HKSTP มาทำความรู้จักกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง  66

คำสำคัญ : ฮ่องกง  อุทยานวิทยาศาสตร์  ต่างประเทศ  

   สำหรับแผนงาน R2G ภายใต้โครงงานยกระดับความพร้อมของเทคโนโลยีและส่งเสริมระบบนิเวศสำหรับสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนานวัตกรรมของประเทศ ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจกันของ กปว. กับเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ซึ่งในปีนี้อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ1 เป็นเจ้าภาพนั้น คงปฏิเสธไปไม่ได้ว่า หนึ่งในแรงจูงใจสำหรับผู้ประกอบการที่ได้เข้าแข่งขัน คือโอกาสที่ได้ติดปีกธุรกิจสู่ประตูสู่แดนมังกร หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษฮ่องกงนั่นเอง

อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง บันไดสู่ความเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี

 ฮ่องกงนอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการขนส่งในภูมิภาคแล้ว ปัจจุบันยังได้ตําแหน่งใหม่จากรัฐบาลจีนให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี (Innovation and Technology I&T) ในเขต Greater Bay Area (GBA) อีกด้วย ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงก็ได้ขานรับนโยบายนี้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งด้วยการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนและผลักดันระบบนิเวศสําหรับด้าน I&T อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ่มเพาะจากหน่วยงานต่าง ๆ การให้เงินทุนสําหรับ Startup ด้าน I&T ซึ่งล้วนแต่ช่วยส่งเสริมให้ระบบนิเวศ startup ของฮ่องกงเติบโตเร็วติดอันดับต้นของโลก โดยในปี 2560 ฮ่องกงมี Startup เพิ่มเป็นเกือบ 2,500 ราย (เติบโตร้อยละ 16 จากปี ก่อนหน้า) และมีบุคลากรทํางานในธุรกิจ Startup กว่า 6,000 คน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 21) แผนพัฒนาเขต GBA ที่รัฐบาล จีนผลักดันให้เป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย I&T นี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดผนึกจุดแข็งของฮ่องกงเข้ากับเซ็น เจิ้น (เมืองต้นแบบ smart city ของจีน) ซึ่งภาค I&T ของฮ่องกงกับเซินเจิ้นรวมกันมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก 

             บทความในวันนี้ เราจึงจะว่ากันด้วยเรื่องของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง (Hong Kong Science & Technology Park: HKSTP) อีก 1 ใน 3 เสาหลักในการสนับสนุน Startup ด้าน I&T ของฮ่องกง ควบคู่กับ Cyberport และ HKPC ที่เคยกล่าวถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ 

             1. รู้จักกับ Hong Kong Science & Technology Park (HKSTP)
 

             HKSTP ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 ที่ Shatin ในเขต New Territories โดยเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกงและเป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อน I&T ในฐานะศูนย์บ่มเพาะ Startup ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งช่วยเชื่อมโยง startup เข้ากับนักลงทุนจากจีนและต่างชาติ

             ปัจจุบัน HKSTP มีพื้นที่ 3 เฟสรวม 138 ไร่ อาคารต่าง ๆ รวม 21 หลังที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 3.5 ล้าน ตารางฟุต เป็นที่ตั้งสํานักงานของกว่า 650 บริษัท (กว่า 2 ใน 3 เป็นบริษัทสัญชาติฮ่องกง) จึงนับเป็นศูนย์รวม startup และบริษัทด้าน I&T มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีพนักงานในธุรกิจเหล่านี้กว่า 13,000 คน จาก 22 ประเทศ/ เขต เศรษฐกิจ ซึ่งมาจากผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ด้านพลังงานทดแทน ไปจนถึงการวิจัย พัฒนายา โดยนอกจากจะใช้พื้นที่เป็นสํานักงานของบริษัทด้าน I&T แล้ว ยังมีห้องปฏิบัติการและพื้นที่สําหรับการจัดประชุมและนิทรรศการ (MICE) ให้เช่า อีกทั้งภายในบริเวณ HKSTP ยังเป็นชุมชนใหญ่ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอํานวยความสะดวก ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงคลับเฮ้าส์ โดยภายในปี 2562 อาคารSmart Building ซึ่งเป็นอาคาร อัจฉริยะที่ทํางานด้วยระบบอัตโนมัติอีก 2 หลังก็จะแล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยตอกย้ำความเป็น “Smart Region” ให้ HKSTP นอกจากนี้ HKSTP ยังมีแผนสร้าง InnoCell ให้เป็นพื้นที่ทํางานและที่อยู่อาศัยสําหรับบุคลากรด้านเทคโนโลยีในอุทยานฯ ได้แบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้และแนวคิด เพื่อต่อยอดและสร้างสรรค์พัฒนางานต่อไป

             ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มี startup กว่า 500 แห่งที่ผ่านโครงการบ่มเพาะของ HKSTP ไปแล้ว ซึ่ง 3 ใน 4 ของ จํานวนนี้ ยังคงดําเนินธุรกิจอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ startup ที่เข้าร่วมโครงการบ่มเพาะของ HKSTP หลายบริษัทก็ยัง ได้รับรางวัลนวัตกรรมด้านธุรกิจ J&T ในระดับสากลอีกด้วย จนกระทั่งเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา HKSTP ก็กลายเป็นองค์กรแรกของฮ่องกงที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจีนให้เป็น “ผู้บ่มเพาะstartup ด้านเทคโนโลยีในระดับชาติ”

             HKSTP มีโครงการริเริ่มวิจัยและมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีหลัก 5 สาขา ได้แก่ การแพทย์ชีวภาพ อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรรมวัสดุและความแม่นยํา ซึ่งกลุ่มเทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นหัวใจหลักในการพัฒนานวัตกรรมใน 3 เวทีที่ทั่วโลกให้ความสําคัญ นั่นก็คือ (1) เมืองอัจฉริยะ (2) เทคโนโลยีเพื่อ สุขภาพของกลุ่มผู้สูงอายุ และ (3) หุ่นยนต์

             2. การอัดฉีดงบประมาณภาครัฐ

             ด้วยความสําคัญที่รัฐบาลฮ่องกงให้แก่การพัฒนา I&I จึงได้จัดสรรงบประมาณถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ฮ่องกงให้สําหรับการนี้ในปีงบประมาณ 2561 (ซึ่งมากกว่าในปีก่อนหน้าถึง 5 เท่า) เพื่อผลักดันและเร่งพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรม เร่งเสริมทัพทรัพยากรบุคคลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยีชีวภาพ AI Smart City และ FinTech ซึ่งเป็นจุดแข็งของฮ่องกงและกําลังเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลก

             จากการที่ HKSTP เป็นหัวเรือใหญ่ด้านการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา การทดลอง การระดมทุน ไปจนถึงการพัฒนาผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ ทําให้ HKSTP ได้รับการจัดสรรงบประมาณชิ้นใหญ่ถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (จากงบประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง ที่ให้ภาค 1&T) ซึ่งภายใต้งบประมาณ 4 หมื่นล้านที่ว่านี้ แบ่งเป็น (1) สําหรับพัฒนา HKSTP ที่ Shatin ในปัจจุบัน จํานวน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งร้อยละ 30 จะใช้ก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์เครื่องอํานวยความสะดวกในศูนย์วิจัย ส่วนที่เหลือจะใช้ในการก่อสร้าง smart campus เพื่อเป็นพื้นที่อาศัยพร้อมสิ่งอํานวยความสะดวกสําหรับผู้ เช่าโครงการ (2) การก่อสร้างอุทยานนวัตกรรมและเทคโนโลยีฮ่องกง – เซินเจิ้นที่ Lok Ma Chau Loop ซึ่งเป็น โครงการใหม่ขนาดมหึมากว่าของเดิมถึง 4 เท่าที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนฮ่องกง – เซินเจิ้น โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณสําหรับเฟสแรกไป 2 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดย HKSTP เป็นผู้กํากับดูแลการดําเนินการ และ (3) จัดตั้งกองทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา โดยใช้งบประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกงในการดึงดูดสถาบันวิจัยชั้น นําของโลกให้มาทําโครงการวิจัยที่ HKSTP หรือให้ทุนแก่บริษัทเทคโนโลยีด้านชีวภาพ AI และหุ่นยนต์ สําหรับทําการ วิจัยและพัฒนาขั้นกลางและขั้นปลาย ไปจนถึงสามารถนําผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้ตามเป้าหมาย โดย HKSTP จะ รับผิดชอบการกําหนดเกณฑ์ให้ทุนวิจัยและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อคัดสรรผู้สมัคร

             3. เส้นทางในอนาคตของ HKST

             การผนึกกําลังระหว่างฮ่องกง – เซินเจิ้นเพื่อสร้างอุทยานนวัตกรรมและเทคโนโลยีฮ่องกง – เซินเจิ้น (HK/SZ I&T Park) ก็จะช่วยเสริมกําลังของเขตเศรษฐกิจบริเวณอ่าว GBA ให้เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีสากลอย่างยั่งยืนในขณะเดียวกัน HKSTP ก็มุ่งมั่นพัฒนาต่อยอดการบริการให้ครบวงจร โดยจัดหาทรัพยากรและสิ่งอํานวยความสะดวกเพื่อรองรับการเติบโตพร้อมทั้งความต้องการที่หลากหลายของระบบนิเวศด้าน J&T ฮ่องกง โดยมีแผนขยายการดําเนินงานในอนาคต ดังนี้ 
             1) HKSTP ส่วนขยายใหม่ขั้นที่ 1: ตั้งอยู่บนพื้นที่ 127,000 ตารางฟุตด้านตะวันตกของ HKSTP ศูนย์หลัก เฟส 3 โดยจะมีอาคารใหม่ 2 หลังพร้อมอุปกรณ์วิจัยและพัฒนาที่ครบครัน รวมทั้งเพิ่มพื้นที่ห้องทดลองและที่ทํางาน ขนาด 834,600 ตารางฟุตสําหรับงานวิจัยพัฒนาด้านเทคโนโลยีสุขภาพ AV หุ่นยนต์ โดยกําหนดแล้วเสร็จในปี 2562

             2) InnoCell: จะอยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของ HKSTP เป็นอาคาร 15 ชั้น 500 ยูนิตบนพื้นที่ 32,000 ตารางฟุต ซึ่งถือเป็นต้นแบบของอาคารเชิงนวัตกรรมด้วยแนวคิด “ที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทํางาน” โดย InnoCell จะเป็นที่ อยู่อาศัยสําหรับบุคลากรและ startup ในโครงการบ่มเพาะ จะมีกําหนดแล้วเสร็จในปี 2564 

             3) ศูนย์ความแม่นยําในการผลิต (Precision Manufacturing Centre): จะใช้อาคารอุตสาหกรรมเดิมใน เขต Tai Po มาปรับปรุงตกแต่งใหม่ให้เป็นฐานการผลิตสําหรับบริษัทคู่ค้าด้าน AI/ หุ่นยนต์ IoT และระบบงานอัตโนมัติ 

             4) ศูนย์การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีก้าวหน้า (Advance Manufacturing Centre – AMC): ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม Tseung Kwan O เพื่อผลักดันฮ่องกงสู่อุตสาหกรรมการผลิตยุคใหม่และใช้นวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทันสมัยต่าง ๆ สําหรับรองรับนวัตกรรมสินค้าราคาสูงหรือตามความต้องการผลิตแบบเฉพาะ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ที่ต้องการนวัตกรรมขั้นสูงในการผลิตสินค้าเฉพาะกลุ่มและต้องการผลิตภัณฑ์ ตัวอย่าง (prototype) โดยบริษัทที่เข้ามาใช้บริการยังได้รับความสะดวกสําหรับบริการเสริม เช่น ด้านการขนส่ง การ จัดเก็บสินค้า การขึ้นตัวอย่างสินค้า การประกอบสินค้าสําหรับออเดอร์เล็ก ๆ เป็นต้น โดยจะแล้วเสร็จในปี 2564 

             5) ศูนย์เทคโนโลยีข้อมูล (Data Technology Hub): จะเป็นศูนย์ข้อมูลดิจิทัลบนอาคารพื้นที่รวม 290,700 ตารางฟุตในเขตอุตสาหกรรม Tseung Kwan O จะให้บริการหลักด้านข้อมูลดิจิทัลและการสื่อสารเพื่อให้บริการทางการเงินและการค้าที่ไม่ซับซ้อน บริการบูรณาการระบบ IT ไปจนถึงออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ บริการ รองรับศูนย์ให้ข้อมูล การกู้ข้อมูลฉุกเฉิน เป็นต้น โดยจะแล้วเสร็จในปี 2563

             6) อุทยานนวัตกรรมและเทคโนโลยีฮ่องกง – เซินเจิ้น (HK/SZ I&I Park) จะเป็นระบบนิเวศด้าน I&T และเป็นชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่ขนาด 544 ไร่ ที่มีอาคาร 12 ชั้นขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 12 ล้าน ตารางฟุต ซึ่งนอกจากจะใหญ่กว่า HKSTP ที่ Shatin ถึง 4 เท่า ยังตั้งอยู่ในทําเลที่ใกล้ต่อการขนส่งทั้งระบบห่วงโซ่ อุปทาน แหล่งการผลิต อีกทั้งยังสามารถดึงดูดบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมจากฝั่งจีนในการข้ามมาทํางานได้ง่ายขึ้น ซึ่งรัฐบาลมองว่าอุทยานใหม่นี้จะดึงดูดบริษัทชั้นนําด้าน IT และสถาบันวิจัยต่าง ๆ รวมไปถึงสถาบันการศึกษา ของจีนแผ่นดินใหญ่และต่างประเทศให้มาจัดตั้งสถาบันวิจัยและสร้างความร่วมมือกันด้านงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและจะเป็นกําลังสําคัญของฮ่องกงในการพัฒนาเชิงนวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงจะช่วยผลักดัน ให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ต่อไป 

             4. บทบาทการส่งเสริมธุรกิจและการลงทุน

             HKSTP มีบทบาทสําคัญในการเชื่อมต่อ startup เข้ากับนักลงทุนและช่องทางการระดมทุนผ่านโครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย โดยได้เสริมสร้างระบบนิเวศการลงทุนสําหรับ startup ผ่านการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือกับบรรดานักลงทุนทั้งที่เป็นสถาบันและบุคคล ซึ่งเป็นการช่วยต่อสายป่านการเงินให้แก่บริษัทที่เข้ามาอยู่ ใน HKSTP จนทําให้บริษัทที่เป็นหุ้นส่วนของ FHKSTP สามารถระดมทุนได้ถึงกว่า 1.2 พันล้านฮ่องกงดอลลาร์ใน ปีงบประมาณ 2560

             โดยที่ HKSTP ต้องการเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม จึงได้จัดตั้งกองทุน Corporate Venture Fund (CVF) ที่ประกอบด้วยเงินทุนจาก HKSTP เองและจากนักลงทุนภาคเอกชน เพื่อเอาไว้ช่วยสนับสนุน startup ด้านเทคโนโลยีให้สามารถพัฒนาไอเดียของตน และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการทางนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ โดยผลตอบแทนที่ได้รับจาการลงทุนก็จะนํากลับมาทบคืนกลับเข้าในกองทุนเพื่อใช้ช่วยเหลือธุรกิจ รายอื่น ๆ ต่อไป

   บริษัทที่เข้าข่ายจะสมัครขอรับการสนับสนุนจากกองทุน CVF นี้จะต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงและมีความสัมพันธ์กับ HKSTP ทางใดทางหนึ่ง เช่น เป็นผู้เข้าร่วมโครงการบ่มเพาะของ HKSTP เคยสําเร็จหลักสูตรโครงการบ่มเพาะ HKSTP หรือเป็นผู้เช่าพื้นที่ในปัจจุบัน

อ้างอิง: อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง บันไดสู่ความเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี - (globthailand.com)


เขียนโดย : น.ส.จุฑาทิพ  รุณสุข สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : juthathip.r@mhesi.go.th