เทคโนโลยีพร้อมถ่ายทอด
รัฐบาลไทยได้จัดทําความตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ซึ่งได้กําหนดให้เป็ดตลาดเสรีภาษีเป็นศูนย์ มีผลในปี 2553 จะทําให้การนําเข้าชาและผลิตภัณฑ์จากประเทศจีนและเวียดนามมีปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้ราคาชาลดลง รวมถึงส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศของชาไทยลดลงอีกด้วย ประกอบกับพลังงานมีราคาสูงขึ้นอย่างมาก เกษตรกรผู้ผลิตชาจึงได้รับผลกระทบจากราคาชาตกต่ํา แต่ต้นทุนการผลิตกลับสูงขึ้น ชาไทยจึงไม่สามารถแข่งขันในตลาดกับชาจีนและเวียดนามได้ ดังนั้น การทําชาอินทรีย์และทําให้มีคุณภาพที่ดีกว่าของประเทศจีนและเวียดนามน่าจะมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากทั้งสองประเทศนี้เน้นการผลิตให้ได้ปริมาณมากและราคาถูก จึงใช้สารเคมีในการดูแลสวนชามาก การผลิตสินค้าชาอินทรีย์จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะเพิ่มการแข่งขันกับชาจีนและเวียดนามได้
การดําเนินการเพื่อให้ชาไทยสามารถแข่งขันในตลาดได้ เกษตรกรผู้ผลิตควรให้ความสนใจด้านคุณภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยการศึกษาและพัฒนาการบริหารจัดการในสวนชาอินทรีย์ เพื่อควบคุมและป้องกันการปนเปื้อนจากการผลิตใบชาสด การจัดการต่างๆให้สอดคล้องกับการมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล
สถานที่ติดต่อ
สํานักวิชาอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 333 ม.1 ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย 57100
โทรศัพท์ 053-916738 โทรสาร 053-916739
