Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
Product Life Cycle 202
เกร็ดความรู้เล็กๆ เพื่อประโยชน์ในส่งเสริมการนําวิทยาศาสตร์ วิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม มายกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ
การรู้ถึงวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ หรือ Product Life Cycle นั้นมีความสำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้สามารถนำไปวางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาด และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกช่วงวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังสามารถคาดการณ์ถึงแนวโน้มของตลาด เพื่อการเตรียมตัวในการปรับแผนธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างทันท่วงที โดย Product Life Cycle (PLC) หรือวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ คือกระบวนการตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เริ่มเข้าสู่ตลาด จนถึงจุดความอิ่มตัวของตลาด โดยวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ก็มีอยู่ด้วยกัน 4 ช่วง คือ ช่วงแนะนำ (Introduction) ช่วงเติบโต (Growth) ช่วงเติบโตเต็มที่หรือจุดสูงสุด (Maturity) และช่วงถดถอย (Decline)
1. ช่วงแนะนำผลิตภัณฑ์ (Introduction)
ช่วงแนะนำผลิตภัณฑ์จะเกิดขึ้นเมื่อผลิตภัณฑ์ถูกพัฒนามาในระยะเวลาหนึ่งแล้วและพร้อมที่ออกสู่ตลาดให้เป็นที่รู้จัก โดยในช่วงนี้จะเน้นเรื่องของการทำการตลาดค่อนข้างมาก การ PR ประชาสัมพันธ์ให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และการลงทุนในด้านต่างๆเพื่อให้พร้อมสำหรับการผลักดันผลิตภัณฑ์ให้ติดตลาด ซึ่งในช่วงแนะนำผลิตภัณฑ์นี้ผู้ประกอบการจะรับรู้ได้ถึงการตอบสนองของผู้บริโภคว่ามีข้อดีข้อด้อยอย่างไร ตอบสนองต่อผู้บริโภคหรือไม่ หรือมีอะไรต้องปรับปรุง ซึ่งผู้ประกอบการก็ควรจะเตรียมพร้อมเพื่อพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และสร้างให้เกิดความต้องการของผลิตภัณฑ์ต่อกลุ่มผู้บริโภค เพื่อมุ่งไปสู่ช่วงเวลาการเติบโตของผลิตภัณฑ์
2. ช่วงเติบโต (Growth)
ช่วงเติบโต เป็นช่วงที่มีผู้บริโภคได้ซื้อผลิตภัณฑ์จนกลายเป็นลูกค้าทั้งประจำและขาจร โดยผลิตภัณฑ์นั้นกลายเป็นที่นิยม และสามารถทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นช่วงที่คู่แข่งเริ่มเห็นโอกาสและออกมาแข่งขันเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งผู้ประกอบการอาจต้องลงทุนทำการตลาด การโฆษณา หรือคิดโปรโมชันต่างๆ เพื่อแข่งกับคู่แข่งอื่นๆ โดยทั่วไปแล้วในช่วงเติบโตนี้ก็ต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้น เช่น การปรับปรุงรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย การส่งเสริมการตลาดในแบบต่างๆ
3. ช่วงเติบโตเต็มที่หรือจุดอิ่มตัว (Maturity)
ช่วงเติบโตเต็มที่หรือจุดอิ่มตัว จะเกิดขึ้นเมื่อผลิตภัณฑ์เข้าสู่ช่วงเติบโตเต็มที่ ยอดขายต่างๆจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆไม่รวดเร็วเท่ากับช่วงเติบโต เริ่มเห็นสัญญาการชะลอตัวมากขึ้น มีคู่แข่งใหม่ๆเกิดขึ้น ความต้องการในตัวผลิตภัณฑ์ที่เริ่มลดลง ดังนั้นการทำการตลาดในช่วงนี้อาจจำเป็นต้องหาตลาดใหม่ๆ หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆมาใช้เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภค รวมถึงอาจต้องลดราคาหรือหาช่องทางในการลดค่าใช้จ่ายทางการตลาด เช่น เน้นการขายออนไลน์
4. ช่วงถดถอย (Decline)
ในช่วงถดถอยนั้นจะเห็นได้ชัดเจนว่ายอดขายจะลดลงอย่างมาก พฤติกรรมผู้บริโภคจะเริ่มเปลี่ยนไป มีความต้องการในผลิตภัณฑ์ที่ลดลงเป็นอย่างมาก จะเริ่มสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด เนื่องจากมีการแข่งขันสูงมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรเร่งระบายผลิตภัณฑ์ออกไปให้ได้โดยเร็วที่สุด หรือการมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าประจำที่ซื้อซ้ำ รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่น การลดราคาลง และหากไม่สามารถพัฒนาหรือออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆได้อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
ดังนั้น จะเห็นได้ว่า วิทยาศาสตร์ วิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม มีความสำคัญในทุกช่วงวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ที่จะช่วยนกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.popticles.com/business/product-life-cycle-for-business-strateg
เรื่องนี้อ่านแล้วสนุกดีเหมือนกัน อยากรู้ว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงช่วงถดถอย (Decline) แล้ว เราจะต้องทำอย่างไรต่อ กับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ