จุลินทรีย์ปลูกพืช  16

คำสำคัญ : จุลินทรีย์  อินทรีย์  
มาดูกันว่า"จุลินทรีย์" ที่เหมาะสมในการปลูกทุเรียนมีอะไรบ้างแต่ละชนิดมีบทบาทอย่างไร
 
เราสามารถแบ่ง"จุลินทรีย์"ออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ตามบทบาทหน้าที่  ได้ดังนี้:
 
**1. #กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายอินทรียวัตถุ:**
 
*   **บทบาท:**  ย่อยสลายเศษซากพืช  ซากสัตว์  และอินทรียวัตถุต่างๆ ในดิน  ให้กลายเป็นธาตุอาหารที่ทุเรียนสามารถดูดซึมไปใช้ได้  ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน  ทำให้ดินร่วนซุย  อุ้มน้ำ  และระบายอากาศได้ดี  กลุ่มนี้มีความสำคัญมาก  เพราะทุเรียนต้องการดินที่อุดมสมบูรณ์
*   **ตัวอย่าง:**
    *   **แบคทีเรีย:**  *Bacillus spp.* (เช่น *B. subtilis, B. amyloliquefaciens, B. megaterium*), *Streptomyces spp.*
    *   **เชื้อรา:** *Trichoderma spp.* (เช่น *T. harzianum, T. viride*), *Aspergillus spp.*, *Penicillium spp.*
 
**2. #กลุ่มจุลินทรีย์ที่ช่วยเพิ่มธาตุอาหาร:**
 
*   **บทบาท:**  เพิ่มปริมาณธาตุอาหารหลัก  โดยเฉพาะไนโตรเจนและฟอสฟอรัส  ให้อยู่ในรูปที่ทุเรียนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
 
*   **ก. กลุ่มตรึงไนโตรเจน (Nitrogen Fixation):**
    *   **บทบาท:**  เปลี่ยนก๊าซไนโตรเจนในอากาศให้อยู่ในรูปของแอมโมเนียหรือสารประกอบไนโตรเจนอื่นๆ ที่ทุเรียนสามารถดูดซึมไปใช้ได้  ลดการพึ่งพาปุ๋ยไนโตรเจนสังเคราะห์
    *   **ตัวอย่าง:**
        *   *Azotobacter spp.* (ตรึงไนโตรเจนแบบอิสระ)
        *   *Azospirillum spp.* (ตรึงไนโตรเจนแบบอิสระ)
        *   *Rhizobium spp.* (ตรึงไนโตรเจนแบบพึ่งพาอาศัยในปมรากพืชตระกูลถั่ว  ใช้ประโยชน์ทางอ้อมโดยการปลูกพืชตระกูลถั่วคลุมดิน)
 
*   **ข. กลุ่มละลายฟอสเฟต (Phosphate Solubilization):**
    *   **บทบาท:**  ปลดปล่อยฟอสฟอรัสจากสารประกอบอนินทรีย์ฟอสเฟตในดิน  เช่น  หินฟอสเฟต  ให้อยู่ในรูปที่ทุเรียนสามารถดูดซึมไปใช้ได้  ฟอสฟอรัสมีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบราก  การออกดอก  และการติดผล
    *   **ตัวอย่าง:**
        *   **แบคทีเรีย:** *Bacillus megaterium, Pseudomonas fluorescens*
        *   **เชื้อรา:** *Aspergillus spp., Penicillium spp.*
 
*   **ค. ไมคอร์ไรซา (Mycorrhiza):**
    *   **บทบาท:**  เป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่กับรากพืชแบบพึ่งพา  ช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวรากในการดูดซึมน้ำและธาตุอาหาร  โดยเฉพาะฟอสฟอรัส  ไนโตรเจน  และธาตุอาหารรอง  ส่งเสริมการเจริญเติบโตของทุเรียน  และเพิ่มความทนทานต่อโรคและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
    *   **ตัวอย่าง:**  *Glomus spp., Gigaspora spp., Acaulospora spp.*
 
**3. #กลุ่มจุลินทรีย์ที่สร้างสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช:**
 
*   **บทบาท:**  ผลิตฮอร์โมนพืช  เช่น  ออกซิน  จิบเบอเรลลิน  ไซโตไคนิน  ซึ่งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก  ลำต้น  ใบ  และการออกดอกติดผล
*   **ตัวอย่าง:**
    *   *Pseudomonas spp.* (เช่น *P. fluorescens*)
    *   *Bacillus spp.*
    *   *Azotobacter spp.*
 
**4. #กลุ่มจุลินทรีย์ที่ควบคุมโรคพืช (Biocontrol Agents):**
 
*   **บทบาท:**  ป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา  แบคทีเรีย  หรือไส้เดือนฝอย  โดยกลไกต่างๆ  เช่น  การแข่งขัน  การแย่งอาหาร  การสร้างสารปฏิชีวนะ  การเป็นปรสิต  และการชักนำให้พืชมีความต้านทานโรค
*   **ตัวอย่าง:**
    *   **ไตรโคเดอร์มา (Trichoderma spp.):**  ควบคุมโรครากเน่าโคนเน่าที่เกิดจากเชื้อรา  *Phytophthora palmivora*  โรคยอดฮิตในทุเรียน
    *   **บาซิลลัส (Bacillus spp.):**  สร้างสารปฏิชีวนะยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรียสาเหตุโรคพืช
    *   **สเตรปโตมัยซิส (Streptomyces spp.):**  สร้างสารปฏิชีวนะหลายชนิด  ช่วยควบคุมโรคพืช
    *   **พลายแก้ว (Chaetomium globosum, C. cupreum):** สร้างสารยับยั้งเชื้อราสาเหตุโรค
 
**5. #กลุ่มจุลินทรีย์อื่นๆที่มีประโยชน์:**
 
*   **บทบาท:**  ช่วยปรับปรุงคุณภาพดินในด้านอื่นๆ  เช่น  เพิ่มการรวมตัวของเม็ดดิน  ย่อยสลายสารพิษตกค้างในดิน
*   **ตัวอย่าง:**
    *   **จุลินทรีย์ EM (Effective Microorganisms):**  กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลายชนิด  เช่น  แบคทีเรียกรดแลคติก  ยีสต์  แบคทีเรียสังเคราะห์แสง
 
**สรุป:**
 
จุลินทรีย์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโต  สุขภาพ  และผลผลิตของทุเรียน  การส่งเสริมให้มีจุลินทรีย์เหล่านี้ในดินอย่างสมดุล  จะช่วยให้ทุเรียนแข็งแรง  ต้านทานโรค  และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ  ซึ่งการจะทำให้มีปริมาณจุลินทรีย์ที่เหมาะสมนั้น ต้องเริ่มจากการปรับปรุงดินให้มี โครงสร้าง ที่เหมาะสมนั้นเอง
#จุลินทรีย์ #เหมาะสมกับทุเรียน #ทุเรียน

เขียนโดย : นายเอกพงศ์  มุสิกะเจริญ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ekapong@mhesi.go.th