การขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์โรงงานต้นแบบถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งทอนาโน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  28

คำสำคัญ : กปว.  สิ่งทอนาโน  

                   ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี 2567 ผมเคยเขียนบล็อกเกี่ยวกับโรงงานต้นแบบถ่ายทอดเทคโนโลยี สิ่งทอนาโน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่วิทยาลัยการอาชีพขอนแก่น (วกอ.ขอนแก่น) ได้รับการส่งมอบจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สวทช. เมื่อปี 2559 ซึ่งเป็นโรงงานที่นำเสนอบริการเคลือบสิ่งทอและตกแต่งสำเร็จเส้นใยสมบัติพิเศษ ชูจุดแข็งเทคโนโลยีนาโนกับการเคลือบ 5 สมบัติ ได้แก่ กลิ่นหอม ต้านยูวี ผ้านุ่มลื่น ยับยั้งแบคทีเรีย และสะท้อนน้ำในขั้นตอนเดียว เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น และยกระดับมาตรฐานสิ่งทอทั้งระบบ แต่ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ค่อยมีการใช้ประโยช์มากนัก ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากกระบวนการเคลือบนาโนต้องใช้ความร้อนสูง ทำให้สีผ้าซีดจางลง รวมถึงราคาค่าเคลือบ 500 บาท/1 ผืน/2 ตรม. ที่อาจจะสูงเกินไปไม่คุ้มกับธุรกิจ อีกทั้งคุณสมบัตินาโนที่เคลือบไม่คงทน โดยผ่านการซักประมาณ 10-20 ครั้ง คุณสมบัตินาโนก็หายไปเกือบหมดแล้ว และบล็อกเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลาสม่าสิ่งทอ หรือเครื่องเคลือบสิ่งทอโดยใช้พลาสม่าที่ความดันบรรยากาศโดยเป็นเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) เมื่อสิ่งทอถูก treat  ด้วยพลาสม่า จะช่วยให้ผิววัสดุสิ่งทอจับกับอนุภาคนาโนได้ดียิ่งขึ้น โดยจากการทดสอบสิ่งทอที่ผ่านการ treat ด้วยพลาสม่าและเคลือบนาโนที่มีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย และสะท้อนน้ำ ด้วยการซัก 50 ครั้ง ปรากฏว่าคุณสมบัติดังกล่าวยังคงแอคทีฟที่ระดับ 99% ซึ่งหากสองเทคโนโลยีนี้ทั้งโรงงานต้นแบบถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งทอนาโน และเทคโนโลยีพลาสม่าสิ่งทอ สามารถ matching กันได้น่าจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น และยกระดับมาตรฐานสิ่งทอทั้งระบบในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
                   และเมื่อช่วงกลางปี 2567 ที่ กปว. จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การทบทวนแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนและส่งเสริมการใชประโยชน์งานด้าน ววน. ในระดับภูมิภาค” ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการนำ วทน. เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและเศรษฐกิจชุมชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พื้นที่ภาคตะวนออกเฉียงเหนือ ณ อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคตะวนออกเฉียงเหนือ (จังหวัดขอนแก่น) ผมก็ได้นั่งล้อมวงหารือกับทีม มมส. และ วกอ.ขอนแก่น ซึ่งท่าน ผอ.เอกพงศ์ (ผอ.กปว.) เดินผ่านวงสนทนาและได้รับทราบเรื่องราวด้วย จึงได้กำชับและมอบหมายให้หน่วยปฏิบัติการเครือข่าย อว.ระดับภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ปค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ดำเนินการผลักดัน ส่งเสริมและขับเคลื่อนโรงงานต้นแบบถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งทอนาโนให้เกิดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
                   จากนั้นก็ได้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง ปค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมมส. และ วกอ.ขอนแก่น โดยได้มีการดำเนินงานดังนี้
                   1. การบริหารจัดการโรงงานต้นแบบถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งทอนาโนโดย ปค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ให้ข้อเสนอแนะว่าถ้าหากต้องการให้โรงงานต้นแบบถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งทอนาโนเกิดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืนและแพร่หลายการบริหารจัดการควรอยู่ในรูปของคณะทำงานที่มาช่วยในด้านการกำหนดกรอบและแนวทางในการดำเนินงานและบริหารจัดการ ทั้งด้านการประชาสัมพันธ์ การให้บริการ การกำหนดอัตราค่าบริการที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ประกอบการให้มาใช้บริการ และการติดตาประเมินผล ฯลฯมากกว่ามอบหมายบุคคลากรเพียง 1 ท่านให้มารับผิดชอบดำเนินงานและบริหารจัดการ ซึ่งต่อมา วกอ.ขอนแก่นก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานคลินิกเทคโนโลยี วกอ.ขอนแก่น (คำสั่ง วกอ.ขอนแก่น ที่ 0346/2567 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2567) โดยมีคณะกรรมการดำเนินการฝ่ายวิชาการ รับผิดชอบดำเนินงานบริหารจัดการ กำกับและติดตามผลการดำเนินงานโรงงานต้นแบบถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งทอนาโน
                   2. มมส. ได้จัดทำแผนงาน/โครงการเพื่อพัฒนาสิ่งทอในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก วช. เพื่อดำเนินงานต่อเนื่อง 3 ปี (พ.ศ.2568-2570) รายละเอียดดังนี้
                      - ต้นน้ำ: การปลูกหม่อน/เลี้ยงไหม และการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้มีน้ำใช้สำหรับการปลูกหม่อน/เลี้ยงไหม และการทำเกษตรตลอดทั้งปี
                      - กลางน้ำ: การส่งเสริมการย้อมสีธรรมชาติ เครื่องตีเกลียวเส้นไหม กี่ทอผ้ากึ่งอัตโนมัติ การทำให้เครื่องจักร/ระบบในโรงงานต้นแบบถ่ายทอดเทคโนโลยีสิ่งทอนาโนกลับมาใช้งานได้ตามปกติ (เนื่องจากระบบไม่ได้ใช้งานมาหลายปี) และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากดักแด้ (ผงโปรตีนดักแด้/ดักแด้กระป๋อง) และใบหม่อน (ชา)
                      - ปลายน้ำ: การส่งเสริมการใช้งานแพลตฟอร์มด้านการตลาดออนไลน์
                 3. ปค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมมส. และ วกอ.ขอนแก่น รวมถึงอีกหลายเครือข่ายทั้งภายในและต่างประเทศ ร่วมกันจัดทำแผนงาน/โครงการอนุรักษ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมชุมชนสิ่งทอพื้นเมืองในประเทศไทย จีน และลาว ด้วยเทคโนโลยีพลาสมาและนาโนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อของบประมาณจากกองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสิ่งทอพื้นเมืองในประเทศไทย จีน และลาว ด้วยการผสานเทคโนโลยีพลาสมาและนาโน เพื่อยกระดับความทนทาน ความสามารถในการทำตลาด และความยั่งยืนของเนื้อผ้า กิจกรรมหลักประกอบด้วยการบันทึกข้อมูลทางชาติพันธุ์วิทยา การพัฒนาคลังข้อมูลดิจิทัลข้ามชาติ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ การประชุมเชิงปฏิบัติการชุมชน และนิทรรศการ การดำเนินงานระยะเวลาสองปีนี้ผสมผสานการทำงานภาคสนาม การฝึกอบรม และนวัตกรรม สู่การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมสิ่งทอถาวรและกรอบความร่วมมือไตรภาคี ส่งเสริมการบูรณาการระดับภูมิภาค เสริมสร้างศักยภาพให้กับช่างทอผ้าในท้องถิ่น และเชื่อมโยงมรดกและเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน


เขียนโดย : นายชุมพล  เยาวภา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : chumpon@mhesi.go.th