Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...

กิจกรรมประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการ ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและเศรษฐกิจชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30-12.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน ชั้น 5 อาคารรพี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ศูนย์เทเวศร์)

เป็นการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการ ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและเศรษฐกิจชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์ และเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมด้วยสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการคลินิกเทคโนโลยีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 4 โครงการ ได้แก่

1. โครงการให้คำปรึกษาและบริการข้อมูลเทคโนโลยี

          นางสาวดวงฤทัย แก้วคำ หัวหน้างานบริการวิชาการ ผู้ประสานงานศูนย์คลินิกเทคโนโลยีสถาบันวิจัยและพัฒนา เป็นผู้นำเสนอผลการดำเนินงานโครงการฯ โดยคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิได้เสนอแนะให้ดำเนินการวิเคราะห์ความต้องการทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์บางรายการ โดยอาศัยกระบวนการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค ความต้องการของตลาด และแนวโน้มการบริโภค เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค อันจะส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ในเชิงเศรษฐกิจ

2. โครงการการให้คำปรึกษาและบริการข้อมูลเทคโนโลยีด้านคหกรรมศาสตร์เพื่อชุมชน และสังคม

          นายศิวกร ตลับนาค หัวหน้างานบริการวิชาการแก่สังคม ผู้ประสานงานศูนย์คลินิกเทคโนโลยีโชติเวช เป็นผู้นำเสนอผลการดำเนินงานโครงการฯ โดยคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิได้เสนอแนะให้ปรับปรุงและพัฒนาการจัดทำรายงานโครงการ โดยควรแนบเอกสารการประเมินผลของแต่ละกิจกรรมไว้ในภาคผนวกท้ายเล่ม เพื่อแสดงถึงผลการดำเนินงาน ประสิทธิภาพ และระดับความสำเร็จของกิจกรรมอย่างเป็นระบบและตรวจสอบได้

          นอกจากนี้ มีข้อเสนอแนะให้เพิ่มเติมการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมของโครงการ โดยพิจารณาถึงการใช้ทรัพยากร การจัดการของเสีย และแนวทางลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน ได้มีการเสนอแนะให้ขยายผลการดำเนินงานในมิติของการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยเน้นการประยุกต์ใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านคหกรรมศาสตร์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคมโดยรวม

3. โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกและดอกไม้ใยบัว เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวของชุมชนในตำบลเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรีปีที่ 2

          นางสาวดวงฤทัย แก้วคำ หัวหน้างานบริการวิชาการ ผู้ประสานงานศูนย์คลินิกเทคโนโลยีสถาบันวิจัยและพัฒนา เป็นผู้นำเสนอผลการดำเนินงานโครงการฯโดยคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิได้เสนอแนะให้พัฒนาการดำเนินงานโครงการโดยเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกกับเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ควบคู่กับการประยุกต์ใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านผู้มีอิทธิพลทางสังคม (Influencer Marketing) ในการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนการจำหน่ายสินค้า เช่น กรณีศึกษาของ “หนึ่ง บางปู” เพื่อเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์และขยายฐานผู้บริโภคในวงกว้าง

          นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทั้งในด้านคุณภาพ กระบวนการผลิต และบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาองค์กรในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) โดยมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในระยะยาว

4. โครงการสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสระบุรี ปี 3

          รองศาสตราจารย์ ดร.ฉันทนา ปาปัดถา รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการวิชาการ สถาบันวิจัยและพัฒนา ผู้ประสานงานศูนย์คลินิกเทคโนโลยีสถาบันวิจัยเป็นผู้นำเสนอผลการดำเนินงานโครงการฯ โดยคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิได้เสนอแนะให้ปรับปรุงการตั้งชื่อโครงการให้มีความครอบคลุมและสอดคล้องกับกรอบการดำเนินงานในระยะเวลา 3 ปี เพื่อสะท้อนทิศทาง วัตถุประสงค์ และผลลัพธ์ของโครงการในระยะยาวอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ได้มีข้อเสนอแนะให้จัดทำรายงานเพิ่มเติมจากประเด็นข้อเสนอแนะที่ได้มีการนำเสนอและหารือในที่ประชุม เพื่อนำมาประกอบการปรับปรุงแนวทางการดำเนินงาน การวางแผนกิจกรรม และการติดตามประเมินผลโครงการให้มีความครบถ้วน เป็นระบบ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน