2568 การบริการให้คำปรึกษาและข้อมูลเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม 0
ผล
ผล
ผล
รายงานความก้าวหน้า
ไตรมาส | ผลการดำเนินงาน | งบประมาณที่ใช้ | ผู้รับบริการ |
---|---|---|---|
1 [18519] |
ลำดับที่ 10 กลุ่ม/ชุมชน: - ผู้ประกอบการ : นายสุวัจน์ ศรีสถิตธรรม ที่อยู่:159/1 หมู่ 1 ตำบลสมอแข อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เบอร์ติดต่อ: 085-535-9796 ผลิตภัณฑ์: ผงปรุงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ปัญหาและความต้องการ :ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เน้นเป็นลักษณะของผงปรุงรสก๋วยเตี๋ยวแห้ง พร้อมบรรจุภัณฑ์ การให้คำปรึกษา และข้อมูล :การพัฒนาผงปรุงรสก๋วยเตี๋ยวแห้งและบรรจุภัณฑ์ จะเริ่มจาก ส่วนประกอบของผงปรุงรสก๋วยเตี๋ยวแห้ง วัตถุดิบหลักที่ควรมี: ผงน้ำซุปเข้มข้น – เช่น น้ำซุปกระดูกหมู/ไก่แห้ง เครื่องปรุงรส – น้ำตาล เกลือ ผงชูรส (หากต้องการ) เครื่องเทศและสมุนไพร – เช่น กระเทียมเจียว ผงพริกไทย ผงพริกป่น วัตถุดิบเสริมเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์ – เช่น ใบมะกรูดผง ผงเห็ดหอม ผงซอสปรุงรส สารดูดความชื้น – เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 สูตรหลัก ได้แก่: สูตรต้นตำรับ (Traditional Flavor) – รสกลมกล่อมจากน้ำซุปและเครื่องเทศ สูตรเผ็ดจัดจ้าน (Spicy Flavor) – เพิ่มปริมาณพริกป่นและพริกไทยดำ โดยสามารถผลิตได้โดยเตรียมวัตถุดิบและทำให้แห้ง – เช่น การอบแห้งหรือการฟรีซดราย บดและร่อน – ให้ได้ผงละเอียด ผสมให้เข้ากัน – ควรใช้เครื่องผสมแบบอุตสาหกรรมเพื่อให้ส่วนผสมสม่ำเสมอ บรรจุในสภาวะปลอดเชื้อ – เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา จากนั้นควรมีการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม เช่น ซองฟอยล์ซิปล็อก – ป้องกันความชื้นและรักษาคุณภาพ ซองแบบแบ่งใช้ (Single-Use Sachet) – สำหรับพกพาหรือใช้ครั้งเดียว ขวดแก้วหรือพลาสติก PET – สำหรับบรรจุในปริมาณมาก คุณสมบัติที่ควรมองหาในบรรจุภัณฑ์: ป้องกันความชื้นและอากาศเข้า ทนต่อแสงแดดเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ ออกแบบให้ใช้งานง่าย (เช่น ฝาปิดสนิท) อย่างไรก็ตามการขอมาตรฐาน อย. จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า แต่ผลิตภัณฑ์ผงปรุงรสก๋วยเตี๋ยวต้องระบุวัตถุดิบและปริมาณสารปรุงรสที่ใช้ ต้องมีการตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ โรงงานต้องมีมาตรฐาน GMP การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับผงปรุงรสก๋วยเตี๋ยวแห้ง ถือว่ามีความสำคัญมากในด้านการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความสะดวกในการใช้งาน และการดึงดูดลูกค้า การพิจารณาเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้: 1. ป้องกันความชื้นและอากาศ ซองฟอยล์ซิปล็อก: ฟอยล์สามารถกันความชื้นได้ดีและยังช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์จากแสงและออกซิเจนที่อาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพได้ ซองพลาสติกฟอยล์ (Foil Pouch): การใช้วัสดุผสมระหว่างฟอยล์และพลาสติกช่วยป้องกันความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถุงพลาสติกกันความชื้น (Moisture Barrier Bags): ถุงที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำและอากาศได้ดี 2. ความสะดวกในการใช้งาน ซองซิปล็อก (Resealable Zip Pouch): เหมาะสำหรับการใช้งานง่ายและสามารถปิดซองได้แน่นหนา เพื่อเก็บผงปรุงรสให้สดใหม่ ซองแบ่งใช้ (Single-Use Sachets): เหมาะสำหรับการให้ลูกค้าใช้ในแต่ละครั้ง โดยไม่ต้องเปิดบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด เพิ่มความสะดวกและลดการเสี่ยงต่อการปนเปื้อน ขวดพลาสติกหรือขวดแก้ว (PET or Glass Bottles): เหมาะสำหรับการบรรจุในปริมาณมาก มีช่องเปิดที่สะดวกและสามารถควบคุมปริมาณการใช้ 3. การออกแบบเพื่อการตลาด สีและการพิมพ์: เลือกสีที่โดดเด่นและสะดุดตา เช่น การใช้สีเขียวหรือสีธรรมชาติที่บ่งบอกถึงความเป็นธรรมชาติและความสดใหม่ โลโก้และข้อมูลผลิตภัณฑ์: ควรมีข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ใช้และคุณสมบัติเด่นของผงปรุงรส เช่น สารปรุงรสธรรมชาติ หรือแหล่งที่มาของเครื่องเทศ ขนาดบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม: สำหรับการใช้ในครัวเรือนควรเลือกขนาดที่สามารถใช้ได้หลายครั้ง ส่วนขนาดเล็กควรเหมาะสำหรับการใช้ในร้านอาหารหรือการพกพา 4. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วัสดุย่อยสลายได้: ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Biodegradable) เช่น กระดาษรีไซเคิลหรือพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ การใช้วัสดุรีไซเคิล: เลือกใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้เพื่อลดขยะและเพิ่มความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5. ความปลอดภัยและมาตรฐาน การตรวจสอบคุณภาพ: บรรจุภัณฑ์ต้องมีความสามารถในการป้องกันการปนเปื้อนจากภายนอกและรักษาคุณภาพของผงปรุงรส มาตรฐานอาหาร: ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. และมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์ ตัวเลือกบรรจุภัณฑ์ที่แนะนำ ซองฟอยล์ซิปล็อก– ป้องกันความชื้นได้ดีและสะดวกในการปิด-เปิด ถุงพลาสติกพับขอบ – ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการบรรจุในปริมาณใหญ่ ขวดพลาสติก PET หรือขวดแก้ว – เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์พรีเมียม ซองแบ่งใช้ขนาดพกพา – สะดวกสำหรับการใช้ในร้านหรือพกพาไปท่องเที่ยว สรุปผลการทำงาน: จากความต้องการของของประกอบดังกล่าวนำข้อมูลเชื่อมโยงให้กับนักวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงานวิจัยหรือการบริการวิชาเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18519] |
5000 | 1 |
1 [18518] |
ลำดับที่ 9 กลุ่ม/ชุมชน: - ผู้ประกอบการ : คุณพิมพ์พิสุทธิ์ เทพยศ ที่อยู่:54หมู่ 4ตำบลคลองยาง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เบอร์ติดต่อ: 095-823-4289 ผลิตภัณฑ์: เป็นผลผลิตทางการเกษตร ได้แก่ กล้วย มะม่วง มะนาว มะยงชิด ส่วนผลิตภัณฑ์แปรรูป ได้แก่ คุกกี้กล้วย กล้วยแผ่น กล้วยตาก กล้วยฉาบ หน่อไม้ดอง ถ่าน น้ำส้มควันไม้ และเครื่องประดับ ปัญหาและความต้องการ :ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผลผลิตทางการเกษตร และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ โดยอย่างเน้นให้ตอบโจทย์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การให้คำปรึกษา และข้อมูล :ด้วยผู้ประกอบการมีผลผลิตทางการเกษตรและมีสวนเป็นของตนเองต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเพื่อให้ตอบโจทย์แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์สำหรับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร อาจใช้แนวคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยเน้นการสร้างเอกลักษณ์ท้องถิ่น จากการใช้วัตถุดิบจากชุมชน และสื่อถึงวัฒนธรรมผ่านผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ โดยใช้กระบวนการแปรรูปที่ทันสมัย เช่น การอบแห้ง การหมัก การสกัดสารออกฤทธิ์ ทำให้เป็นสินค้าที่ระลึก (Souvenir Product) เน้นบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการพกพาและสามารถนำกลับไปเป็นของฝาก แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากผลผลิตทางการเกษตรจาก 1) ผลิตภัณฑ์จากกล้วย เช่น กล้วยตากเคลือบช็อกโกแลต / คาราเมล – เพิ่มรสชาติให้แปลกใหม่ กล้วยทอดกรอบรสชาติพิเศษ – เช่น รสต้มยำ รสสมุนไพร ชากล้วย – ใช้เปลือกกล้วยหรือกล้วยหอมแห้งมาทำเป็นชาเพื่อสุขภาพ 2) ผลิตภัณฑ์จากมะม่วง มะม่วงอบกรอบ (Freeze-Dried Mango) – เก็บได้นาน รักษารสชาติ น้ำส้มสายชูหมักจากมะม่วง – ใช้เป็นเครื่องปรุงหรือ เครื่องดื่มสุขภาพ แยมมะม่วงผสมพริกไทยดำ – เพิ่มรสชาติแปลกใหม่ 3) ผลิตภัณฑ์จากมะนาว ผงมะนาวอบแห้ง – ใช้ชงเครื่องดื่มหรือปรุงอาหาร น้ำมะนาวหมักโซดา – ทำเป็นเครื่องดื่มสุขภาพพร้อมดื่ม 4) ผลิตภัณฑ์จากมะยงชิด มะยงชิดเชื่อมพรีเมียม – บรรจุในกระปุกสวยงามสำหรับของฝาก มะยงชิดอบแห้ง (Soft-Dried Mayongchid) – เป็นขนมเพื่อสุขภาพ 5) ผลิตภัณฑ์จากหน่อไม้ดอง หน่อไม้ดองสำเร็จรูปในถุงสุญญากาศ – เพื่อความสะดวกในการพกพา ซอสหน่อไม้ดองสำหรับปรุงอาหาร – ใช้ในอาหารต่างชาติ เช่น อาหารญี่ปุ่นหรือเกาหลี 6) ผลิตภัณฑ์จากถ่านและน้ำส้มควันไม้ ถ่านหอมสมุนไพร – ผสมใบเตย ตะไคร้ หรือสมุนไพรอื่นๆ สเปรย์น้ำส้มควันไม้ไล่แมลง – ขายเป็นของใช้สำหรับนักท่องเที่ยว 7) เครื่องประดับจากวัสดุธรรมชาติ เครื่องประดับจากเมล็ดพืชหรือไม้ไผ่ – ทำเป็นของที่ระลึกจากฟาร์ม พวงกุญแจจากเปลือกผลไม้แห้ง – เช่น เปลือกมะนาวหรือมะม่วง ส่วนแนวทางการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรควรมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุธรรมชาติ – เช่น กล่องกระดาษรีไซเคิล ถุงกระดาษ ถุงผ้า บรรจุภัณฑ์พกพาสะดวก – เช่น ซองซิปล็อก ขวดขนาดพกพา ออกแบบให้มีเรื่องราว – พิมพ์ QR Code ที่บอกเล่าเรื่องราวของฟาร์มหรือที่มาของวัตถุดิบ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม – ใช้พลาสติกชีวภาพ (Biodegradable Plastic) สรุปผลการทำงาน: จากความต้องการของของประกอบดังกล่าวนำข้อมูลเชื่อมโยงให้กับนักวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงานวิจัยหรือการบริการวิชาเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18518] |
4500 | 1 |
1 [18517] |
ลำดับที่ 8 กลุ่ม/ชุมชน: วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเพื่อสุขภาพบ้านคลองระหัน ผู้ประกอบการ : นางสุภาพร บางเกตุ ที่อยู่:1หมู่ 5 ตำบลบ้านหลุม อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย เบอร์ติดต่อ: 083-770-0617 ผลิตภัณฑ์: แชมพู สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ลูกประคบ สมุนไพรบดอัดแคปซูล ปัญหาและความต้องการ :ต้องการพัฒนาสูตรแชมพูน้ำนมข้าว ฟักข้าว มะชาม เปลือกมังคุด น้ำผึ้ง มะเฟือง พร้อมกับพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความเหมาะสม สามารถขึ้น อย. และต้องการวิธีการสกัดสมุนไพร เพื่อให้มีคุณภาพสำหรับเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์แชมพู การให้คำปรึกษา และข้อมูล :ข้อมูลและคำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรแชมพูจากสมุนไพร จากส่วนผสมธรรมชาติ โดยส่วนมากวัตถุดิบหลักและคุณสมบัติ เช่น น้ำนมข้าว– บำรุงเส้นผม ให้ความชุ่มชื้น ลดอาการผมแห้งเสีย ฟักข้าว – อุดมด้วยไลโคปีนและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงหนังศีรษะ มะขาม – มี AHA ธรรมชาติ ช่วยผลัดเซลล์หนังศีรษะและลดรังแค เปลือกมังคุด – มีสารแทนนินช่วยลดการอักเสบ ลดอาการคัน และช่วยลดเชื้อราบนหนังศีรษะ น้ำผึ้ง – มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ให้ความชุ่มชื้นแก่หนังศีรษะ มะเฟือง – ช่วยควบคุมความมันของหนังศีรษะ และบำรุงรากผมให้แข็งแรง ซึ่งการผลิตแชมพูจะมีสูตรพื้นฐานแชมพูสมุนไพร ประกอบด้วย สารทำความสะอาด (SLS-Free) 15-20% สารสกัดสมุนไพร (รวมกัน) 10-20% น้ำมันธรรมชาติ (เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกน) 2-5% สารปรับค่า pH (กรดซิตริก) ปรับให้ pH อยู่ที่ 5.5-6.5 สารกันเสียจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากโรสแมรี่ วิตามินอี ส่วนวิธีการสกัดสมุนไพรเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในแชมพู ทำได้โดย 1) การสกัดแบบน้ำ (Water Extraction) ใช้กับ มะขาม เปลือกมังคุด มะเฟือง ต้มหรือแช่น้ำร้อนเพื่อดึงสารสำคัญออกมา 2) การสกัดแบบแอลกอฮอล์ (Ethanol Extraction) ใช้กับ ฟักข้าว เปลือกมังคุด เพื่อดึงสารต้านอนุมูลอิสระ ควรใช้แอลกอฮอล์ 70% แช่ไว้ 24-48 ชม. 3) การสกัดแบบน้ำมัน (Oil Infusion) ใช้กับ น้ำนมข้าว น้ำผึ้ง ฟักข้าว โดยแช่ในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะกอก หรือมะพร้าว ส่วนการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม สามารถเลือกได้หลายแบบ ได้แก่ ขวดพลาสติก PET สีชา – ป้องกันการเสื่อมสภาพของสารสกัดจากแสง ขวดปั๊ม (Pump Bottle) – ใช้งานสะดวก ควบคุมปริมาณการใช้ ขวดแก้วสำหรับผลิตภัณฑ์พรีเมียม – คงคุณภาพของสารสกัดได้นานขึ้น อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการส่งเสริมความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าควรมีการขอมาตรฐาน อย. ซึ่งแนวทางการขอ อย. ประกอบด้วย เตรียมสูตรและเอกสาร – ส่วนประกอบโดยละเอียด กระบวนการผลิต ส่งตัวอย่างทดสอบความปลอดภัย – ตรวจสอบการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ ยื่นขอ อย. กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบสถานที่ผลิต– โรงงานต้องมีมาตรฐาน GMP สรุปผลการทำงาน: จากความต้องการของของประกอบดังกล่าวนำข้อมูลเชื่อมโยงให้กับนักวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงานวิจัยหรือการบริการวิชาเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18517] |
4700 | 1 |
1 [18516] |
ลำดับที่ 7 กลุ่ม/ชุมชน: น้ำจิ้มยายวา ผู้ประกอบการ : นางนิตยา อภิมนต์บุตร ที่อยู่:21/1 หมู่ 4 ตำบลเนิ่นกุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก เบอร์ติดต่อ: 089-707-8878 ผลิตภัณฑ์:น้ำจิ้มลูกชิ้น 4 รสชาติ น้ำผัดไทย มะขามกวน ปัญหาและความต้องการ :ต้องการพัฒนามะขามกวนจากกากมะขาม ต้องการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ท๊อฟฟี่เคี้ยวหนึบให้มีความสวยงาม สามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้ และให้ถูกใจผู้บริโภค การให้คำปรึกษา และข้อมูล :แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากมะขามกวน สามารถให้เป็นผลิตภัณฑ์ ท๊อฟฟี่มะขามเคี้ยวหนึบ (Tamarind Chewy Toffee) โดยใช้รูปแบบ: ท๊อฟฟี่เนื้อเคี้ยวหนึบจากมะขามกวน ผสมผลไม้หรือสมุนไพร เช่น น้ำผึ้ง เกลือหิมาลัย ขิง กลุ่มเป้าหมาย: คนรักสุขภาพ เด็ก และวัยรุ่น เทคนิค: ใช้เจลาตินจากพืชหรือเพคตินเพื่อปรับเนื้อสัมผัส การตลาด: บรรจุเป็นชิ้นเล็กพร้อมทาน ขายในร้านของฝาก ร้านสุขภาพ หรืออาจมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มะขามกวนแท่งพลังงาน (Tamarind Energy Bar) รูปแบบ: ผสมธัญพืช เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ งาดำ กลุ่มเป้าหมาย: นักกีฬา คนทำงาน คนรักสุขภาพ เทคนิค: ใช้การอัดแท่งและอบแห้งเพื่อให้พกพาสะดวก การตลาด: ขายในร้านอาหารสุขภาพ ร้านค้าออนไลน์ หรือเป็นผลิตภัณฑ์ มะขามกวนอบกรอบ (Tamarind Crispy Snack) รูปแบบ: มะขามกวนที่ทำให้แห้งและกรอบ คล้ายขนมกรอบ กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มวัยรุ่น และคนที่ชอบขนมขบเคี้ยว เทคนิค: ใช้การทอดสุญญากาศ (Vacuum Frying) เพื่อให้กรอบโดยไม่อมน้ำมัน การตลาด: วางขายตามร้านสะดวกซื้อ หรือทำเป็นผลิตภัณฑ์ซอสหรือแยมมะขามกวน (Tamarind Jam / Sauce) รูปแบบ: ซอสหรือแยมจากมะขามกวน ใช้ทาขนมปัง หรือเป็นน้ำจิ้ม กลุ่มเป้าหมาย: ครัวเรือน ร้านอาหาร ร้านขนม เทคนิค: ใช้สารเพิ่มความหนืดธรรมชาติ เช่น เพคติน การตลาด: ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือส่งให้ร้านอาหาร สำหรับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ เช่น 1) บรรจุภัณฑ์สำหรับท๊อฟฟี่มะขามเคี้ยวหนึบ แบบแยกชิ้น (Individual Wrapping): ใช้ฟิล์มพลาสติกลามิเนตที่ทนต่อความชื้น แบบซองซิปล็อก (Zip Lock Pouch): ใช้ถุงลามิเนตที่มีวาล์วกันอากาศ กล่องกระดาษ (Paper Box): เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สำหรับของฝาก 2) บรรจุภัณฑ์สำหรับมะขามกวนแท่งพลังงาน ฟิล์มโปร่งใสเคลือบลามิเนต (Laminated Transparent Film): เพื่อโชว์เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ ซองฟอยล์ (Foil Pouch): ป้องกันความชื้นและช่วยยืดอายุสินค้า 3) บรรจุภัณฑ์สำหรับมะขามกวนอบกรอบ ซองสูญญากาศ (Vacuum Pack): ป้องกันการเกิดความชื้น กระป๋องพลาสติก (Plastic Canister): เพื่อรักษาความกรอบ 4) บรรจุภัณฑ์สำหรับซอสหรือแยมมะขามกวน ขวดแก้ว (Glass Jar): สำหรับสินค้าพรีเมียม ขวดพลาสติก PET: น้ำหนักเบา ราคาถูก เหมาะกับการขายทั่วไป ซองบีบ (Squeeze Pouch): พกพาง่าย ใช้สะดวก สรุปผลการทำงาน: จากความต้องการของของประกอบดังกล่าวนำข้อมูลเชื่อมโยงให้กับนักวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงานวิจัยหรือการบริการวิชาเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18516] |
5000 | 1 |
1 [18515] |
ลำดับที่ 6 กลุ่ม/ชุมชน: ข้าวป้าสร้อย ผู้ประกอบการ : นางสาวสร้อย เพียรทอง ที่อยู่:104หมู่ 4 ต.ไกรใน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย 64170 เบอร์ติดต่อ: 062-529-4710 ผลิตภัณฑ์: ข้าวสารบรรจุสุญญากาศ ผำพอง คุกกี้จมูกข้าว ผงข้าวชงดื่ม โจ๊กข้าวสามสี ปัญหาและความต้องการ :ต้องการขอมาตรฐาน อย. สำหรับข้าวบรรจุสุญญากาศ เครื่องหมาย QGAPแปลงข้าว และพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวผสมผำ การให้คำปรึกษา และข้อมูล : แนวทางขอมาตรฐาน อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) สำหรับข้าวบรรจุสุญญากาศ เอกสารที่ต้องเตรียม ข้อมูลผู้ประกอบการและโรงงานผลิต รายละเอียดผลิตภัณฑ์ เช่น ชนิดข้าว วิธีการบรรจุ อายุการเก็บรักษา สูตรและกระบวนการผลิต ฉลากสินค้าตามข้อกำหนดของ อย. ขั้นตอนการขอ อย. สมัครเป็นผู้ประกอบการในระบบ e-Submission ของ อย. ยื่นคำขอและส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อตรวจสอบ รอการพิจารณาและอนุมัติ (ใช้เวลาประมาณ 30-90 วัน) ซึ่งจะมีค่าใช้จ่าย คือ ค่าธรรมเนียมขอเลข อย. ประมาณ 2,000-5,000 บาท ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ (หากจำเป็น) การขอเครื่องหมาย Q และ GAP สำหรับแปลงข้าว เครื่องหมาย Q (Q-Mark) โดยกรมการข้าว ต้องมีมาตรฐานการผลิตที่ควบคุมคุณภาพตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว และแปรรูป มีการตรวจสอบแปลงนาและกระบวนการผลิต สมัครขอรับรองที่กรมการข้าวหรือศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวประจำจังหวัด GAP (Good Agricultural Practices) สำหรับแปลงข้าวเป็นมาตรฐานการเพาะปลูกที่ลดสารเคมีและควบคุมความปลอดภัยของผลผลิต ต้องมีการตรวจสอบแปลงโดยเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตร สมัครได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดหรือกรมวิชาการเกษตร การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวผสมผำ แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ข้าวผสมผำพร้อมหุงสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการอาหารสุขภาพ เครื่องดื่มจากข้าวผสมผำ เช่น น้ำนมข้าวผสมผำ ขนมข้าวอบกรอบหรือซีเรียลจากข้าวผสมผำ ข้อดีของการใช้ผำเป็นส่วนผสม ผำเป็นแหล่งโปรตีนสูงและอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ตอบโจทย์กลุ่มตลาดอาหารสุขภาพและ Plant-Based Food แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชผำ อาจทำได้โดยการศึกษาคุณค่าทางโภชนาการของพืชผำ ผำเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่มีกรดอะมิโนจำเป็นสูง อุดมด้วยแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม และโอเมก้า 3 เหมาะสำหรับตลาดอาหารสุขภาพ และผู้ที่ต้องการโปรตีนจากพืช (Plant-Based Protein) แนวคิดผลิตภัณฑ์ที่สามารถพัฒนาได้ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหาร ข้าวผสมผำ – ข้าวเสริมโปรตีนจากผำสำหรับผู้รักสุขภาพ เส้นพาสต้า/บะหมี่จากแป้งข้าวผสมผำ – เพิ่มโปรตีนจากธรรมชาติ ขนมขบเคี้ยว (Snack) จากผำ – เช่น ข้าวอบกรอบผสมผำ หรือสแน็คแท่งโปรตีน เครื่องดื่มจากผำ – เช่น น้ำนมข้าวผสมผำ หรือโปรตีนเชคจากผำ เต้าหู้หรือเทมเป้จากผำ – พัฒนาเป็นโปรตีนทางเลือกสำหรับผู้ทานมังสวิรัติ ผำอบแห้งหรือแคปซูลเสริมอาหาร – สำหรับผู้ที่ต้องการสารอาหารจากผำในรูปแบบเข้มข้น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ เซรั่มหรือครีมบำรุงผิวจากสารสกัดผำ – เนื่องจากผำมีสารต้านอนุมูลอิสระ สบู่และแชมพูจากผำ – ใช้คุณสมบัติของสารธรรมชาติในผำบำรุงผิวและเส้นผม ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ปุ๋ยชีวภาพจากผำ – ใช้ผำเป็นแหล่งไนโตรเจนในการทำปุ๋ย ฟิล์มชีวภาพจากโปรตีนผำ – ใช้แทนพลาสติกแบบย่อยสลายได้ แนวทางการแปรรูปและถนอมอาหาร ใช้เทคนิคการอบแห้ง หรือตากแห้งเพื่อเก็บรักษาสารอาหาร พัฒนาเป็นผงโปรตีนจากผำเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร ใช้เทคโนโลยีสกัดสารอาหารเพื่อเพิ่มคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ควรมีการขอขอมาตรฐานและรับรองคุณภาพ ซึ่งการขอมาตรฐาน อย. สำหรับผลิตภัณฑ์อาหาร ขอมาตรฐาน GMP และ HACCP สำหรับกระบวนการผลิต หากเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก อาจขอใบรับรอง Organic Certification สรุปผลการทำงาน: จากความต้องการของของประกอบดังกล่าวนำข้อมูลเชื่อมโยงให้กับนักวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงานวิจัยหรือการบริการวิชาเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18515] |
5000 | 1 |
1 [18514] |
ลำดับที่ 5 กลุ่ม/ชุมชน: กรพัฒนากิจ ผู้ประกอบการ : นางสาวชาญพิชญ์คูณ ประสุขทวีสิน ที่อยู่:37หมู่ 5ต. ศรีนคร อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย เบอร์ติดต่อ: 061-1564563, 094-5211299 ผลิตภัณฑ์: มะม่วงหาวมะนาวโห่อบแห้ง ไซรับมะม่วงหามะนาวโห่ ปัญหาและความต้องการ :ผู้ประกอบการต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไซรัปให้เป็นเครื่องดื่มพร้อมรับประทาน โดยต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีราคาไม่แพง สามารถทนความร้อน ต้นทุนต่ำ น้ำหนักเบา คล้ายกับถุงเจลลี่ เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้หลายช่องทาง ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการจำหน่ายไซรัปมะม่วงหาวมะนาวโห่ ซึ่งเวลาใช้ ผู้บริโภคต้องนำไปผสมน้ำเองหรือผสมเครื่องดื่มต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง จึงต้องการพัฒนาน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ในรูปแบบพร้อมดื่ม การให้คำปรึกษา และข้อมูล :แนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่พร้อมดื่ม อาจทำได้หลายแบบขึ้นกับต้องการจำหน่ายลูกค้าประเภทไหน เช่น อาจมีการการพัฒนาสูตรเครื่องดื่มพร้อมดื่ม ปรับสูตรให้มีรสชาติที่กลมกล่อม ดื่มง่าย ไม่เปรี้ยวเกินไป อาจเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยเสริมสุขภาพ เช่น น้ำผึ้ง น้ำตาลอ้อย หรือคอลลาเจน ควรใช้สารกันเสียจากธรรมชาติ เช่น วิตามินซี หรือกรดซิตริก พัฒนาให้เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น สูตรน้ำตาลต่ำหรือสูตร 0 แคลอรี เป็นต้น ส่วนการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม อาจใช้ถุงเจลลี่หรือถุง Spout Pouch: น้ำหนักเบา ราคาประหยัด และสะดวกพกพา ขวด PET หรือขวดพลาสติกแบบร้อน (Hot Fill PET): เหมาะสำหรับเครื่องดื่มที่ต้องผ่านกระบวนการพาสเจอไรซ์ ถ้วยพลาสติกซีลฝา (Cup Seal): คล้ายเครื่องดื่มเจลลี่ ดื่มได้ง่าย เหมาะสำหรับตลาดเด็กและวัยรุ่น ขวดแก้วขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับการสร้างภาพลักษณ์พรีเมียม ซึ่งควรมีการเพิ่มความสามารถในการเก็บรักษา โดยใช้กระบวนการ พาสเจอไรซ์ (Pasteurization) หรือ UHT (Ultra Heat Treatment) ปรับค่า pH และ Brix (ปริมาณน้ำตาล) เพื่อช่วยยืดอายุการเก็บ ใช้เทคโนโลยีบรรจุแบบปลอดเชื้อ (Aseptic Packaging) อย่างไรก็ตามตามกฏหมายของเครื่องดื่มแล้วควรมีการขอใบรับรองคุณภาพ ขอ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย พิจารณามาตรฐาน GMP และ HACCP เพื่อความปลอดภัยของอาหาร หากต้องการส่งออก ควรพิจารณามาตรฐาน Halal หรือ Organic สำหรับกลยุทธ์การตลาดและช่องทางจำหน่าย อาจเริ่มจากวางจำหน่ายผ่าน ร้านค้าเพื่อสุขภาพ หรือ คาเฟ่ที่เน้นเครื่องดื่มสุขภาพ ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada หรือ TikTok Shop ทำการตลาดด้วย อินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพ จัดโปรโมชั่นแบบแพ็กเกจ เช่น ซื้อ 5 แถม 1 หรือ Subscription Box รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นทุน การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการขอใบรับรอง ต้นทุนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ การคำนวณต้นทุนต่อหน่วย วัตถุดิบ: เช่น น้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่, สารเพิ่มรสชาติ, น้ำตาล, สารกันเสียจากธรรมชาติ บรรจุภัณฑ์: ถุง Spout Pouch ราคาประมาณ 1.5-3 บาท/ใบ หรือขวด PET ราคาประมาณ 2-5 บาท/ขวด กระบวนการผลิต: ค่าจ้างเครื่องจักร, พาสเจอไรซ์ หรือ UHT ค่าแรง: ค่าแรงงานต่อชั่วโมงและต้นทุนการบรรจุ ต้นทุนอื่น ๆ: เช่น โลโก้ ฉลาก การขนส่ง การลดต้นทุนอาจทำได้โดยสั่งซื้อวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ในปริมาณมากเพื่อลดราคาต่อหน่วย เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศเพื่อลดค่าขนส่ง การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ความคุ้มค่า: ใช้บรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบา เช่น ถุง Spout Pouch ซึ่งเหมาะสำหรับตลาดที่เน้นความสะดวกและราคาประหยัด การดึงดูดสายตา ใช้สีสดใส เช่น สีแดงเข้ม สีชมพู หรือสีทอง เพื่อสื่อถึงความสดชื่นและพรีเมียม พิมพ์ลายผลมะม่วงหาวมะนาวโห่เพื่อบ่งบอกถึงวัตถุดิบหลัก ความสะดวก เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เปิดง่ายและปิดได้ เช่น ฝาเกลียวหรือซิปล็อก ส่วนการขอใบรับรองคุณภาพ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) เอกสารที่ต้องเตรียม: สูตรส่วนผสม, ฉลากสินค้า, รายละเอียดกระบวนการผลิต ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 2,000-5,000 บาทต่อผลิตภัณฑ์ GMP (Good Manufacturing Practice) ตรวจสอบสถานที่ผลิตให้ได้มาตรฐาน เช่น ความสะอาดและปลอดภัยของเครื่องจักร ค่าใช้จ่าย: ขึ้นอยู่กับการปรับปรุงสถานที่ HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) เป็นมาตรฐานเพื่อควบคุมความเสี่ยงในกระบวนการผลิต ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 50,000-150,000 บาท (ขึ้นกับขนาดโรงงาน) มาตรฐานเพิ่มเติม Halal: สำหรับการจำหน่ายในกลุ่มประเทศมุสลิม Organic Certification: สำหรับเครื่องดื่มสุขภาพที่เน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติ แนวทางปฏิบัติและคำแนะนำ เริ่มต้นจากการขอ อย. ก่อนเพื่อเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ จ้างที่ปรึกษาด้านมาตรฐาน GMP/HACCP หากต้องการส่งออก ทดสอบการตลาดด้วยบรรจุภัณฑ์ราคาประหยัด (ถุง Spout Pouch) ก่อนขยายไปใช้บรรจุภัณฑ์พรีเมียม
สรุปผลการทำงาน: จากความต้องการของของประกอบดังกล่าวนำข้อมูลเชื่อมโยงให้กับนักวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงานวิจัยหรือการบริการวิชาเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18514] |
4500 | 1 |
1 [18513] |
ลำดับที่ 4 กลุ่ม/ชุมชน: วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์และการแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย ผู้ประกอบการ : นางนงค์รัก แสนอุบล ที่อยู่:44/4หมู่ 8ต.นครเดิฐ อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย 164180 เบอร์ติดต่อ: 0819535176 ผลิตภัณฑ์: มะม่วงกวน กล้วยแผ่น กล้วยตาก ปัญหาและความต้องการ :ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์มะม่วงกวนให้สามารถมีบรรจุภัณฑ์ที่สามารถส่งออกจำหน่ายพื้นที่อื่นได้ สามารถยกระดับหรือเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สามารถจำหน่ายได้ราคาเพิ่มขึ้น การให้คำปรึกษา และข้อมูล :การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการส่งออกสำหรับผลิตภัณฑ์มะม่วงกวน อาจเลือกใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์: ควรเลือกวัสดุที่สามารถป้องกันความชื้นและแสงได้ดี เช่น ฟอยล์ลามิเนต ซองพลาสติกซีลสูญญากาศ หรือกล่องที่มีซองกันความชื้นภายใน ดีไซน์บรรจุภัณฑ์: เน้นความทันสมัย ดึงดูดลูกค้า อาจใช้ภาพลายเส้นเกี่ยวกับมะม่วงและสีทองเพื่อสื่อถึงคุณภาพระดับพรีเมียม รูปแบบบรรจุภัณฑ์: อาจใช้เป็นแบบแท่ง (Bar), แผ่นห่อเป็นชิ้นเล็ก ๆ (Snack Pack) หรือกล่องของขวัญ (Gift Box) โดยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ สามารถทำได้โดยการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง: ใช้มะม่วงพันธุ์ดี เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ หรือมะม่วงอกร่อง การปรับสูตรให้พรีเมียม: อาจเพิ่มรสชาติใหม่ ๆ เช่น มะม่วงกวนผสมเสาวรส น้ำผึ้ง หรือเกลือหิมาลัย การใช้แนวคิดสุขภาพ: ทำมะม่วงกวนสูตรน้ำตาลต่ำ หรือไม่เติมสารกันเสีย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าสายสุขภาพ นอกจากนี้การสร้างตราสินค้า (Branding) ควรคิดชื่อแบรนด์ที่สื่อถึงคุณภาพ เช่น “Mango Bliss” หรือ “มะม่วงกวนทอง” ออกแบบโลโก้และฉลากที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของสินค้า ระบุแหล่งผลิตเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เช่น “ผลิตจากมะม่วงสวนออร์แกนิก จังหวัดสุโขทัย” เป็นต้น การขอการรับรองคุณภาพเพื่อส่งออก ได้แก่ ขอ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค มาตรฐาน GMP/HACCP สำหรับการผลิตที่สะอาดและปลอดภัย หากต้องการส่งออก อาจพิจารณามาตรฐาน Halal, Organic Certification หรือ FDA (สำหรับสหรัฐฯ)ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดและขยายช่องทางจำหน่าย สามารถทำได้โดยายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada หรือ Amazon จัดทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าผ่าน TikTok, Facebook หรือ Instagram ส่งออกไปยังร้านขายของฝาก สนามบิน หรือร้านค้าเพื่อสุขภาพ สรุปผลการทำงาน: จากความต้องการของของประกอบดังกล่าวนำข้อมูลเชื่อมโยงให้กับนักวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงานวิจัยหรือการบริการวิชาเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18513] |
4500 | 1 |
1 [18509] |
ลำดับที่ 3 กลุ่ม/ชุมชน: พญาไพร ผู้ประกอบการ : นางศริสา เข็มวัน(คุณต้อม) ที่อยู่:358 ถนนเทศา 2ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เบอร์ติดต่อ: 086-781-5441 ผลิตภัณฑ์:เครื่องสำอางชนิดต่างๆ ที่ทำจากสมุนไพร ปัญหาและความต้องการ :ต้องการผลิตสารกันแดดจากเปลือกกล้วยไข่เพื่อเพิ่มมูลค่า การให้คำปรึกษา และข้อมูล :การผลิตสารกันแดดจากเปลือกกล้วยไข่เพื่อเพิ่มมูลค่า ควรทำการการสกัดสารสำคัญ (Extraction Process) ด้วยการศึกษาสาระสำคัญในเปลือกกล้วยไข่ก่อน อย่างไรก็ตามเปลือกกล้วยไข่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ ซึ่งสามารถมีคุณสมบัติในการป้องกันรังสียูวีได้ ในเบื้องต้นวิธีการสกัดทำได้หลายอย่าง เช่น การสกัดด้วยตัวทำละลายธรรมชาติ (เอทานอลหรือน้ำ) หรือวิธีที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การสกัดด้วยอัลตราโซนิก การสกัดจะต้องควบคุมเงื่อนไข เช่น อุณหภูมิ ความดัน และเวลา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสกัด ปรับปรุงสารสกัดเพื่อทำให้สารสกัดมีความเสถียร เช่น การเติมสารช่วยคงตัว หรือการใช้เทคนิคการไมโครเอนแคปซูเลชัน (Microencapsulation) และควรมีการพิสูจน์คุณสมบัติ (Testing and Validation) ด้วยการทดสอบประสิทธิภาพสารกันแดด ซึ่งจะใช้การทดสอบ SPF (Sun Protection Factor) โดยอาจใช้ห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือมาตรฐาน ทำการวิเคราะห์ความปลอดภัย เช่น ทดสอบการระคายเคืองต่อผิวหนัง (Patch Test) ตรวจสอบสารพิษตกค้าง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยต่อผู้บริโภค วิเคราะห์คุณสมบัติอื่น เช่น วัดคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระและความเสถียรของสารสกัดเมื่อเก็บในสภาพแวดล้อมต่างๆ นอกจากนี้หากมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์แล้ว ควรมีการการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ (Packaging Development) ควบคู่ไปด้วยเพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดจำหน่าย ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกชีวภาพ หรือวัสดุรีไซเคิล ออกแบบให้สะดุดตาและแสดงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เช่น “ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ” การตรวจสอบความคงตัวด้วยการทดสอบการรั่วซึมและความเสถียรของผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ โดยมีการออกแบบแบรนด์ให้เป็นที่จดจำเหมือนเดิม และเน้นเรื่องการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเพื่อเพิ่มมูลค่าและจุดขาย เช่น “เพิ่มคุณค่าจากเปลือกกล้วยไข่ไทย” จากนั้นควรทำการขอรับรองมาตรฐาน: เช่น อย. หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
สรุปผลการทำงาน: จากความต้องการของของประกอบดังกล่าวนำข้อมูลเชื่อมโยงให้กับนักวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงานวิจัยหรือการบริการวิชาเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ประกอบการต่อไป รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18509] |
11050 | 3 |
1 [18508] |
ลำดับที่ 2 กลุ่ม/ชุมชน: คุณเสริมวุฒิ สวรรณโรจน์ ผู้ประกอบการ : เฉาก๊วยชากังราว ที่อยู่:141/3 หมู่ที่ 6 ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร 62000 เบอร์ติดต่อ: 0-5585-4821 ผลิตภัณฑ์: เฉาก๊วยในน้ำเชื่อม ปัญหาและความต้องการ :ต้องการทำเฉาก๊วยผงในแคปซูล การให้คำปรึกษา และข้อมูล : ความสำคัญของผลิตภัณฑ์เฉาก๊วยผงใน เป็นการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เฉาก๊วยให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาสินค้าสุขภาพ ใช้งานสะดวก และเก็บรักษาได้นาน โดยผลิตภัณฑ์ในรูปแบบแคปซูลยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดกลุ่มเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามกระบวนการผลิตเฉาก๊วยผงในแคปซูล สามารถทำได้โดยการแปรรูปเฉาก๊วยเป็นผง โดยมีวิธีทำคือ1. การสกัดสารสำคัญจากเฉาก๊วย : นำเฉาก๊วยสดหรืออบแห้งมาผ่านกระบวนการสกัด เพื่อดึงสารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น สารโพลีแซ็กคาไรด์ ใช้เทคนิคการสกัดด้วยน้ำร้อนหรือการสกัดเย็นเพื่อคงคุณภาพ 2. การทำให้แห้ง ใช้กระบวนการอบแห้งแบบ Spray Drying หรือ Freeze Drying เพื่อให้ได้ผงเฉาก๊วยที่คงคุณค่าทางโภชนาการ 3. การบดละเอียด นำเฉาก๊วยที่แห้งแล้วมาบดเป็นผงละเอียด เพื่อให้เหมาะสมกับการบรรจุในแคปซูล การบรรจุในแคปซูล 1. เลือกวัสดุแคปซูล ใช้แคปซูลเจลาติน (Gelatin Capsules) หรือแคปซูลจากพืช (Vegan Capsules) เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทั้งทั่วไปและมังสวิรัติ 2. การบรรจุ ใช้เครื่องบรรจุแคปซูลแบบอัตโนมัติ เพื่อความสะอาดและแม่นยำ 3. การตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน สามารถทำได้โดย 1. มาตรฐานสินค้า รับรองคุณภาพการผลิตตามมาตรฐาน GMP และ HACCP ตรวจสอบสารสำคัญในผลิตภัณฑ์ เช่น ปริมาณสารโพลีแซ็กคาไรด์ 2. การขึ้นทะเบียน อย. จดทะเบียนผลิตภัณฑ์เฉาก๊วยผงในแคปซูลกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ 3. การทดสอบคุณภาพ ตรวจสอบการปนเปื้อน เช่น เชื้อรา สารพิษ และโลหะหนัก 4. การออกแบบบรรจุภัณฑ์และการตลาด ประกอบด้วย 1. การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ใช้กระปุกหรือซองบรรจุที่มีความทันสมัย พร้อมฉลากที่ดึงดูด ระบุข้อมูลที่ชัดเจน เช่น ส่วนประกอบ, วิธีใช้, และคุณประโยชน์ 2. การทำการตลาด ใช้การตลาดเชิงสุขภาพ เน้นคุณสมบัติเด่น เช่น ช่วยเพิ่มความสดชื่น, มีไฟเบอร์สูง, หรือช่วยปรับสมดุลร่างกาย จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada, และ Facebook 3. ทดลองตลาด (Market Testing) ทดลองผลิตและส่งตัวอย่างให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทดลองใช้ เก็บข้อมูลความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับปรุง สรุปผลการทำงาน: ผลิตภัณฑ์เฉาก๊วยผงในแคปซูลเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ตลาดสุขภาพ โรงงานเฉาก๊วยชากังราวสามารถเริ่มต้นพัฒนากระบวนการผลิตด้วยการแปรรูปเฉาก๊วยเป็นผงที่มีคุณภาพสูง ผสานกับเทคโนโลยีบรรจุแคปซูลเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาด หมายเหตุ:ให้คำปรึกษาผ่านทางสัญญาณโทรศัพท์ รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18508] |
0 | 1 |
1 [18507] |
ลำดับที่ 1 กลุ่ม/ชุมชน: นางสาว นันลนา นามโคตร ผู้ประกอบการ : วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์เลี้ยงปูนา และแปรรูปอำเภอสวรรคโลก ที่อยู่: 90/3 ย่านยาว หมู่ที่ 2 ย่านยาว สวรรคโลก สุโขทัย เบอร์ติดต่อ: 065-754-9546 ผลิตภัณฑ์: อ่องปูนา ปัญหาและความต้องการ :ต้องการยืดอายุการผลิตผลิตภัณฑ์อ่องปูนาแท้ภายใต้บรรจุภัณฑ์ขนาดไม่เกิน 100 มิลลิตร เพื่อนำผลิตภัณฑ์สามารถพกพาขึ้นเครื่องได้ การให้คำปรึกษา และข้อมูล :
ในเบื้องต้นได้มีการให้ข้อมูลและคำปรึกษา ดังนี้ อ่องปูนา เป็นผลิตภัณฑ์อาหารพื้นบ้านของไทยที่จัดอยู่ใน ประเภทอาหารปรุงสำเร็จ หรือ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปูนา โดยเฉพาะส่วน มันปูนา ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอ่องปูนา มักปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ เช่น เกลือ พริก น้ำปลา และบางครั้งอาจมีส่วนผสมของสมุนไพรหรือส่วนประกอบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความอร่อยและเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละพื้นที่ ผลิตภัณฑ์อ่องปูนาถือเป็น อาหารพื้นบ้าน: อ่องปูนาเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่น มักพบในภาคเหนือและภาคอีสานของไทย ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสัตว์น้ำ: เป็นการนำ ปูนา ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่นมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า อาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat): อ่องปูนาเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงสำเร็จ สามารถนำไปรับประทานได้ทันที หรือนำไปอุ่นก่อนบริโภค โดยผลิตภัณฑ์อ่องปูนาจะมีคุณลักษณะของรสชาติ ที่เป็นลักษณะของมันปูที่เข้มข้น ผสานกับรสชาติของเครื่องปรุง เช่น เค็ม เผ็ด และหอมมัน มีความเนียน มัน และเนื้อสัมผัสนุ่ม มักใช้เป็นเครื่องจิ้มกับข้าวเหนียว ผักลวก หรือข้าวสวย จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ คือ 1. ภูมิปัญญาท้องถิ่น: สะท้อนถึงวัฒนธรรมการกินของชาวไทยในชนบท 2. วัตถุดิบจากธรรมชาติ: ใช้ปูนาที่หาได้ตามท้องไร่ท้องนา 3. การเก็บรักษา: เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการเก็บรักษาสั้น แต่สามารถเพิ่มอายุได้ด้วยกระบวนการถนอมอาหาร ส่วนการยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ อ่องปูนาแท้ ที่ผลิตจากมันปู สามารถทำได้ผ่านกระบวนการผลิตและการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม โดยมีคำปรึกษาดังนี้ : 1. กระบวนการผลิต การปรับปรุงกระบวนการผลิตช่วยลดความเสี่ยงต่อการเน่าเสียและการปนเปื้อน: 1. การพาสเจอไรซ์ (Pasteurization) ใช้ความร้อนที่อุณหภูมิ 60-85°C เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดการเน่าเสีย โดยไม่ทำลายรสชาติและคุณค่าทางอาหารของผลิตภัณฑ์ 2. การสเตอริไลซ์ (Sterilization) ใช้ความร้อนสูงกว่า 100°C เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเก็บรักษาในอุณหภูมิห้อง 3. การควบคุมค่า pH ลดค่า pH ของผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในระดับที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ เช่น การเติมน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาวในปริมาณที่เหมาะสม 4. การลดความชื้น ลดปริมาณน้ำในผลิตภัณฑ์ เช่น การทำให้เข้มข้นหรือการอบแห้งบางส่วน เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ 5. การแช่เย็น (Cold Chain) เก็บรักษาผลิตภัณฑ์ในอุณหภูมิต่ำ (0-4°C) ระหว่างการผลิตและขนส่ง 2. การเลือกบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมช่วยป้องกันการปนเปื้อนและยืดอายุการเก็บรักษา: 1. ระบบปิดสนิท (Airtight Packaging) ใช้ขวดแก้วหรือพลาสติกที่มีฝาปิดสนิทเพื่อป้องกันอากาศและความชื้นเข้าไป 2. การบรรจุสุญญากาศ (Vacuum Packaging) ดูดอากาศออกจากบรรจุภัณฑ์เพื่อลดการเกิดออกซิเดชันและการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ 3. การบรรจุในบรรยากาศปรับแต่ง (Modified Atmosphere Packaging - MAP) ใช้ก๊าซเฉื่อย เช่น ไนโตรเจน หรือคาร์บอนไดออกไซด์แทนอากาศในบรรจุภัณฑ์ 4. การใช้ฟิล์มกันแสงและออกซิเจน (Barrier Films)ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันแสง UV และการซึมผ่านของออกซิเจน 5. การบรรจุแบบเรทอร์ท (Retort Packaging) ใช้ถุงหรือกระป๋องที่สามารถผ่านกระบวนการสเตอริไลซ์ได้ นอกจากนี้การเลือกบรรจุภัณฑ์ขนาด ไม่เกิน 70 มล. ที่มีรูปทรงคล้ายแบรนด์รังนก สามารถปิดสนิทจะมีผลทำให้การนำผลิตภัณฑ์สามารถขั้นเครื่องได้ ดังนั้นอาจมีการเลือกบรรจุภัณฑ์ ดังนี้ วัสดุที่แนะนำ 1. ขวดแก้ว ข้อดี:ป้องกันการซึมผ่านของอากาศและความชื้น ดูพรีเมียมและสะท้อนคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทนต่อกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน ข้อเสีย: น้ำหนักมากกว่าและเสี่ยงต่อการแตก 2. ขวดพลาสติก PET เกรดอาหาร ข้อดี: น้ำหนักเบา ราคาถูกกว่าแก้ว ปลอดภัยสำหรับอาหาร ข้อเสีย: อาจต้องเพิ่มฟิล์มกันแสงเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของผลิตภัณฑ์ การออกแบบขวด เพื่อให้คล้ายแบรนด์รังนก ขวดควรมีลักษณะดังนี้: 1. รูปทรงทรงกลมสั้น ดูหรูหราและง่ายต่อการถือ พื้นที่ปิดฝาควรมีเกลียวปิดสนิท 2. ฝาปิดแน่นหนาเลือกฝาแบบ Aluminum Cap (ฝาโลหะ) หรือ Plastic Seal Cap ที่มีซีลกันรั่ว 3. ฟังก์ชันพิเศษ อาจเพิ่มซีลสุญญากาศหรือฟิล์มหุ้มเพื่อแสดงความปลอดภัย 4. ฉลากที่ชัดเจนและดึงดูด ใช้ฉลากโปร่งใสหรือฉลากกันน้ำที่ดูสะอาดตา พร้อมข้อมูลผลิตภัณฑ์ครบถ้วน การเลือกกระบวนการบรรจุ เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความสะอาดและยืดอายุ: 1. การบรรจุแบบร้อน (Hot Filling) เติมผลิตภัณฑ์ในขวดขณะร้อน (ประมาณ 85°C) เพื่อฆ่าเชื้อและปิดฝาทันที เหมาะกับขวดแก้วหรือขวดพลาสติกที่ทนความร้อน 2. การบรรจุแบบปลอดเชื้อ (Aseptic Filling) ใช้ในกรณีที่ต้องการลดการใช้ความร้อน เพื่อรักษารสชาติและคุณค่าทางอาหาร 3. การใช้ซีลปิดฝา (Induction Seal) เพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ การประเมินต้นทุนบรรจุภัณฑ์ • ราคาขวดแก้ว (70 มล.): ประมาณ 3-7 บาท/ขวด (ขึ้นอยู่กับคุณภาพและจำนวนการสั่ง) • ราคาขวดพลาสติก PET (70 มล.): ประมาณ 2-5 บาท/ขวด • ราคาฝา: 1-3 บาท/ฝา • ต้นทุนการติดฉลาก: 1-2 บาท/ขวด สรุปผลการทำงาน: ควรทำการส่งต่อผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อทำให้เกิดการจับคู่ นำไปสู่การจัดทำข้อเสนอโครงการ เพื่อส่งเสริมและยกระดับสินค้าให้ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจผ่านการสนับสนุนงบประมาณจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม หรือ ภาคีเครือข่ายภาครัฐหรือเอกชน รายงานโดย นางสาวอิสราภรณ์ ใบวุฒิ วันที่รายงาน 11/01/2568 [18507] |
2450 | 2 |