2568 ศูนย์ประสานงานและบริการให้คำปรึกษาและข้อมูลเทคโนโลยีคลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568   0


รายงานความก้าวหน้า

ไตรมาส ผลการดำเนินงาน งบประมาณที่ใช้ ผู้รับบริการ
4 [20517]

วันที่ 15 กันยายน 2568 คณะทำงานคลินิกเทคโนโลยีได้เข้าร่วมประชุมในงาน อว.แฟร์     ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์กีรวิชญ์ เพชรจุล และ นายประสิทธิ์ ขุนสนิท เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อบูรณาการความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา โดยมีการนำเสนอทิศทางนโยบายและผลงานที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน วทน. เพื่อการพัฒนาพื้นที่และยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงวิชาการ การนำเสนอกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ และการเปิดเวทีให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้หารือแนวทางความร่วมมือร่วมกัน

                     การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ทำให้คณะทำงานได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานคลินิกเทคโนโลยี อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 30/09/2568 [20517]
15307 200
4 [20331]

วันที่ 29 - 7 กันยายน 2568 คลินิกเทคโนโลยี คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ได้เข้าร่วมจัดบูธนิทรรศการภายในงาน “เกษตรแฟร์ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2568” ณ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการเกษตร เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตลอดจนเป็นเวทีในการนำเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มเกษตรกร

ภายในบูธของคลินิกเทคโนโลยี ได้มีการนำเสนอข้อมูลทางวิชาการ บริการให้คำปรึกษา และแสดงตัวอย่างนวัตกรรมที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเกษตร เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของชุมชน ซึ่งได้รับความสนใจจากเกษตรกร นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

ในโอกาสนี้ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ให้เกียรติเข้าเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ พร้อมพูดคุยและพบปะกับผู้ประกอบการที่เข้ามาจัดบูธในงานเกษตรแฟร์กาฬสินธุ์ ครั้งที่ 4 ซึ่งสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองและเป็นแรงเสริมสร้างกำลังใจแก่ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมแสดงผลงานในครั้งนี้

การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่คลินิกเทคโนโลยีได้เผยแพร่ผลงาน ถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการ และสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายทางการเกษตรในระดับจังหวัด อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของเกษตรกรและชุมชนในอนาคต



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 29/09/2568 [20331]
5000 100
4 [20043]

รายผลการปฏิบัติงาน

โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติกในการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย

          วันที่ 18 สิงหาคม 2568 ได้ลงพื้นที่ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้เลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยบ้านโปโล              ตำบลกมลาไสย อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์กีรวิชญ์ เพชรจุล, อาจารย์ประสิทธิ์ ขุนสนิท, นายณัฐพล       การอรุณ และนางสาวชมพูนุช ปัญญาใส (เจ้าหน้าที่โครงการ)  ได้ลงพื้นที่เพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีด้านการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยให้แก่เกษตรกรและสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 8 คน กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการบรรยายสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของจุลินทรีย์โปรไบโอติก ในการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย เน้นการปรับปรุงคุณภาพน้ำ การส่งเสริมการเจริญเติบโตของปลา การป้องกันโรค และการลดการใช้สารเคมีที่ไม่จำเป็น จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับการสาธิตและฝึกปฏิบัติการใช้โปรไบโอติกในบ่อเลี้ยงจริง ทั้งการเตรียมสารโปรไบโอติก การใส่ลงในบ่อ การตรวจสอบคุณภาพน้ำ และการติดตามผลการเจริญเติบโตของปลา ตลอดจนการเพิ่มมูลค่าสินค้าจากปลาดุกที่ไม่ผ่านมาตรฐานไม่สามารถส่งออกได้ สามารถนำมาเพิ่มมูลค่าได้โดยการ นำมาปรับเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น น้ำพริกปลาดุก แทนที่จะทิ้งหรือขายในราคาต่ำ การแปรรูปนี้ช่วยเปลี่ยนปลาที่มีมูลค่าต่ำให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมขายที่เก็บได้นานและเหมาะกับตลาดผู้บริโภคทั่วไป นอกจากนี้ การแปรรูปยังสามารถปรับรสชาติให้ตรงกับความต้องการของตลาด ทำให้ผลิตภัณฑ์น่าสนใจยิ่งขึ้น และสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรและชุมชนผู้เลี้ยงปลาได้อย่างยั่งยืนสมาชิกกลุ่มสามารถเรียนรู้และปรับปรุง การจัดการฟาร์มให้ดีขึ้นอย่างเป็นระบบ ทั้งการวางแผนการให้อาหาร การควบคุมคุณภาพน้ำ การจัดการความหนาแน่นของปลา และการบำรุงรักษาบ่อเลี้ยง ทำให้การเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ปลามีอัตราการรอดสูงขึ้น เจริญเติบโตดีขึ้น และคุณภาพปลาดีขึ้นอย่างชัดเจน สมาชิกกลุ่มสามารถผลิตปลาดุกบิ๊กอุยคุณภาพดีเพื่อจำหน่ายในชุมชนและตลาดใกล้เคียงได้อย่างต่อเนื่อง

          ในการลงพื้นที่โครงการครั้งนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้สมาชิกกลุ่มสามารถจัดการฟาร์มอย่างเป็นระบบ สามารถวางแผนและติดตามผลการเลี้ยงปลาได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงปรับปรุงกระบวนการเลี้ยงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของบ่อและสุขภาพของปลา ส่งผลให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของปลาได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังช่วยเสริมรายได้และยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมผลลัพธ์จากโครงการสะท้อนให้เห็นว่า การถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติกและการจัดการฟาร์มอย่างมีระบบ ทำให้สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีความรู้ ทักษะ และศักยภาพในการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย สามารถนำไปปรับใช้และต่อยอดได้อย่างยั่งยืน เพิ่มมูลค่าให้กับการผลิตปลา และส่งเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างชัดเจน

ผลที่ได้รับจากการดำเนินงาน

  1. เกษตรกรมีความรู้และทักษะในการเลี้ยงปลาดุกแบบใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติกเพิ่มขึ้น
  2. สามารถนำปลาที่เลี้ยงไปแปรรูปเป็นน้ำพริกปลาดุกได้จริง
  3. เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการบ่อเลี้ยงและการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า
  4. ชุมชนมีแนวทางการสร้างรายได้เพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์แปรรูป         


รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 22/09/2568 [20043]
1320 15
4 [20047]

รายงานผลการปฏิบัติงาน

โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีโรงเรือนปลูกผักอินทรีย์

ในวันที่ 10กันยายน 2568คณะทำงานโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยี ได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรม “โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีโรงเรือนปลูกผักอินทรีย์” ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักปลอดภัยบ้านนาดี ตำบลนาดี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์นำโดย นางสาวอภิญญา ภูมิสายดอน, นางสาวพนิดา วงศ์ปรีดี, นายเกียรติพงษ์ เจริญจิตต์ และนางสาวชมพูนุช ปัญญาใส (เจ้าหน้าที่โครงการฯ) โดยมีสมาชิกกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการสร้างและจัดการโรงเรือนปลูกผักอินทรีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญในการพัฒนาคุณภาพผลผลิตและยกระดับมาตรฐานการเกษตรปลอดภัย

ภายในกิจกรรม ได้มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการออกแบบโรงเรือนปลูกผักอินทรีย์ การเลือกวัสดุที่เหมาะสม การควบคุมสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น แสงแดด และการป้องกันศัตรูพืช รวมถึงการใช้ระบบน้ำที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพ หลังจากนั้นได้มีการสาธิตการสร้างโรงเรือนขนาดเล็กให้เกษตรกรเห็นเป็นตัวอย่างจริง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสอบถามปัญหาที่พบในการปลูกผัก

ผลจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เกษตรกรผู้เข้าร่วมได้ความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อดีของการใช้โรงเรือนปลูกผักอินทรีย์ ทั้งในด้านการควบคุมคุณภาพผลผลิต ลดการปนเปื้อนสารเคมี และสามารถผลิตผักที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน เกษตรกรยังได้แสดงความต้องการเทคโนโลยีเพิ่มเติม โดยเฉพาะวัสดุอุปกรณ์ในการสร้างโรงเรือน เช่น พลาสติกคลุมโรงเรือน ระบบน้ำหยด และพัดลมระบายอากาศ ซึ่งจะช่วยให้การปลูกผักมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การถ่ายทอดเทคโนโลยีในครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จ สามารถกระตุ้นให้เกษตรกรเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคนิคการผลิตที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และพร้อมที่จะนำความรู้ไปปรับใช้จริงในการดำเนินงานต่อไป ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและเพิ่มรายได้แก่ครัวเรือนเกษตรกรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 22/09/2568 [20047]
1080 8
4 [20046]

รายงานผลการปฏิบัติงาน

โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงไก่

               ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๘ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฟาร์มเครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ลูกผสมพื้นเมืองเชิงพาณิชย์ บ้านดงบัง ตำบลหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์  นำโดยนางสาวทิพย์สุดา บุญมาทัน, นายณัฐวัฒน์ ต้นพล, นายนพรัตน์ ผกาเชิด, นางมาลินี อินทะนู, ว่าร้อยตรีธนภูมิ บุญมี, นางสาวชมพูนุช ปัญญาใส (เจ้าหน้าที่โครงการฯ)

มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคนิคการเลี้ยงไก่ลูกผสมพื้นเมืองเชิงพาณิชย์อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการเลี้ยง และสร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกรในชุมชน

              ภายในกิจกรรมได้มีการบรรยายเกี่ยวกับการคัดเลือกพันธุ์ไก่ที่เหมาะสม การจัดการโรงเรือนที่ถูกสุขลักษณะ การให้อาหารที่มีคุณภาพและการจัดการด้านโภชนาการ ตลอดจนการดูแลสุขภาพสัตว์และการป้องกันโรคที่มักพบในไก่พื้นเมือง นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการดูแลไก่ในโรงเรือนจริง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติไปพร้อมกัน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้ซักถามปัญหาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงไก่ระหว่างกัน

              จากการดำเนินโครงการพบว่า ผู้เข้าร่วมได้รับทั้งองค์ความรู้และทักษะใหม่ที่สามารถนำไปปรับใช้กับฟาร์มของตนเอง ทำให้มีความมั่นใจในการเลี้ยงไก่ลูกผสมพื้นเมืองเพื่อการค้าเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการที่เป็นระบบและการใช้เทคโนโลยีการเลี้ยงที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรยังได้สะท้อนความต้องการเทคโนโลยีสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น เครื่องบดและผสมอาหารสัตว์ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์สำหรับจัดการโรงเรือน เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้นการจัดโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงไก่ในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย เกษตรกรได้รับทั้งความรู้เชิงวิชาการและการฝึกปฏิบัติจริง สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในฟาร์มของตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังทำให้เห็นถึงความต้องการเครื่องมือและเทคโนโลยีสนับสนุนการเลี้ยงที่จำเป็น ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาอาชีพการเลี้ยงไก่ให้มีความยั่งยืนต่อไป



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 22/09/2568 [20046]
1560 8
4 [20045]

รายงานผลการปฏิบัติงาน

โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปข้าว

โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปข้าว ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๘ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าว บ้านปอแดง ตำบลนาดี อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์กีรวิชญ์ เพชรจุล, ผู้ช่วยศาสตราจารย์หนูเดือน สาระบุตร, นางพนอจิต นิติสุข, นายณัฐพล การอรุณและ นางสาวชมพูนุช ปัญญาใส การจัดโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะด้านการเพิ่มมูลค่าข้าว โดยการนำผลผลิตที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและขนมแปรรูปที่หลากหลาย สามารถสร้างรายได้และความยั่งยืนทางเศรษฐกิจแก่เกษตรกรและชุมชน

กิจกรรมภายในโครงการประกอบด้วยการบรรยายให้ความรู้เรื่องแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าว การสาธิตการทำข้าวเกรียบ ขนมพื้นบ้าน ขนมอบ และเครื่องดื่มจากข้าว ตลอดจนการแนะนำเทคนิคการบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อการจัดจำหน่าย การฝึกปฏิบัติจริงทำให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้กระบวนการแปรรูปตั้งแต่ต้นจนจบ สามารถนำไปปรับใช้ในการผลิตภายในครัวเรือนและกลุ่มวิสาหกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

จากการดำเนินโครงการพบว่า ผู้เข้าร่วมได้รับทั้งความรู้ใหม่และทักษะเชิงปฏิบัติ สามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวในท้องถิ่น และช่วยลดการสูญเสียผลผลิตในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ เกษตรกรยังได้สะท้อนความต้องการเครื่องมือและเทคโนโลยีเพิ่มเติม โดยเฉพาะ “เตาอบขนม” ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยให้การแปรรูปข้าวเป็นขนมอบมีคุณภาพคงที่ ผลิตได้ในปริมาณมากขึ้น และได้มาตรฐานที่เหมาะสมต่อการวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 22/09/2568 [20045]
1820 20
4 [20042]

รายผลการปฏิบัติงาน

โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม

โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๘ ณ ฟาร์มเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบ้านวังคำ ตำบลสงเปลือย อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์กีรวิชญ์ เพชรจุล, อาจารย์ประสิทธิ์ ขุนสนิท, ผู้ช่วยศาสตราจารย์อุไร กุลบุญ, นายณัฐพล  การอรุณ และนางสาวชมพูนุช ปัญญาใส (เจ้าหน้าที่โครงการ) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามซึ่งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีความต้องการสูงในตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การจัดโครงการในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสให้เกษตรกรในพื้นที่ได้เรียนรู้เทคนิคการเลี้ยงกุ้งที่ถูกต้องและได้มาตรฐาน ตลอดจนแนวทางในการจัดการฟาร์มอย่างยั่งยืน

ภายในโครงการมีการบรรยายเกี่ยวกับหลักการจัดการบ่อเลี้ยง การคัดเลือกพันธุ์กุ้งที่มีคุณภาพ การจัดการคุณภาพน้ำ อาหาร และการป้องกันโรคกุ้ง นอกจากนี้ยังมีการสาธิตวิธีการเลี้ยงจริงในบ่อทดลอง เพื่อให้เกษตรกรสามารถมองเห็นภาพรวมและเข้าใจในเชิงปฏิบัติได้ดียิ่งขึ้น ผู้เข้าร่วมยังได้มีโอกาสซักถามปัญหาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน ซึ่งช่วยเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเกษตรกรในพื้นที่

จากการดำเนินโครงการพบว่าผู้เข้าร่วมได้รับประโยชน์อย่างมาก สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในพื้นที่ของตนเอง ทำให้การจัดการฟาร์มมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากการสูญเสียผลผลิต และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ที่มั่นคง อีกทั้งยังมีการสะท้อนความต้องการของเกษตรกรต่อเทคโนโลยีที่ช่วยในการตรวจวัดคุณภาพน้ำ เช่น ค่าออกซิเจนละลายน้ำ ค่า pH และความขุ่น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมและปรับปรุงสภาพแวดล้อมของบ่อเลี้ยง ซึ่งจะช่วยให้กุ้งก้ามกรามเติบโตได้อย่างแข็งแรงและปลอดโรค

การจัดโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย เกษตรกรได้รับทั้งองค์ความรู้เชิงวิชาการและการปฏิบัติจริง รวมถึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีการตรวจวัดคุณภาพน้ำมาใช้ร่วมกับการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตและสร้างความยั่งยืนให้แก่ภาคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของชุมชนในอนาคต



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 22/09/2568 [20042]
1320 3
4 [20040]

รายผลการปฏิบัติงาน

โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปมะม่วงมหาชนก

            โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปมะม่วงมหาชนก ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๘ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่การแปรรูปมะม่วงมหาชนก ตำบลหนองหิน อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์กีรวิชญ์ เพชรจุล, อาจารย์ประสิทธิ์ ขุนสนิท, ผู้ช่วยศาสตราจารย์อุไร กุลบุญ, นายณัฐพล  การอรุณ และนางสาวชมพูนุช ปัญญาใส (เจ้าหน้าที่โครงการ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เพิ่มทักษะในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลผลิต และเสริมสร้างศักยภาพให้แก่เกษตรกรในพื้นที่

            การดำเนินงานประกอบด้วยการบรรยายและสาธิตการแปรรูปมะม่วงมหาชนกในรูปแบบต่าง ๆ เช่น มะม่วงอบแห้ง แยมมะม่วง และน้ำมะม่วงพร้อมดื่ม โดยเน้นถึงมาตรฐานความสะอาด ความปลอดภัย และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และซักถามปัญหาที่พบในการผลิตจริง ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับทั้งความรู้เชิงทฤษฎีและการปฏิบัติที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในครัวเรือนและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม

            นอกจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการแปรรูปแล้ว จากการพูดคุยและสะท้อนความคิดเห็นของเกษตรกรในพื้นที่ พบว่ามีความต้องการ “ที่ตรวจคุณภาพดิน” อย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันยังขาดเครื่องมือที่สามารถตรวจวิเคราะห์คุณสมบัติของดินได้ด้วยตนเอง ส่งผลให้การจัดการดินและการใช้ปุ๋ยยังอาศัยการคาดเดาเป็นส่วนใหญ่ หากมีการสนับสนุนเครื่องตรวจคุณภาพดิน จะช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบค่าความเป็นกรด–ด่าง ปริมาณธาตุอาหาร และสภาพดินได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถวางแผนการปรับปรุงดินและการปลูกมะม่วงมหาชนกได้ตรงตามความต้องการของพืช ส่งผลต่อการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพวัตถุดิบสำหรับการแปรรูปและทำให้ทราบถึงความต้องการด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติมของเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งก็คือ ที่ตรวจคุณภาพดิน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการผลิตมะม่วงคุณภาพสูงอย่างยั่งยืนในอนาคต



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 22/09/2568 [20040]
1320 3
4 [19876]

วันที่ 10 มิถุนายน 2568คลินิกเทคโนโลยี คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ได้เข้าร่วมจัดบูธนิทรรศการภายในงาน “การถ่ายทอดเทคนิคการเพาะเลี้ยงกุ้งชฎาเพื่อพัฒนาเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ของประเทศไทย”เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงการให้คำปรึกษาเชิงวิชาการแก่เกษตรกร ผู้สนใจ และนักศึกษา โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล คณบดีคณะเทคโนดลยีการเกษตร เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการ

กิจกรรมภายในบูธประกอบด้วย

  • การนำเสนอข้อมูลเชิงวิชาการเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงกุ้งชฎาและสัตว์น้ำเศรษฐกิจอื่น ๆ
  • การแสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์น้ำ
  • การให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติแก่ผู้เข้าร่วมงานที่สนใจนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้

ผลการจัดบูธครั้งนี้ มีผู้ให้ความสนใจเข้าชมจำนวนมาก ทั้งเกษตรกร นักวิชาการ และนักศึกษา ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ตลอดจนเผยแพร่บทบาทของคลินิกเทคโนโลยีในการสนับสนุนเกษตรกรและชุมชนให้เข้าถึงองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สรุปได้ว่า การจัดบูธคลินิกเทคโนโลยีในครั้งนี้ ช่วยประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของคลินิกเทคโนโลยีในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการเกษตรและเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 08/09/2568 [19876]
0 30
4 [19881]

วันที่ 28 สิงหาคม 2568 โครงการศูนย์ประสานงานบริการให้คำปรึกษาและข้อมูลเทคโนโลยี คลินิกเทคโนโลยี คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการภายใต้กิจกรรม KSU AI Grand Opening Dayซึ่งเป็นโครงการศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านปัญญาประดิษฐ์ประยุกต์ ณ ห้องประชุมพยับหมอก อาคารเฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา 70 พรรษา มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์

การเข้าร่วมงานครั้งนี้ คลินิกเทคโนโลยีได้จัดบูธนิทรรศการเพื่อเผยแพร่บทบาทและภารกิจในการให้คำปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลและตัวอย่างเทคโนโลยีที่สามารถประยุกต์ใช้ได้จริงสำหรับภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมในพื้นที่ นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจได้เข้าร่วมเยี่ยมชม รับคำปรึกษา และแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการเกษตร

การจัดนิทรรศการในครั้งนี้สะท้อนบทบาทของโครงการคลินิกเทคโนโลยีในการเป็นศูนย์กลางบริการข้อมูลและถ่ายทอดเทคโนโลยี ตลอดจนสร้างความเข้าใจและแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชน ผู้ประกอบการ และชุมชนในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปปรับใช้ในการพัฒนาอาชีพและเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 08/09/2568 [19881]
0 200
4 [19880]

วันที่ 1 สิงหาคม 2568 โครงการศูนย์ประสานงานบริการให้คำปรึกษาและข้อมูลเทคโนโลยีคลินิกเทคโนโลยี ได้เข้าร่วมจัดบูธนิทรรศการภายใต้งานโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ของกลุ่มเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จังหวัดคู่พัฒนา ขอนแก่น – กาฬสินธุ์ ณ ห้องประชุมพวงชมพู ชั้น 1 อาคาร 13 คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ (พื้นที่ในเมือง)

บูธคลินิกเทคโนโลยีจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่บทบาทของโครงการในการเป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสู่สังคม โดยครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูลด้าน จุลินทรีย์โปรไบโอติกสำหรับการเลี้ยงกุ้ง ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพสัตว์น้ำ ลดการใช้สารเคมีและยาปฏิชีวนะ และสนับสนุนการเพาะเลี้ยงที่ยั่งยืน นักเรียนและครูผู้เข้าร่วมงานได้ให้ความสนใจเข้ามารับคำปรึกษา ซักถาม และเรียนรู้การประยุกต์ใช้ความรู้จากคลินิกเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

การจัดบูธครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของโครงการคลินิกเทคโนโลยี ที่ได้ทำหน้าที่เชื่อมโยงองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยสู่ผู้เรียนและสังคม ตอกย้ำบทบาทของคลินิกเทคโนโลยีในการสนับสนุนการพัฒนาชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จริงในระดับพื้นที่



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 08/09/2568 [19880]
0 100
4 [19839]

รายงานผลปฏิบัติการ

โครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติกในการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม

          ในวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ได้ลงพื้นที่ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามบ้านหาดทอง ตำบลลำคลอง อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ในการลงพื้นที่ครั้งนี้มีวิทยากร ดังนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์กีรวิชญ์ เพชรจุล,นายธนภูมิ บุญมี,นายณัฐพล การอรุณ และนางสาวชมพูนุช ปัญญาใส (เจ้าหน้าที่โครการ) ได้ลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามด้วยจุลินทรีย์โปรไบโอติกแก่เกษตรกรและสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จำนวน 30 คน ได้อธิบายถึงประโยชน์ของจุลินทรีย์โปรไบโอติกต่อการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม การจัดการบ่อเลี้ยง การให้อาหาร และการป้องกันโรคเพื่อลดอัตราการตายและเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้นมี การใช้โปรไบโอติกเพื่อเพิ่มคุณภาพน้ำและส่งเสริมการเจริญเติบโตของกุ้งกิจกรรมเริ่มต้นด้วยการประชุมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของจุลินทรีย์โปรไบโอติกในการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม เน้นการปรับปรุงคุณภาพน้ำ การส่งเสริมการเจริญเติบโตของกุ้ง การป้องกันโรค และการลดการใช้สารเคมีที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังได้รับการอบรมและสาธิตการใช้เทคโนโลยี GAP (Good Aquaculture Practices) ในการจัดการฟาร์ม ตั้งแต่การวางแผนการเลี้ยง การจัดการอาหาร การตรวจสอบคุณภาพน้ำ และการบำรุงรักษาบ่อเลี้ยง เพื่อให้การเลี้ยงกุ้งมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐานตลอดการอบรม สมาชิกกลุ่มสามารถทดลองนำจุลินทรีย์โปรไบโอติกไปปรับใช้ในบ่อเลี้ยงจริง ทำให้กุ้งก้ามกรามมีอัตราการรอดสูงขึ้น เจริญเติบโตดีขึ้น และคุณภาพกุ้งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน การฝึกอบรม GAP ช่วยให้เกษตรกรสามารถจัดการฟาร์มอย่างเป็นระบบ มีการวางแผนและติดตามผลการเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง สามารถควบคุมคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐาน เพิ่มมูลค่าและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้ากุ้งก้ามกราม

          ผลจากโครงการทำให้สมาชิกกลุ่มสามารถพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการฟาร์มและการใช้เทคโนโลยีโปรไบโอติกได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้เกิดการผลิตกุ้งก้ามกรามคุณภาพสูงเพื่อจำหน่ายในชุมชนและตลาดใกล้เคียงได้อย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้เสริมและยกระดับเศรษฐกิจของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมโดยสรุป โครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการถ่ายทอดเทคโนโลยีโปรไบโอติกและการจัดการฟาร์มตามมาตรฐาน GAP ที่ช่วยเพิ่มความรู้ ทักษะ และศักยภาพของเกษตรกร สามารถนำไปปรับใช้และต่อยอดการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามในอนาคต

ผลที่ได้รับจากการดำเนินงาน

  1. เกษตรกรมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติกเพิ่มขึ้น
  2. สามารถปฏิบัติจริงในการจัดการบ่อเลี้ยงและเพิ่มผลผลิตกุ้งก้ามกราม
  3. เกิดแนวคิดในการพัฒนาคุณภาพน้ำและการจัดการฟาร์มอย่างยั่งยืน
  4. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างคณะวิทยากรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน                                                                                                                                                       

    รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 02/09/2568 [19839]
0 30
4 [19837]

รายผลการปฏิบัติงาน

การลงพื้นที่โครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปมะม่วงมหาชนก

          วันที่ 18กรกฎาคม 2568โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์กีรวิชญ์ เพชรจุล, ผู้ช่วยศาสตราจารย์หนูเดือน สาระบุตร,นางพะนอจิต นิติสุข,นายเอกริทร์ สารีพัว และนางสาวชมพูนุช ปัญญาใส (เจ้าหน้าที่โครงการ) ได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีด้านการเพิ่มมูลค่าให้แก่กลุ่มผู้ปลูกมะม่วงมหาชนกในพื้นที่แปลงใหญ่มะม่วงวิสาหกิจชุมชนมะม่วงมหาชนกตำบลหนองหิน อำเภอหนองกรุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยถ่ายทอด         องค์ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการและศักยภาพทางการตลาดของมะม่วงมหาชนก รวมถึงแนวทางการแปรรูปเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและเพิ่มมูลค่าโครงการได้ดำเนินการตามแผนงานที่กำหนดไว้ รวมถึงการประชุมสร้างความเข้าใจ การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูป ทั้งนี้มีสมาชิกกลุ่มเข้าร่วมอบรมทั้งสิ้น 21คน ซึ่งสมาชิกกลุ่มได้ทดลองนำมะม่วงมหาชนกมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารหลากหลายชนิด เช่น มะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงกวน มะม่วงอบแห้ง และน้ำมะม่วงเข้มข้น การอบรมและคำแนะนำจากคลินิกเทคโนโลยีช่วยให้สมาชิกสามารถควบคุมรสชาติและคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น ผลผลิตมีความสม่ำเสมอและพร้อมจำหน่ายในชุมชน นอกจากนี้ การสนับสนุนจากโครงการยังช่วยให้กลุ่มผู้ปลูกมีแนวทางการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และสร้างแบรนด์สินค้า ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มะม่วงมหาชนกได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในชุมชนและตลาดใกล้เคียง สมาชิกกลุ่มสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต สร้างรายได้เสริม และพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดและการจัดการผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบ การติดตามและคำปรึกษาต่อเนื่องช่วยสร้างความมั่นใจให้สมาชิกสามารถผลิตสินค้าคุณภาพสูงได้ต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะขยายตลาดในระดับชุมชนและภายนอกได้อย่างยั่งยืน

          ผลลัพธ์จากโครงการสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มผู้ปลูกมะม่วงมหาชนกมีการพัฒนาศักยภาพด้านการผลิตและการจัดการธุรกิจอาหารชุมชนอย่างชัดเจน ตั้งแต่มีโครงการคลินิกเทคโนโลยีเข้ามา ทำให้ความรู้และทักษะถูกถ่ายทอดสู่สมาชิกกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำไปใช้จริง ทำให้เกิดรายได้เสริมและยกระดับเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม

ผลที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ

  1. เกษตรกรและกลุ่มชุมชนผู้เข้าร่วมมีความรู้และทักษะเพิ่มขึ้นในการแปรรูปมะม่วงมหาชนก
  2. ได้เรียนรู้วิธีการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสามารถต่อยอดสู่การจำหน่ายเชิงพาณิชย์
  3. เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันในด้านการตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์
  4. ชุมชนมีความมั่นใจมากขึ้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง   


รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 02/09/2568 [19837]
0 21
4 [19836]

รายผลการปฏิบัติงาน

การลงพื้นที่โครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย

          วันที่ 21มิถุนายน 2568ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย บ้านโปโล อำเภอกมลาไสย      จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์กีรวิชญ์ เพชรจุล, อาจารย์ประสิทธิ์ ขุนสนิท, อาจารย์วรมัน     ไม้เจริญ        นายณัฐพล  การอรุณ และนางสาวชมพูนุช ปัญญาใส (เจ้าหน้าที่โครงการ) คณะวิทยากรได้ลงพื้นที่เพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีด้านการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย อธิบายถึงหลักการจัดการฟาร์ม การคัดเลือกพันธุ์ปลาดุกบิ๊กอุยที่เหมาะสม และเทคนิคการให้อาหาร และการจัดการคุณภาพน้ำ เพื่อเพิ่มอัตราการรอดและการเจริญเติบโตของปลา โดยเฉพาะการใช้จุลินทรีย์โปรไบโอติกเพื่อปรับปรุงคุณภาพน้ำ ส่งเสริมการเจริญเติบโต และป้องกันโรค มีสมาชิกกลุ่มเข้าร่วมอบรมทั้งสิ้น 8 คนโครงการได้ดำเนินการตามแผนงาน ได้แก่ การประชุมสร้างความเข้าใจกับสมาชิกกลุ่ม การจัดหาโปรไบโอติกและอุปกรณ์การเลี้ยงปลา และการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้โปรไบโอติกการจัดการคุณภาพน้ำ สมาชิกกลุ่มได้ทดลองนำจุลินทรีย์โปรไบโอติกไปปรับใช้ในบ่อเลี้ยงจริง ทำให้การเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ปลามีการเจริญเติบโตดีขึ้น อัตราการรอดสูงขึ้น และคุณภาพปลาดีขึ้นอย่างชัดเจน

          ผลจากโครงการทำให้สมาชิกกลุ่มสามารถจัดการฟาร์มอย่างเป็นระบบและนำความรู้การใช้โปรไบโอติกไปปรับใช้ต่อเนื่อง และสามารถเพิ่มผลิตปลาดุกบิ๊กอุยคุณภาพดีเพื่อจำหน่ายในชุมชนและตลาดใกล้เคียงได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดรายได้เสริมและยกระดับเศรษฐกิจของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้

ผลที่ได้รับจากการดำเนินงาน

  1. เกษตรกรผู้เข้าร่วมได้รับความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุย
  2. เกิดความเข้าใจในแนวทางการเพิ่มผลผลิตและการจัดการฟาร์มอย่างเหมาะสม
  3. ได้รับแนวคิดใหม่ในการลดต้นทุนและป้องกันความเสี่ยงจากโรคปลา
  4. เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเกษตรกรกับคณะวิทยากรและหน่วยงานสนับสนุน 

    รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 02/09/2568 [19836]
0 8
4 [19835]

รายงานผลการปฏิบัติการ

โครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปข้าวเหนียวเขาวงจากเมล็ดข้าวหัก

          วันที่ 18 มิถุนายน 2568    ได้ลงพื้นที่ดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเพิ่มมูลค่าเมล็ดข้าวหัก ให้แก่กลุ่มผู้ผลิตข้าวเหนียวเขาวง อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีคณะวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ 4 ท่าน   ได้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์กีรวิชญ์ เพชรจุล, นายวรมัน ไม้เจริญ, นายประสิทธิ์ ขุนสนิท และนายณัฐพล การอรุณ ได้มาถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการเพิ่มมูลค่าเมล็ดข้าวหักให้แก่กลุ่มผู้ผลิตข้าวเหนียวเขาวง อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ ณ กลุ่มผู้ผลิตข้าวเหนียวเขาวง อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีในการเพิ่มมูลค่าเมล็ดข้าวหัก มีผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ 20 คน โดยมีกิจกรรมการบรรยายให้ความรู้ วิทยากรได้บรรยายถึงสถานการณ์การผลิตข้าวเหนียวเขาวงในพื้นที่ ปัญหาของเมล็ดข้าวหักที่มักถูกจำหน่ายในราคาต่ำ และแนวทางการเพิ่มมูลค่าด้วยการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการสาธิตการแปรรูปเมล็ดข้าวหัก คณะวิทยากรได้สาธิตกระบวนการผลิตข้าวเกรียบและผลิตภัณฑ์อบกรอบจากเมล็ดข้าวหัก ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ การผสมสูตร จนถึงการอบ/ทอดเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และซักถาม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเทคนิคการผลิต การเก็บรักษา รวมทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และการตลาด โดยวิทยากรได้ให้คำแนะนำเป็นกรณี ๆ ไป เพื่อให้สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในกลุ่มผลิตการให้คำปรึกษาเชิงลึกมีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ การยกระดับมาตรฐาน และการเชื่อมโยงกับตลาด เพื่อสร้างความยั่งยืนในการดำเนินงานของกลุ่มผู้ผลิต จากการดำเนินกิจกรรมกลุ่มผู้ผลิตมีความรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการแปรรูปเมล็ดข้าวหักสามารถทดลองทำผลิตภัณฑ์ต้นแบบในพื้นที่จริงได้รับแนวทางในการต่อยอดผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์เกิดความร่วมมือระหว่างชุมชนกับทีมวิทยากรและหน่วยงานสนับสนุนการลงพื้นที่ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ กลุ่มผู้ผลิตข้าวเหนียวเขาวงได้รับทั้งความรู้ ทักษะ และแนวคิดใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเมล็ดข้าวหัก เพื่อสร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับชุมชนในอนาคต

 

ผลสำเร็จที่เกิดขึ้น

  1. กลุ่มผู้ผลิตข้าวเหนียวเขาวงมีความรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีการแปรรูปเมล็ดข้าวหัก
  2. ได้ตัวอย่างผลิตภัณฑ์แปรรูปต้นแบบ เช่น ข้าวเกรียบและผลิตภัณฑ์อบกรอบ
  3. ผู้เข้าร่วมเกิดแรงบันดาลใจและแนวคิดใหม่ ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
  4. สร้างความร่วมมือระหว่างนักวิชาการ หน่วยงานสนับสนุน และกลุ่มผู้ผลิต


รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 02/09/2568 [19835]
0 20
2 [18922]

ปัจจุบันจังหวัดกาฬสินธุ์มีพื้นที่การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามทั้งหมด จำนวน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอยางตลาด อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอห้วยเม็ก อำเภอหนองกุงศรี อำเภอกมลาไสย อำเภอคำม่วง และอำเภอเขาวง โดยมีพื้นที่ในการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามรวมทั้งหมด 7,630ไร่ มีบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกรามทั้งสิ้น จำนวน 4,908 บ่อ และมีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามทั้งสิ้น จำนวน 1,141 ราย

ในปัจจุบันการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ประสบกับปัญหาเป็นอย่างมาก เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามหลายรายต้องล้มเลิกกิจการไป เพราะประสบปัญหาการเลี้ยงขาดทุนเนื่องมาจากอัตราการเจริญเติบโตของกุ้งต่ำ เลี้ยงกุ้งไม่โต ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงนาน ไม่คุ้มกับราคาค่าอาหาร อัตราการอดตายต่ำ ปัญหาโรคระบาด กุ้งแคระเกร็น สารเคมีตกค้างในกุ้งก้ามกราม ตลอดจนการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว ในขณะที่ตลาดและความต้องการของผู้บริโภคกุ้งก้ามกรามมีมากขึ้น ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ปัญหาพันธุ์กุ้งก้ามกรามที่ทำให้ผลผลิตลดลง น้ำไม่เพียงพอ คุณภาพน้ำไม่ดีในช่วงหน้าแล้ง ราคาอาหารกุ้งที่สูงเกินไป และปัญหาเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามยังไม่มีกลุ่มหรือวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามจังหวัดกาฬสินธุ์ที่เป็นหลักแหล่งและแน่นอน ทำให้เกิดปัญหาราคาลูกกุ้งก้ามกรามที่ซื้อจากพ่อค้าคนกลางหรือบริษัทจำหน่ายลูกกุ้ง ราคากุ้งที่จับขายและราคาอาหารกุ้งก้ามกรามไม่แน่นอน มีอัตราการผันแปรสูงมาก ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามประสบปัญหาขาดทุน รายได้ไม่คุ้มรายจ่าย  ต้องล้มเลิกกิจการไปเป็นจำนวนหลายราย

จากปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องนำนวัตกรรมทางด้านการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามเข้าไปพัฒนา ได้แก่ การพัฒนาเทคนิคการเลี้ยง การตรวจสอบอัตราการเจริญเติบโต การจัดการฟาร์ม และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อให้สามารถเพิ่มผลผลิตการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามได้ และนำไปผลิตกุ้งก้ามกรามในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เพื่อการส่งออกที่ได้มาตรฐาน  และพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษาดูงาน และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรนิเวศของจังหวัดกาฬสินธุ์



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 04/04/2568 [18922]
0 8
2 [18923]

การเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยของเกษตรกรกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโปโล

ต้นทุนการผลิตเริ่มจากการเตรียมบ่อ การใส่ปูนขาว การใช้เกลือเพื่อปรับสภาพน้ำ ผงออกซิเจน น้ำมันพืชเก่า ค่าพันธุ์ปลา ปั้มลมไฟฟ้า อาหารปลาดุกตามประเภทของอายุปลาดุก ร่วมกับการใช้ไก่บด มีต้นทุนในการเลี้ยงเบื้องต้นในรอบปี ดังนี้

ต้นทุนเริ่มแรก (ขุดบ่อ, อุปกรณ์, ปั้มน้ำ)                         163,000 บาท

ต้นทุนค่าดำเนินการ (พันธุ์ปลา, ค่าแรง, ค่าอาหาร)             549,860 บาท

รายรับจากการขายปลาดุก                                         672,000 บาท

กำไรหักค่าใช้จ่าย                                                    85,740 บาท

เกษตรกรเริ่มเลี้ยงปลาในช่วงกันยายนไปจนถึงช่วงมกราคมโดยเกษตรกรวางแผนเพื่อให้ขายผลผลิตในช่วงเทศกาลปีใหม่เนื่องจากมีความต้องการบริโภคสูง โดยตลาดส่วนใหญ่ส่งให้กับพ่อค้าคนกลางที่รับซื้อที่หน้าฟาร์ม มีผลผลิตบางส่วนที่ส่งให้ห้างแม็คโครและตลาดสด

ปัญหาที่เกษตรกรพบ ได้แก่ ลูกปลาปรับตัวไม่ได้ ไม่สามารถจัดการคุณภาพน้ำในบ่อได้ โรคปลาดุก และศัตรูของปลาดุก



รายงานโดย ผศ.ดร.กีรวิชญ์ เพชรจุล วันที่รายงาน 04/04/2568 [18923]
0 15