพื้นรอยต่อทรายกับปูนซีเมนต์ กองไว้ให้อาหาร 2 – 3 วัน เมื่อเหยื่อเริ่มเน่า ปลาหลดจะเข้ามากิน และอาจกินตั้งแต่สดๆได้ พิจารณาดูว่าปลากินเหยื่อหมดใน 2 – 3 วันหรือไม่ อาหารปลาหลด จะให้เหยื่อในการเลี้ยงเช่นเดียวกับปลาไหล คือ เหยื่อหลักดังนี้ 1. หอยเชอรี่ นำมาทุบแยกเปลือกเนื้อหอยแล้วสับให้ละเอียด นำมาวางไว้บริเวณชายพื้นรอยต่อทรายกับผิวปูนซีเมนต์ กองไว้ให้อาหาร 2 – 3 ครั้ง เมื่อเหยื่อเริ่มเน่าปลาหลดจะเข้ามากิน และอาจกินตั้งแต่สดๆ ได้ พิจารณาว่าปลาหลดกินเหยื่อหมดใน 2 – 3 วันหรือไม่ ถ้าหมดควรเพิ่มให้ ถ้าเหลือควรลดลง พยายามอย่ากระทบกระเทือนปลาจะตกใจหนี 2. ไส้เดือน จะเป็นอาหารที่ปลาหลดโปรดปรานมากที่สุด เมื่อนำไส้เดือนให้ จะให้ช่วงเย็น – ค่ำ พอไส้เดือนเคลื่อนตัวตามผิวทราย ปลาหลด 1 ตัวจะกินไส้เดือน 1 – 2 ตัว ก็จะอิ่ม และมีลักษณะความสมบรูณ์ของตัวปลามาก เช่น ปลาจะอ้วน เกล็ดเป็นเงางาม 3. ระยะเวลาของการเลี้ยง ปลาหลดเป็นปลาที่จัดว่าโตเร็ว การเลี้ยงจะใช้เวลา 6 – 7 เดือน ก็จะได้ขนาดที่จำหน่ายประมาณ 30 – 40 ตัวต่อกิโลกรัม และอายุ 1 ปีขึ้นไปก็จะให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ สนใจติดต่อข้อมูล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ 145 หมู่ 15 ถ.สุรินทร์-ปราสาท อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000 รศ.ดร.กฤติมา เสาวกูล โทร 0862496450 krittima2562@gmail.com วันที่บริการ 28/09/2563
  • ลักษณะทั่วไป ปลาหลด (Macronathus siamensis) เป็นปลาน้ำจืดพื้นบ้านของไทยที่อาศัยอยู่ใน ห้วย หนอง คลอง บึง ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ แพร่กระจายทั่วประเทศ เป็นปลาที่มีความอดทนสูง อาศัยในโคลนตมได้นาน ชอบอาศัยตามพื้นท้องน้ำ และฝังตัวอยู่ในทรายตอนกลางวัน มีนิสัยชอบหากินในเวลากลางคืนเป็นปลากินเนื้อ กินอาหารจำพวกตัวอ่อนแมลง หนอน ไส้เดือน สัตว์เล็กๆ และเศษเนื้อเน่าเปื่อย ปลาหลดมีรูปร่างคล้ายปลาไหล ปลายปากยื่นยาวและสามารถยืดหดได้ มีสีเทาและสีดำ ปากเล็ก ฟันเล็กและคม มีช่องเหงือกเปิดอยู่ใต้หัว ปลาหลดเป็นที่นิยมรับประทานในรูปของปลาสด ตากแห้ง หรือทำเค็มโดยปกติจะมีการซื้อขายในตลาดเป็นจำนวนมากอยู่ ปัจจุบันปลาหลดที่มีจำหน่ายตามตลาดเป็นปลาหลดที่จับได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้ปลาหลดเริ่มหายากมากขึ้น และมีราคาค่อนข้างสูงขึ้นกิโลกรัมละ 70 – 80 บาท (ตามท้องตลาดขายขีดละ 12 – 17 บาท) ในช่วงฤดูฝนจะหาซื้อได้ง่าย เมื่อพ้นระยะนี้ไปแล้วปลาหลดจะลดจำนวนลงเป็นอย่างมาก จะหาซื้อลำบาก ราคาค่อนข้างสูงโดยมีราคาประมาณ 120 – 200 บาท ด้วยเหตุดังกล่าว คณะผู้วิจัยจึงได้มีการศึกษาชีววิทยาของปลาหลดเป็นเบื้องต้น ศึกษาวิธีการสำหรับนำมาเพาะเลี้ยง หรือขยายพันธุ์ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มพูนอาหารประเภทโปรตีน และยังเป็นรายได้แก่ผู้ประกอบการเลี้ยงปลาหรือจับปลาขายเป็นอาชีพอีกด้วย โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถทำการเพาะเลี้ยงปลาหลดได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในชุมชนของเกษตรกรเองไม่ต้องเดินทางไปทำงานต่างถิ่น ช่วยให้สามารถมีรายได้และช่วยพัฒนาชุมชนที่อาศัยอยู่ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อชุมชน หรือชุมชนใกล้เคียงและทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ส่งผลให้ประเทศชาติมีการพัฒนาที่ดี การเพาะพันธุ์ นำปลาหลดพ่อแม่พันธุ์ที่รวบรวมได้จากธรรมชาติ มาคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีความสมบรูณ์พร้อมที่จะผสมพันธุ์ ซึ่งมีข้อสังเกตได้ในตัวเต็มไว ดังนี้ คือ เพศเมียมีลักษณะลำตัวอ้วนป้อม และโตกว่าเพศผู้ลักษณะแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือ ในปลาเพศเมียจะมีติ่งเพศ เมื่อบีบท้องแรงๆ จะมีติ่งเพศยื่นออกมา ในปลาเพศผู้จะไม่มีลักษณะดังกล่าว ลักษณะของช่องเพศ ปลาเพศเมียเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์จะมีเยื่อวุ้นปกคลุมช่องเพศ ท้องจะอูมเป่งและนิ่ม ช่องเพศและติ่งเพศจะขยายตัวมีสีแดงเรื่อๆ เพศผู้ ถ้ากดเบาๆ ตรงส่วนท้อง จะมีน้ำเชื่อสีขาวไหลออกมา เมื่อคัดเพศแล้วทำการผสมพันธุ์ โดยการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการวางไข่ ดังนี้ เพศเมีย ทำการฉีด 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ใช้ซุปรีแฟกค์ (Superfact) ความเข้มข้น 25 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ร่วมกับโมทีเลี่ยม (Motilium) 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม พักไว้ 6 ชั่วโมง แล้วจึงฉีดเข็มที่ 2 ครั้งที่ 2 ใช้ซุปรีแฟกค์ความเข้มข้น 50 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ร่วมกับโมทีเลี่ยม 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เพศผู้ทำการฉีดเพียงครั้งเดียว โดยฉีดพร้อมเพศเมีย เข็มที่ 2 โดยใช้ซุปรีแฟกค์ความเข้มข้น 20 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ร่วมกับโมทีเลี่ยม 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม นำพ่อแม่พันธุ์ที่ฉีดฮอร์โมนเรียบร้อยแล้ว ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ลงในถังเดียวกันเพื่อให้ผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติ โดยมีพู่ฟางไว้สำหรับให้ไข่ติด และแยกพ่อแม่พันธุ์ปลาหลดออกในตอนเช้า และนำไข่ไปพักในบ่อฟักต่อไป ลูกปลาหลดจะฟักออกเป็นตัวภายใน 40 – 48 ชั่วโมง การอนุบาลลูกปลาหลด การอนุบาลลูกปลาหลดมีผู้ศึกษาไว้น้อยมากและศึกษามานานแล้ว ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาพบว่าอาหารที่เหมาะสมสำหรับการอนุบาลลูกปลาหลดที่อายุ 1 – 14 วัน ควรให้ไรแดงจะมีการเจริญเติบโตและมีอัตราการรอดดีที่สุด หลังจากนั้นจะให้ไรแดง หนองแดง หรือไส้เดือนเป็นอาหาร การเลี้ยงปลาหลด การเลี้ยงปลาหลดสามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดินและบ่อซีเมนต์ หากเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ควรมีขนาด 4 x 4 เมตร ความสูงประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร ผิวบ่อฉาบให้เรียบ และทำให้ลาดเอียง ปริมาณครึ่งบ่อเพื่อให้ทรายปนดินเหนียวไว้ก้นบ่อ ใส่ผักบุ้งไว้ส่วนหนึ่งไม่ต้องมากนัก ความสูงของน้ำให้ท่วมบริเวณดินทราย ประมาณ 40 เซนติเมตร ปล่อยปลาขนาดความยาว 3 – 4 นิ้ว จำนวน 2,000 – 2,500 ตัว ควรวางโพรงไม่ไผ่หรือท่อน้ำเก่าๆ ให้ปลาได้หลบอาศัยในการเลี้ยงในบ่อดิน ต้องมีการเตรียมบ่อที่ดีเช่นเดียวกับการเลี้ยงปลาชนิดอื่น อาจมีการกันบนขอบบ่อโดยการใช้มุ้งเขียวล้อมรอบไว้ อาหารในการเลี้ยง คือ หอยเชอรี่ นำมาทุบแล้วสับให้ละเอียดนำไปวางไว้บริเวณชายพื้นรอยต่อทรายกับปูนซีเมนต์ กองไว้ให้อาหาร 2 – 3 วัน เมื่อเหยื่อเริ่มเน่า ปลาหลดจะเข้ามากิน และอาจกินตั้งแต่สดๆได้ พิจารณาดูว่าปลากินเหยื่อหมดใน 2 – 3 วันหรือไม่ อาหารปลาหลด จะให้เหยื่อในการเลี้ยงเช่นเดียวกับปลาไหล คือ เหยื่อหลักดังนี้ 1. หอยเชอรี่ นำมาทุบแยกเปลือกเนื้อหอยแล้วสับให้ละเอียด นำมาวางไว้บริเวณชายพื้นรอยต่อทรายกับผิวปูนซีเมนต์ กองไว้ให้อาหาร 2 – 3 ครั้ง เมื่อเหยื่อเริ่มเน่าปลาหลดจะเข้ามากิน และอาจกินตั้งแต่สดๆ ได้ พิจารณาว่าปลาหลดกินเหยื่อหมดใน 2 – 3 วันหรือไม่ ถ้าหมดควรเพิ่มให้ ถ้าเหลือควรลดลง พยายามอย่ากระทบกระเทือนปลาจะตกใจหนี 2. ไส้เดือน จะเป็นอาหารที่ปลาหลดโปรดปรานมากที่สุด เมื่อนำไส้เดือนให้ จะให้ช่วงเย็น – ค่ำ พอไส้เดือนเคลื่อนตัวตามผิวทราย ปลาหลด 1 ตัวจะกินไส้เดือน 1 – 2 ตัว ก็จะอิ่ม และมีลักษณะความสมบรูณ์ของตัวปลามาก เช่น ปลาจะอ้วน เกล็ดเป็นเงางาม 3. ระยะเวลาของการเลี้ยง ปลาหลดเป็นปลาที่จัดว่าโตเร็ว การเลี้ยงจะใช้เวลา 6 – 7 เดือน ก็จะได้ขนาดที่จำหน่ายประมาณ 30 – 40 ตัวต่อกิโลกรัม และอายุ 1 ปีขึ้นไปก็จะให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ สนใจติดต่อข้อมูล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ 145 หมู่ 15 ถ.สุรินทร์-ปราสาท อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000 รศ.ดร.กฤติมา เสาวกูล โทร 0862496450 วันที่บริการ 28/09/2563
  • วันที่บริการ 12/10/2563
  • 43363
    ผู้ถาม : คุณสุจินต์ สว่างศรี ที่อยู่ -
    โทร. 0819464319 อีเมล์ : วันที่ถาม : 28/03/2562
    คำถาม : เตาอิวาเตะ
    คำตอบ : เบื้องต้นแจ้ง คุณสุจินต์ ให้ติดต่อกับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เพื่อสอบถามรายละเอียดความต้องการโดยตรงแล้วค่ะ
    การดำเนินงานจากเครือข่าย
    43360
    ผู้ถาม : คุณตังค์ ที่อยู่ -
    โทร. 0929613831 อีเมล์ : วันที่ถาม : 27/03/2562
    คำถาม : เครื่องบดเมล็ดพืช
    คำตอบ : เบื้องต้นส่งเรื่องประสานงานให้ ส่วนงานเครื่องจักร สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ติดต่อกลับคุณตังค์แล้วค่ะ
    การดำเนินงานจากเครือข่าย
    43330
    ผู้ถาม : อนุชา พูลพิมมะ ที่อยู่ 100/4ม.15ต.บ้านพระอ.เมือง.จ.ปราจีนบุรี 25230
    โทร. 0831136046 อีเมล์ : anucha249@hotmail.com วันที่ถาม : 23/03/2562
    คำถาม : เครื่องวัดออกซิเจนในน้ำ|1776|M
    คำตอบ :
    การดำเนินงานจากเครือข่าย
    42183
    ผู้ถาม : สมนึก ชัยสรรค์ ที่อยู่ 116 ม.6 บ้านท่าช้าง ต.บากเรือ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร 35130
    โทร. 0891211781 อีเมล์ : somnug2018@gmail.com วันที่ถาม : 23/09/2561
    คำถาม : ข้อมูลการเลี้ยงปลาหลด|284
    คำตอบ :
    การดำเนินงานจากเครือข่าย
    42083
    ผู้ถาม : ฐปนรรฆ์ จำปาหอม ที่อยู่ 149ม5บ้านโป่งช้างต.หนองปรืออ.หนองปรือจ.กาญจนบุรี
    โทร. 0615032371 อีเมล์ : nukan229@gmail.com วันที่ถาม : 06/08/2561
    คำถาม : เครื่องเหลาทางมะพร้าว|490|M
    คำตอบ :
    การดำเนินงานจากเครือข่าย
    41084
    ผู้ถาม : อรนิศวร์ จารุวัฒน์วงษ์ ที่อยู่ วิสาหกิจชุมชน อุ่นรัก สานฝัน กรีนะฟาร์ม 222 หมู่14 ต. บ้านไร่ อ.เทพสถิต
    โทร. 095-6123554 อีเมล์ : oranis1@gmail.com วันที่ถาม : 06/02/2561
    คำถาม : สอบถามราคาเครื่องทอดสุญญากาศ ราคาเท่าไหร่คะ|1661|M
    คำตอบ :

    สวัสดีคะคุณอรนิศวร์ ในเบื้องต้น ดิฉันขอให้รายละเอียดคร่าวๆประมาณนี้นะคะ ในเรื่องของการสร้างเครื่องดิฉันอยากให้ทางคุณอรนิศวร์สอบถามรายละเอียดที่ชัดเจนกับ ฝ่ายวิศวะกรรม หรือ ฝ่ายกองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม
    โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไร ติดต่อดิฉันได้ที่อีเมล์นี้นะคะ Chonticha.m@most.go.th ขอบคุณค่ะ


    การดำเนินงานจากเครือข่าย
    41068
    ผู้ถาม : นพรัตน์ จงนอก ที่อยู่ ขอนแก่น 204/5 ในเมือง 0873745972
    โทร. 0873745972 อีเมล์ : noggaraf555@hotmail.com วันที่ถาม : 18/01/2561
    คำถาม : เครื่องแกะและร่อนกระเทียม|381|M
    คำตอบ :

    สวัสดีคะคุณนพรัตน์ ดิฉันขออนุญาตให้ข้อมูลนะคะ ได้สอบถามไปยัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พระนคร ซึ่งพบว่า อ.สุวรรณ์ คงสาคร เจ้าของผลงาน ได้เกษียณไปแล้วค่ะ และไม่ได้มีใครนำมาทำต่อ และไม่มีทำจำหน่ายค่ะ
    แต่มีเครื่องแกะกระเทียมของบริษัทเอกชน จำหน่าย คุณพิชิตชัย สามารถดูรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ http://www.arkarnsin.com/category_new_buy.php?idcatalog2=VV022&id=VV0220855&idpo=121&idname2=%A1%C3%D0%E0%B7%D5%C2%C1 ขอบคุณค่ะ 


    การดำเนินงานจากเครือข่าย
    40181
    ผู้ถาม : มรกต เหลืองอภิรมย์ ที่อยู่ 264 หมู่9 ตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมือง
    โทร. 0621088748 อีเมล์ : Moo_green_na@hotmail.co.th วันที่ถาม : 16/07/2560
    คำถาม : สนใจทำข้าวเคลือบสมุนไพรคะ เปิดสอนที่ไหนบ้างคะ|1692|M
    คำตอบ :

    สวัสดีคะคุณมรกต ดิฉันแนะนำให้คุณมรกต ติดต่อกับ เกศินี จันทรโสภณและคณะ   ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี  จ.อุบลราชธานี หรือโทร.0-4535-2000ต่อ1400,1426  ได้เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ 


    การดำเนินงานจากเครือข่าย
    40045
    ผู้ถาม : รอบียะห์ อาแซ ที่อยู่ 40/4 ม.1ตำบลพร่อน อเมือง จ.ยะลา 95160
    โทร. 0843848283 อีเมล์ : robeeyah1629@gmail.com วันที่ถาม : 24/05/2560
    คำถาม : ต้องการทำมะม่วงแช่อิ่มเพื่อเป็นอาชีพให้แก่ชุมชนคะ ต้องการวิธีการเลือกทะม่วง วิธีการเก๋บรักศามะม่วงอุณหภูมิ ควรหมักในบรรจุวัสดุแบบใหนคะพาสติกหรือว่าโอ่งดีคะ ฯลฯ รบกวนด้วยคะ|334|M
    คำตอบ :

    สวัสดีคะคุณรอบียะห์ ในส่วนของรายละเอียดเรื่องการทำมะม่วงแช่อิ่ม และเรื่องบรรจุภัณฑ์ ดิฉันแนะนำให้ติดต่อกับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โทร. 0 2577 9000 ต่อ 9135, 9131-9131 เพื่อสอบถามในรายละเอียด นะคะ เพราะมะม่วงแต่ละสายพันธุ์มีกระบวนการและกรรมวิธีที่แตกต่างกัน ค่ะ ขอบคุณค่ะ 


    การดำเนินงานจากเครือข่าย




    สงวนลิขสิทธิ์ © 2566 กลุ่มส่งเสริมธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม(ธท.) กองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(กปว.)
    มีปัญหาแจ้งได้ที่ ekapong at mhesi.go.th