Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
Unicorn Factory Lisboa: ถอดบทเรียนระบบนิเวศสตาร์ทอัปโปรตุเกส 14

คำสำคัญ : Startup, Unicorn, Scalingup
จังหวะดีที่ได้มีโอกาสได้มาศึกษาดูงานที่ Unicorn Factory Lisboa — แพลตฟอร์มส่งเสริมสตาร์ทอัประดับชาติที่เทศบาลลิสบอน (Câmara Municipal de Lisboa) เป็นผู้ตั้งต้น แต่ขับเคลื่อนในรูปแบบ Public-Private Partnership ได้อย่างน่าประทับใจมากครับ
Unicorn Factory Lisboa: ถอดบทเรียนระบบนิเวศสตาร์ทอัปที่แตกต่างจากไทย และเราน่าจะดูดซับอะไรมาได้บ้าง
แม้จะเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยภาครัฐ แต่ Unicorn Factory Lisboa ดำเนินงานในลักษณะของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (public-private partnership) โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศ เช่น Microsoft และ Google เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัปในด้านต่าง ๆ
โครงสร้างแบบ Distributed Innovation Districts
เด๋วแปะรูปภาพประกอบให้ แต่ภาพอาจไม่ได้ชัดมากเพราะถ่ายจาก slide ของเขาอีกที แต่จะลงภาพโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่โตมโหฬารราวกับกองทัพ ก็กองทัพแหละ เพราะเขาเอาพื้นที่กองทัพในส่วนที่เคยเป็นโรงงานผลิตเสบียงในช่วงสงครามโลกมาให้ปั้น Startup (เหมือนจะบอกกลายๆว่าสงครามโลกมันเปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว)
โปรแกรมรองรับทุกระยะของสตาร์ทอัป
5 เสาหลักของโปรแกรม Scaling Up
จุดเด่นอีกอย่างคือ การสนับสนุนต่างชาติอย่างแท้จริง มีบริการ onboarding สำหรับ startup ที่อยากขยายมาลิสบอน เพราะเค้าเล็งที่จะเป็นศูนย์กลางของยุโรปอ่ะนะ ตัวอย่างความช่วยเหลือสตาร์อัปต่างชาติ เช่น
พันธมิตรร่วมขับเคลื่อนหลากหลาย ทั้ง Google, PwC, Galp, Fidelidade, Delta, Fintech House และมหาวิทยาลัย Técnico Lisboa ก็เข้ามามีบทบาทใน ecosystem นี้
ผลลัพธ์วัดได้จริง มากกว่า 50 scaleups!!! (เยอะจัด) ผ่านโปรแกรม แถมยังมีค่าความพึงพอใจสูงถึง 97
ถ้าเมืองไทยอยากมี "ศูนย์กลางสร้างยูนิคอร์น" แบบนี้สิ่งสำคัญอาจไม่ใช่การลงทุนมหาศาล แต่คือ การออกแบบระบบนิเวศที่มีเป้าหมายชัด
กล้าเชื่อมหน่วยงานรัฐ-เอกชนเข้าด้วยกัน
ลงทุนกับ “พื้นที่” และ "โครงสร้างพื้นฐาน" อย่างมีแผน
วางแผนการสนับสนุนที่ตอบโจทย์แต่ละระยะของ startup และต้องหา Mentor + นักลงทุนต่างชาติ (โดยเฉพาะในช่วง scaling up) ที่สำคัญคือ ยังไงเสียก็ต้องให้เอกชนเป็นผู้ขับเคลื่อนสำคัญของระบบนั่นแหละ
ใครที่อยากขยาย startup มายุโรป ผมไม่ได้กั๊ก ลองเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมครับ:
ช่วงนี้เห็นกระแสซีรีย์ "สงครามส่งด่วน" กำลังเป็นไวรัลอยู่ในทุกโซเชียลมีเดียเลย สารภาพว่ายังไม่ได้ดู แต่อ่านรีวิวผ่านๆก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนหลากหลายระดับ บางคนอยากรวยบ้าง บางคนฮึดสู้ บางคนอยากเป็นยูนิคอร์นบ้าง ผมเองอ่านแค่รีวิวยังอยากให้ไทยมียูนิคอร์นจำนวนมากกว่านี้


อะไรที่ทำให้ที่นี่โดดเด่น? ผมจะคัดมาเฉพาะที่แตกต่างจนน่าสนใจละกันนะครับ


เมืองลิสบอนไม่ได้มีแค่ "hub เดียว" แต่กระจายเขตนวัตกรรมออกเป็น 4 โซนสำคัญ เช่น
Beato District (สำนักงานใหญ่ + Tech Campus)
Saldanha District (GreenHub, GamingHub, Fintech)
Alvalade District (AI/Web3 Hub)
Early-Stage Hub (Incubator สำหรับกลุ่มเริ่มต้น)




Incubation Program สำหรับ startup ที่อยู่ในช่วง pre-seed/seed หรือ early stage ขั้นนี้ในไทยเรามีเยอะแล้วล่ะ แต่ที่เด่นจริงๆคือกลไกการสนับสนุน incubator ที่เป็นเอกชน ซึ่งไทยเราก็พอมีแหละ แต่ยังน้อยไปหน่อย
ขอข้ามมาขั้น Scaling Up Program สำหรับบริษัทที่เติบโตแล้ว มีรายได้ และต้องการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ อันนี้คือดี และไทยเราต้องเรียนรู้มากๆหากจะสร้างยูนิคอร์นสัญชาติไทยเพิ่มขึ้น ที่นี่เค้าออกแบบให้มี 5 เสาหลัก ตามนี้...

1. Immersive Upskilling การพัฒนาทักษะเชิงลึกในด้านสำคัญ เช่น การบริหารธุรกิจ การขยายตลาด และเทคโนโลยี ผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติ
2. Mentorship Board มีคณะผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ทั้งในด้านการเงิน การบริหารบุคคล และกลยุทธ์การเติบโต แล้ว Montor เค้าแต่ละคนคือ...ระดับโลก ผู้บริหาร Linkedin เอย ผู้เชี่ยวชาญด้านการระดมทุน เอย เค้าพันธมิตรเป็นเอกชนรายใหญ่ระดับนานาชาติที่ถ้าบอกชื่อมาเราก็คุ้นหูทั้งนั้น
3. Corporate Matching จับคู่บริษัทสเกลอัปกับองค์กรหรือบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจหรือความร่วมมือทางเทคโนโลยี อันนี้คนที่มานำเสนอไม่ค่อยเน้น แต่ไอเราก็ดันสนใจ เลยไปหาเพิ่มเติมมาว่าเค้าทำอะไรบ้าง ก็มีทั้ง
การทดลองใช้งานร่วมกัน (Pilot Projects): ทดสอบผลิตภัณฑ์หรือบริการในสภาพแวดล้อมจริงขององค์กร
การเป็นลูกค้ารายแรก (First Clients): องค์กรขนาดใหญ่เป็นลูกค้ารายแรกของสตาร์ทอัป
การร่วมพัฒนาโซลูชัน (Co-development): พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการร่วมกัน
การลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการ (Investment or Acquisition): องค์กรขนาดใหญ่ลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการของสตาร์ทอัป




ในแต่ละอย่างมันก็มีกระบวนการของมันอยู่ล่ะนะ ไม่ใช่ว่าอยู่ๆจะไปยัดเยียดให้เขาเข้าซื้อกิจการได้นะ สรุปสั้นๆว่าเขาต้องรวบรวมความต้องการของรายใหญ่ แล้วจับคู่สตาร์ทอัพที่มี solution ที่รายใหญ่ต้องการ แล้วจับคู่ให้ใน Demo day บ้าง Pitching บ้าง
4. International Growth สนับสนุนการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมเครือข่ายพันธมิตรในหลายประเทศ อันนี้เผื่อสตาร์ทอัพในไทยสนใจ จริงๆก็แอบมีสตาร์ทอัพที่พาไปด้วยสนใจอยู่นะ
5. Community สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสตาร์ทอัป สเกลอัป นักลงทุน และภาคเอกชนในระบบนิเวศ เข้าทำนอง รู้อะไรไม่สู้รู้จักกัน อันนี้ต้องยอมรับว่าโปรตุเกสทำถึงมาก เล่นจัดกิจกรรมรายเดือนให้ได้เจอกันทุกเดือน เด๋วมาเล่าให้ฟังใหม่

คู่มือขยายธุรกิจ มีที่ปรึกษากฎหมาย/บัญชี/HR
และเชื่อม VC และ community ผู้ประกอบการทันที


และมีการขยายงานต่อเนื่องตลอด
พอก่อนเด๋วยาวไป อ่านเหนื่อย




แน่นอนว่าการเดินทางมาที่นี่ไม่ได้แค่ดูของดี แต่ทำให้เห็นว่า “ระบบที่ดี” คือกุญแจที่ทำให้ startup โตได้จริง
ที่เล่ามาทั้งหมด เพราะอยากเป็นส่วนนึงที่เล็กมากๆในการสร้างยูนิคอร์นไทยเหมือนในซีรีย์บ้าง
---

เขียนโดย : นายสมบัติ สมศักดิ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : sombat.s@most.go.th