บันทึกเส้นทางการพัฒนาระบบสารสนเทศเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ OAN  512

คำสำคัญ : oan  organic  อินทรีย์  สารสนเทศ  

บันทึกประวัติศาสตร์ OAN

ผอ.เอกพงศ์ มุสิกะเจริญ ผอ.สำนักส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน ภาคอีสาน ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด

ผอ.เอก ท่านอยากเห็นเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ได้มี "ข้อมูล" เพื่อการบริหารและการตัดสินใจในกิจกรรมค้าขายสินค้า สร้างเศรษฐกิจฐานราก แต่ท่านก็ยังไม่เห็นกลุ่มไหนที่มีการขับเคลื่อนที่ต่อเนื่อง ถึงกระนั้นท่านก็ได้ลงมือออกแบบพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเกษตรอินทรีย์ OAN ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 ด้วยปนิธานที่ว่า "เมื่อแผ่นดินกลบหน้า ขอให้ได้ฝากมรดกฐานข้อมูลเกษตรอินทรีย์ให้แก่ลูกหลาน ชนรุ่นหลัง และขอให้มีอาหารปลอดภัย อาหารอินทรีย์ได้บริโภคร่วมกัน" ผอ.พูดในหลายเวทีว่าท่านเห็นพลังของเจ้าชายเกษตรอินทรีย์ และเครือข่าย และเชื่อมั่นว่าน่าจะสามารถสร้างเนื้อหา (Content) เข้าระบบฐานข้อมูลที่ท่านกำลังพัฒนาได้ จึงได้เริ่มแตะมือกับทีมงาน SDGsPGS ปรับโมเดลและออกแบบฐานข้อมูลเพิ่มเต็ม โดยเฉพาะในส่วนของกระบวนการรับรองแบบมีส่วนร่วม SDGsPGS แล้วเริ่มนำออกมาให้พวกเราได้ลองใช้ในวันที่ 14 กันยายน 2560

ผ่านไป 2-3 เดือน ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะทำให้มีเกษตรกรมาใช้ระบบอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ก็ได้มีหลายจังหวัดเร่ิมสอบถามวิธีการใช้งาน และได้ปรับปรุงเรื่อยๆ ผอ.แทบไม่หลับไม่นอน ใช้เวลาค่ำคืนส่วนใหญ่ในการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสได้หารือกับ ดร.จ๋องถึงแนวทางในการส่งเสริมการใช้ระบบ OAN ให้มากขึ้น ทำให้ ดร.จ๋องได้ลงมือศึกษาระบบที่ผอ.เอกพัฒนามาแล้วอย่างจริงจัง และเห็นว่าสิ่งที่ ผอ.เอกได้พัฒนามาแล้วสมบูรณ์เกือบ 100% ในกระบวนการ SDGsPGS ตั้งแต่การอบรมผู้ตรวจแปลง ไปจนถึงการออกหนังสือรับรองแปลงในระดับจังหวัด สุดยอดมากที่ ผอ.เอก ได้แปลงกระบวนการในการตรวจแปลง การรับรองแปลงเป็นระบบที่จะรองรับข้อมูลจริงได้อย่างสมบูรณ์

อีกท่านหนึ่งที่เห็นความสำคัญในการพัฒนาระบบฐานข้อมูล คือพี่พรรษวรรณ จันทร์ดี จากกรมการค้าภายใน หลังจากที่ได้ดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วมประชารัฐ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค ภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืน ปี 2561 จึงได้ออกแบบให้การพัฒนาระบบฐานข้อมูล OAN เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ ทำให้เราสามารถนำเสนอระบบ OAN ให้กับ 8 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการด้วย ได้แก่สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี สกลนคร น่าน แม่ฮ่องสอน อุดรธานี และเพชรบูรณ์ โดยมี 2 จังหวัดแรกที่ได้มีกระบวนการอบรมผู้ตรวจแปลง ตรวจแปลง ประชุมกลั่นกรอง และประชุมรับรอง แต่ยังเป็นการนำเสนอข้อมูลการรับรองนอกระบบคือสกลนครและสุพรรณบุรี ซึ่งมีความขลุกขลักพอสมควรในการทำการประมวลผลข้อมูล สุดท้ายผอ.เอก ได้พัฒนาให้กระบวนการทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ในระบบ ตั้งแต่การนำเข้าข้อมูลผู้ตรวจแปลง ข้อมูลกลุ่มเกษตรกร ข้อมูลเกษตรกร ข้อมูลแปลงเกษตรกร ข้อมูลผลการตรวจแปลงซึ่งจัดทำเกณฑ์ 22 ข้อของ SDGsPGS ในระบบ พัฒนาเพิ่มเติมในส่วนของการประชุมกลั่นกรอง และการประชุมรับรองแปลง มีการออกแบบให้ระบบสามารถออกรายงานข้อมูลกลั่นกรอง และออกหนังสือรับรองได้ทันทีหลังจากการประชุมรับรอง โดยออกแบบใบเซอร์ที่สวยงาม มีรายละเอียดครบถ้วนของเกษตรกร แปลงเกษตรกร การตรวจแปลง การกลั่นกรอง การรับรอง ผลการรับรอง และลงลายชื่อผู้รับผิดชอบออกหนังสือรับรอง ตลอดจนสัญลักษณ์ที่สามารถนำไปใช้ติดกับผลิตภัณฑ์และ QR Code สำหรับการตรวจสอบย้อนกลับ ทำให้อีก 6 จังหวัดภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืนโดยกรมการค้าภายในได้ประโยชน์จากใช้ระบบ OAN อย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรม

ระบบ OAN ได้กลายเป็น "Heart beat" จังหวะเต้นของหัวใจของเครือข่าย SDGsPGS อย่างเต็มภาคภูมิ และเป็นจุดแข็งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในระบบการรับรองของ SDGsPGS ไปทั่วประเทศ จาก 8 จังหวัด ไปสู่ 40 จังหวัดในปี 2562 และกำลังนำไปสู่ 60 จังหวัด ภายในสิ้นปี 2564 ปัจจุบัน มีแปลงเกษตรอินทรีย์ในระบบ OAN มากกว่า 10,000 แปลง มีแปลงที่ผ่านการรับรองทั้งที่เป็นแปลงอินทรีย์และระยะปรับเปลี่ยนไปแล้วมากกว่า 6,000 แปลงทั่วประเทศ และมีแนวโน้มว่าตัวเลขจำนวนแปลง จำนวนไร่ จำนวนเกษตรกร กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะแต่ละจังหวัดสามารถขับเคลื่อนกระบวนการ SDGsPGS ได้เองแบบอัตโนมัติ (autonomous) พร้อมๆกันทั่วประเทศ

ผอ.เอก ไม่เคยหยุดพัฒนาระบบ OAN นอกจากทำการสนับสนุนการใช้งานให้กับพี่น้อง SDGsPGS ทั่วประเทศ อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแล้ว ยังพัฒนาการหน้าจอการใช้งานใหม่ๆเพิ่มออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะการให้เกษตรกรเจ้าของข้อมูลสามารถอัพเดทข้อมูลกิจกรรมฟาร์ม ต้นทุนฟาร์ม และข้อมูลการจัดการผลผลิตแบบออนไลน์ ซึ่งจะเชื่อมโยงอย่างมีนัยยะสำคัญไปสู่การจัดการผลผลิตโดย "วิสาหกิจเพื่อสังคม" หรือ SE ที่มีหน้าที่จัดการผลผลิตจากแปลงเกษตรกรออกสู่ตลาดของแต่ละจังหวัดอย่างเป็นระบบ ซึ่ง ผอ.เอก ได้พัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมนำไปสู่การส่งเสริมให้มีการใช้งานอย่างเต็มที่

การอบรมการใช้งานระบบ OAN จากตอนแรกใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง ต้องเพิ่มเวลาเป็น 1 วันเต็ม และต่อมา 2 วันเต็ม และ 4 วันเต็มหากรวมการอบรมเพื่อการใช้งานในส่วนของ OFM (Organic Future Market) ด้วย

ระบบ OAN ช่วยให้พี่น้องเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ SDGsPGS ขายสินค้าได้มูลค่าปีละหลายล้านบาท และถ้าประเมินมูลค่าของระบบ และข้อมูลในระบบ OAN และ OFM ปัจจุบันน่าจะมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท และมูลค่ามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

โมเดลการขับเคลื่อน SDGsPGS ให้ความสำคัญกับเครื่องมือ 4 ตัว ได้แก่ 1) มาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม SDGsPGS 2) ข้อมูล เพื่อการบริหารและการตัดสินใจ 3) กลไกเจ้าภาพในการขับเคลื่อนสัมมาชีพเต็มพื้นที่โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง ได้แก่สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนจังหวัดและกลไกธุรกิจในรูปวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) และ 4)การบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสู่เป้าหมายเดียวกัน (Core Team) เครื่องมือทั้ง 4 ตัวนี้กำลังทำงานตามโมเดลอย่างเป็นรูปธรรมในแต่ละจังหวัดและระดับชาติ รวมถึงความสำคัญของระบบ OAN และ OFM ด้วย

จึงสมควรเขียนบันทึกประวัติศาสตร์นี้เพื่อเชิดชูเกียรติ ผอ.เอกพงศ์ มุสิกะเจริญ ผู้พัฒนาระบบ OAN และ OFM เพื่อพี่น้องเกษตรกรและพวกเราชาว SDGsPGS สิ่งที่พวกเราสามารถตอบแทนท่านได้ไม่ใช่เงิน แต่เป็นมิตรภาพ การเข้ามาใช้งานในระบบให้สมกับกำลังกาย กำลังใจความทุ่มเท และกำลังทรัพย์ที่ท่านได้ลงทุนเพื่อพวกเรา และผลผลิตแม้เพียงเล็กน้อย ส่งไปสมนาคุณ ขอบคุณท่านที่ได้ช่วยเหลือพวกเรา เพื่อเป็นแรงใจให้ท่านได้มีกำลังใจในการร่วมปฏิรูปและพัฒนาประเทศให้เป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ เกิดสัมมาชีพเต็มพื้นที่ต่อไป

#SDGsPGS_นวัตกรรมเพื่อการปฏิรูปเกษตรกรรมยั่งยืนไทย
#SDGsPGS_ถูกต้อง_เป็นธรรม_สัมมาชีพ
#ประเทศไทยหัวใจอินทรีย์_SDGsPGS
#SDGsPGS_toward_Thailand_Kingdom_of_Organic

วันที่ 14 กันยายน 2564 


เขียนโดย : นายเอกพงศ์  มุสิกะเจริญ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ekapong@mhesi.go.th