ข้อมูลเกษตรกรหัวใจอินทรีย์
จังหวัดสงขลา
นางวิภารัตน์ เอี่ยววัฒนา
รหัสเกษตรกร 17752
อ่าน 384 ครั้ง
ข้าพเจ้า วิภารัตน์ เอี่ยววัฒนา
ขอปฏิญาณตนว่า
1.ข้าพเจ้าจะซื่อสัตย์ต่ออาชีพเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ทุกชนิด เพื่อสุขภาวะที่ดีของตนเอง ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม
2.ข้าพเจ้าเข้าร่วมทำงานกับ สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนสงขลา เจริญก้าวหน้าในทุกๆด้าน
3.ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามกฎระเบียบของ สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนสงขลา อย่างเคร่งครัด
ขอปฏิญาณตนว่า
1.ข้าพเจ้าจะซื่อสัตย์ต่ออาชีพเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ทุกชนิด เพื่อสุขภาวะที่ดีของตนเอง ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม
2.ข้าพเจ้าเข้าร่วมทำงานกับ สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนสงขลา เจริญก้าวหน้าในทุกๆด้าน
3.ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามกฎระเบียบของ สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนสงขลา อย่างเคร่งครัด
ผู้เพิ่มข้อมูล
สนธิกาญจน์ วิโสจสงคราม
ข้อมูลแปลง
พื้นที่ทั้งหมด 5.00 ไร่ พื้นที่เกษตรอินทรีย์ 3 แปลง 4.75 ไร่
ชื่อแปลง : แปลงผักอินทรีย์ โรงเรียนบ้านม่วง [เปิดดู : 358 ครั้ง ] | รหัสแปลง : 14601 | พื้นที่ : 0.25 ไร่ |
ผลการตรวจแปลง : รับรองโดยไม่มีเงื่อนไข | ||
ผลการตรวจแปลง : รับรองโดยไม่มีเงื่อนไข | ||
ชื่อแปลง : แปลงโกโก้ร่วมยางพารา โรงเรียนบ้านม่วง [เปิดดู : 20 ครั้ง ] | รหัสแปลง : 14602 | พื้นที่ : 3.5 ไร่ |
ผลการตรวจแปลง : รับรองโดยไม่มีเงื่อนไข | ||
ชื่อแปลง : แปลงมะม่วงเบา โรงเรียนบ้านม่วง [เปิดดู : 19 ครั้ง ] | รหัสแปลง : 14603 | พื้นที่ : 1 ไร่ |
ผลการตรวจแปลง : รับรองโดยไม่มีเงื่อนไข |
ผู้บริโภคทุกท่านเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการมีส่วนร่วม
เชิญทุกท่านเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมเกษตรอินทรีย์ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ชื่อแปลง : แปลงผักอินทรีย์ โรงเรียนบ้านม่วง 358
0ข้อมูลการตรวจห้องปฏิบัติการ
ไม่มีผลการตรวจห้องปฏิบัติการ
ข้อมูลแปลง
รายการตรวจ | ผลการตรวจ |
ที่ตั้ง | ละติจูด : 6.623568 ลองติจูด : 100.4795923 |
ประเภทกรรมสิทธิ์ | สาธารณะประโยชน์ |
การจัดการพื้นที่ | ตัวเอง |
ประเภทการขอรับรอง | ผักอินทรีย์, |
ผลการตรวจสถานที่เก็บผลผลิต ที่เก็บอุปกรณ์ | แปลงผักสวนครัวขนาด 10x20 เมตร เป็นลักษณะยกร่องด้วยอิฐนล๊อค |
ผลิตภัณฑ์ที่ขอรับรอง | ผักบุ้ง ผักชี ผักคะน้า ผักกวางตุง ผักชีฝรั่ง กระเพรา โหระพา พริก มะเขือ |
ปัจจัยการผลิต | ใช้ปุ๋ยคอก ทำเอง |
วันที่ทำเกษตรอินทรีย์ | 16/03/2557 |
ใช้สารเคมีครั้งสุดท้าย | |
แหล่งน้ำที่ใช้ | น้ำฝน, น้ำบาดาล, |
ผู้บันทึกข้อมูล | สนธิกาญจน์ วิโสจสงคราม วันที่บันทึกข้อมูล 22/06/2562 |
ที่ตั้งแปลง
รายละเอียดประวัติแปลง
ระบบจะแสดงข้อมูลเฉพาะ 20 กิจกรรมล่าสุด
วันที่ปฏิบัติ | การปฏิบัติ | วันที่บันทึก |
3/12/2022 | แปลงที่ 2 ปลูกแตงกวา จำนวน 16 ต้น | 3/12/2022 |
3/9/2022 | วันนี้อบรมแปลงเกษตรอินทรีย์ | 3/9/2022 |
3/9/2022 | เรียนรู้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SDGsPGS | 3/9/2022 |
3/9/2022 | เรียนรู้การทำปุ๋ย อย ปุ๋ยหมักชีวภาพ | 3/9/2022 |
3/9/2022 | เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างพื้นที่ความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียน ปริมาณ และคุฯภาพอาหารภาคการผลิตต้นน้ำ | 3/9/2022 |
รายละเอียดต้นทุนแปลง
ระบบจะแสดงข้อมูลเฉพาะ 20 กิจกรรมล่าสุด
วันที่ปฏิบัติ | รายละเอียด | จำนวน | วันที่เพิ่ม |
09/03/2565 | ค่าปุ๋ย/มูลสัตว์ ซื้อมูลวัว | 50 | 09/03/2565 |
รายละเอียดการใช้ปัจจัยการผลิต
ระบบจะแสดงข้อมูลเฉพาะ 20 กิจกรรมล่าสุด
วันที่ปฏิบัติ | วันที่เพิ่ม | ชื่อปัจจัยการผลิต | แหล่งผลิต | ปริมาณที่ใช้ | วิธีการใช้ | วัตถุประสงค์ที่ใช้ |
ไม่พบข้อมูล |
ประวัติการตรวจประเมินแปลง มาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม SDGsPGS
หมายเลขตรวจ : 15277 วันที่ตรวจ : 09/03/2565 เวลา 10.30-11.00
หัวหน้าทีมตรวจแปลง :
สนธิกาญจน์ วิโสจสงครามสรุปผลการตรวจประเมินแปลง
ข้อที่ 1 MUST เกษตรกรต้องแจ้งพื้นที่ทำการเกษตรที่ตัวเองครอบครองให้ผู้ตรวจทราบ ไม่ว่าจะใช้ประโยชน์หรือไม่ใช้ประโยชน์/เช่า/มีหรือไม่มีโฉนดที่ดินก็ตามข้อที่ 2 MUST แปลงเกษตรทุกแปลงจะต้องทำในระบบเกษตรกรรมยั่งยืนทั้งหมด ภายในระยะเวลา 3 ปี อนุญาตให้ทดลองทำบางแปลงได้ใน 3 ปีแรก
ข้อที่ 3 RECOMMEND เกษตรกรควรวัดค่าและปรับค่า pH ของดินตามประเภทของพืชที่ต้องการปลูก ควรนำดินและน้ำไปทำการตรวจวัดธาตุอาหารในดิน หรือสารเคมีตกค้างทุกปี
ข้อที่ 4 MUST - พืชที่ปลูกในแปลงเคมีจะต้อง ไม่ขอรับรอง อนุญาตให้เป็นแปลงคู่ขนานได้ แต่พืชที่ขอรับรองในแปลงเกษตรกรรมยั่งยืนจะต้องไม่เหมือนกับแปลงเคมี เกษตรกรต้องจัดแยกผลผลิตจากแปลงเกษตรกรรมยั่งยืนชัดเจน ทั้งระยะปรับเปลี่ยนและระยะที่ได้รับการรับรองแล้วให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มี QR code ติดกับผลผลิต
ข้อที่ 5 MUST - คันแดนแปลงเกษตรกรรมยั่งยืน จะต้องแยกจากแปลงเคมีอย่างชัดเจนอย่างน้อยระยะห่าง 3 - 5 เมตร และถ้าแปลงข้างเคียงมีความเสี่ยงการปนเปื้อนสารเคมี เกษตรกรจะต้องจัดทำแนวกันชน (ปรับคันดินและปลูกพืช) ป้องกันการปนเปื้อน ทั้งนี้ พืชตามแนวกันชนไม่ขอรับรอง
ข้อที่ 6 MUST - ห้ามปลูกข้าวในแปลงเกษตรเกษตรกรรมยั่งยืนที่ขอรับรองมากกว่า 2 รุ่นต่อปี ควรพักดินหรือปลูกพืชเป็นปุ๋ยพืชสดเพื่อปรับปรุงดิน
ข้อที่ 7 RECOMMEND - เกษตรกรควรปลูกข้าวและพืชผักไว้กินเอง เพื่อความมั่นคงทางด้านอาหาร และสุขภาพที่ดีของครอบครัว
ข้อที่ 8 RECOMMEND - เกษตรกรอาจขายข้าวเปลือกที่ปลูกในแปลงนา หรือแปลงรกร้างว่างเปล่า ที่ไม่มีการใช้สารเคมีเกษตรใดๆ (โดยไม่มีความเสี่ยง) เป็นเกษตรกรรมยั่งยืน SDGsPGS ได้หลังจากผ่านการรับรองจากคณะกรรมการระดับจังหวัด ทั้ง 22 ข้อ เป็นเวลา 36 เดือน
ข้อที่ 9 RECOMMEND - ในกรณีของผักผลไม้และสมุนไพร เกษตรกรอาจขายผลผลิตที่ปลูกในแปลงสวน หรือแปลงรกร้างว่างเปล่า ที่ไม่มีการใช้สารเคมีเกษตรใดๆ (โดยไม่มีความเสี่ยง) เป็นเกษตรเกษตรกรรมยั่งยืน SDGsPGS ได้หลังจากผ่านการรับรองจากคณะกรรมการระดับจังหวัด ทั้ง 22 ข้อ เป็นเวลา 36 เดือน
ข้อที่ 10 RECOMMEND ปศุสัตว์ที่เลี้ยงในแปลงเกษตรกรรมยั่งยืนสามารถรับรองเป็นปศุสัตว์อินทรีย์ได้หากอาหารที่เลี้ยงเป็นอาหารอินทรีย์ หากเป็นอาหารระยะปรับเปลี่ยน ให้รับรองเป็นปศุสัตว์ อารมณ์ดี หรือระยะปรับเปลี่ยนสู่ปศุสัตว์อินทรีย์ตามระยะเวลาปรับเปลี่ยนด้วยอาหารเป็นเวลา 36 เดือน
ข้อที่ 11 RECOMMEND หลีกเลี่ยงการใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีการคลุกสารเคมีและไม่ทราบแหล่งที่มาชัดเจน เกษตรกรควรผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว/ผัก/ผลไม้ไว้ใช้เอง รวมถึงทราบแหล่งที่มาชัดเจน ในกรณีที่ไม่สามารถหาเมล็ดพันธุ์ที่ไม่คลุกสารเคมีได้ และถ้าจำเป็นต้องใช้เมล็ดพันธุ์ที่คลุกสารเคมีให้นำเมล็ดพันธุ์ไปล้างน้ำอุ่น น้ำหมักชีวภาพ หรือสารชีวภัณฑ์ที่ไม่ละเมิดมาตรฐาน ก่อนนำไปเพาะปลูก
ข้อที่ 12 MUST - ห้ามเกษตรกรใส่ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ฮอร์โมนเร่ง สารเคมีสังเคราะห์ ห้ามใช้ปัจจัยการผลิตหรือปุ๋ยอินทรีย์ยี่ห้อที่ไม่ทราบส่วนผสมและไม่มีมาตรฐานเกษตรอินทรีย์รับรอง ก่อนได้รับอนุญาตจากกลุ่มและเครือข่ายในพื้นที่นั้น
ข้อที่ 13 MUST -ห้ามเผาตอซังและอินทรียวัตถุในแปลงเกษตรกรรมยั่งยืนที่ขอรับรอง
ข้อที่ 14 MUST -ห้ามใช้ถังฉีดสารเคมีการเกษตรทั่วไปร่วมกับแปลงเกษตรกรรมยั่งยืน
ข้อที่ 15 RECOMMEND - ให้ระมัดระวัง อย่าให้สารเคมีที่ใช้ในบ้านเรือน มาปนเปื้อนในแปลงเกษตรกรรมยั่งยืน
ข้อที่ 16 MUST ห้ามนำผลผลิตจากแปลงเกษตรกรรมยั่งยืนไปปะปนกับผลผลิตแปลงเกษตรกรรมยั่งยืนระยะปรับเปลี่ยนและแปลงเกษตรทั่วไป ต้องจัดแยกผลผลิตแต่ละสถานะออกจากกันอย่างชัดเจน (ระยะเคมีทั่วไป/ระยะปรับเปลี่ยน/ระยะเกษตรกรรมยั่งยืน) ให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
ข้อที่ 17 MUST - เกษตรกรที่ใช้รถเกี่ยวอุ้มหรือเกี่ยวนวดจะต้องทำความสะอาดรถเกี่ยวอุ้มก่อนนาไปใช้ และแยกข้าวที่ใช้ล้างเครื่องรถเกี่ยวอุ้ม หรือเกี่ยวนวด จำนวน 3 กระสอบแรก (ข้าวล้างเครื่อง) ไม่ถือว่าเป็นข้าวเกษตรกรรมยั่งยืน
ข้อที่ 18 MUST - ห้ามใช้กระสอบปุ๋ยเคมีและภาชนะที่อาจมีสารเคมีปนเปื้อนมาใช้เพื่อจัดเก็บและขนส่งผลผลิตเกษตรเกษตรกรรมยั่งยืน ถุงและภาชนะที่ใช้ต้องสะอาด เหมาะที่จะใช้บรรจุปัจจัยการผลิต/ขนส่งอาหาร
ข้อที่ 19 RECOMMEND - เกษตรกรควรมีโอกาสตรวจเลือดเพื่อวัดระดับสารเคมีในร่างกายว่าอยู่ในระดับที่ไม่ปลอดภัยหรือมีความเสี่ยงหรือไม่ เพื่อนำไปปรับพฤติกรรมในการผลิตและบริโภคให้สอดคล้องกับหลักความมั่นคงทางอาหาร โภชนาการและเกษตรกรรมที่ยั่งยืน
ข้อที่ 20 RECOMMEND - เกษตรกรที่เป็นสมาชิกโครงการฯ จะต้องร่วมกันพัฒนากลุ่ม ร่วมกันลงหุ้น เข้าร่วมประชุมมีส่วนร่วมในกิจกรรมของกลุ่มทุกครั้ง การขาดการเข้าร่วมประชุมมากกว่า 3 ครั้งเกษตรกรอาจถูกตัดสิทธิการเป็นสมาชิกของกลุ่มได้
ข้อที่ 21 MUST เกษตรกรต้องจัดทำบันทึกฟาร์ม บัญชีฟาร์ม สมุดเยี่ยมฟาร์ม โดยละเอียด จะต้องนำมาให้ผู้ตรวจแปลงพิจารณาว่ามีความเสี่ยงจากการปนเปื้อนสารเคมีสังเคราะห์ในปัจจัยการผลิตและกิจกรรมที่ทำหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในการใช้เป็นหลักฐานขอรับรองมาตรฐานระดับสากลควบคู่กันไปด้วย
ข้อที่ 22 MUST เกษตรกรยินยอมให้มีการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดแปลงและผลการตรวจแปลงเท่าที่จำเป็น ภายในเครือข่ายฯ และคณะกรรมการรับรองระดับจังหวัดที่ขับเคลื่อนมาตรฐานเกษตรกรรมยั่งยืน SDGsPGS เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลเป็นสาธารณะและเพื่อการค้าขายข้อมูลโดยเด็ดขาด
ผลการกลั่นกรองของคณะทำงานกลั่นกรองระดับจังหวัด
รอผลการกลั่นกรองระดับจังหวัด
ผลการรับรองคณะกรรมการรับรองระดับจังหวัด
รอสรุปผลการรับรองระดับจังหวัด
ข้อมูลแผนการผลิตเกษตรอินทรีย์ ประจำปี 2567
สนใจสินค้าสามารถโทรสั่งซื้อได้ที่ สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนสงขลา
ประเภท | ชื่อแปลง | วันที่เริ่มปลูก | จำนวน(กก.) | |
ไม่พบข้อมูลแผนการผลิต |